realme 8 Series เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศอินเดียไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในบ้านเราอย่างเป็นทางการวันที่ 21 เมษายนนี้กับ realme 8 ที่มาพร้อมสโลแกน “เก็บภาพไม่มีที่สิ้นสุด” และ realme 8 5G ที่มาพร้อมสโลแกน “ความเร็วไร้ขีดจำกัด” โดยรุ่นหลังถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลกด้วย
โดยทาง MobileOcta ก็ได้เครื่องมาพรีวิวแกะกล่องให้คุณผู้อ่านได้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิดตัว เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปชมกันเลยครับว่า realme 8 และ realme 8 5G จะสวยงามแค่ไหน และมีฟีเจอร์เด่นอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
สเปกเบื้องต้น realme 8
ขนาด |
160.6 x 73.9 x 7.99 มม. |
น้ำหนัก |
177 กรัม |
หน้าจอ |
Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (441 ppi) ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 90.8% โดยมีอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 180Hz และความสว่างสูงสุด 1000 nits |
หน่วยประมวลผล |
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.05GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Helio G95 (12 nm) และหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G76 MC4 |
RAM |
8GB แบบ LPDDR 4x |
หน่วยความจำภายในเครื่อง |
128GB แบบ UFS 2.1 |
microSD Card |
สูงสุด 256GB |
ระบบปฏิบัติการ |
Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0 |
เชื่อมต่อ |
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot |
กล้องถ่ายภาพ |
กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED |
รองรับระบบ |
3-card Slot |
แบตเตอรี่ |
5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 30W Dart Charge |
สี |
Cyber Silver และ Cyber Black |
ราคา |
XX,XXX บาท |
สเปกเบื้องต้น realme 8 5G
ขนาด |
162.5 x 74.8 x 8.5 มม. |
น้ำหนัก |
185 กรัม |
หน้าจอ |
90Hz Ultra Smooth Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (405 ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 90.5% โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 180Hz และความสว่างสูงสุด 600 nits |
หน่วยประมวลผล |
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek MT6833 Dimensity 700 5G (7 nm) และหน่วยประมวลผลกราฟิก |
RAM |
8GB แบบ LPDDR 4x |
หน่วยความจำภายในเครื่อง |
128GB แบบ UFS 2.1 |
microSD Card |
สูงสุด 256GB |
ระบบปฏิบัติการ |
Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0 |
เชื่อมต่อ |
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot |
กล้องถ่ายภาพ |
กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED |
รองรับระบบ |
3-card Slot |
แบตเตอรี่ |
5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W |
สี |
Supersonic Blue และ Supersonic Black |
ราคา |
XX,XXX บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 8 และ realme 8 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งในโทนสีเหลือง สีเอกลักษณ์ของแบรนดฺ์ realme โดยด้านหน้ากล่องและด้านข้างมีชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน
ด้านหลังกล่องของ realme 8 ระบุสเปกเด่น 6 อย่างด้วยกันคือ หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Fullscreen ขนาด 6.4 นิ้ว, กล้องหลัง 4 ตัว 64MP AI Quad Camera, บางเแียบและเบา Super Slim & Light, ชิปเซ็ทเกมมื่ง Helio G95, ชาร์จเร็ว 30W Dart Charge และแบตเตอรี่ความจุ
ส่วน realme 8 5G ระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกันคือ ชิปเซ็ท Dimensity 700 5G, หน้าจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth Display, โหมดประหยัดพลังงาน Smart 5G Power Saving และกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Nightscape
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง realme 8 และ realme 8 5G ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
อุปกรณ์ภายในกล่อง realme 8 มีดังนี้
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 30W Dart Charger
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- เคสพลาสติก TPU แบบใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
อุปกรณ์ภายในกล่อง realme 8 5G มีดังนี้
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 18W
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- เคสพลาสติก TPU แบบใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 30W Dart Charger สำหรับ realme 8
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 18W สำหรับ realme 8 5G
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
เริ่มจาก realme 8 มาพร้อมการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นยุคดิจิทัลและความล้ำสมัย ออกแบบแบบแยกส่วนและการประกบกัน โดยฝาหลังของตัวเครื่องจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือส่วนของความเป็นดิจิทัล ที่มีความแวววาวสื่อถึงความล้ำสมัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ดีไซน์บางเฉียบ ยังให้ความรู้สึกบางและเบา ด้วยน้ำหนักเพียง 177 กรัม และความหนาน้อยกว่า 8 มม. โดยมัให้เลือก 2 สีคือ Cyber Silver และ Cyber Black
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (441 ppi) ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 90.8% โดยมีอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงถึง 180Hz เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้นขณะเล่นเกม
นอกจากนี้ยังมีโหมดแสงแดดที่สูงถึง 1,000 nits สามารถมองเห็นหน้าจอได้แม้ในสภาพแสงแดดจัด หน้าจอแสดงผลยังรองรับฟังก์ชั่นลดแสงเหมือน DC และโหมดป้องกันดวงตาช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มุมซ้ายด้านบนของหน้าจอติดตั้งกล้อง In-display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รูรับแสง f/2.45 และเลนส์ 5P
พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera โดยเรียงเป็นคู่ พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 64MP Quad Camera อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมมุมซ้ายด้านบน
โดยกล้อง 4 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.73″, ขนาดพิกเซล 0.8µm, เลนส์ 6P และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3. เลนส์ 5P และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot แบ่งเป็นช่องแรกใส่ SIM Card แบบ nanoSIM และช่องที่ 2 ใส่ SIM Card แบบ nanoSIM และช่องที่ 3 ใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ส่วน realme 8 5G มีดีไซน์บางเฉียบเพียง 8.5 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 185 กรัม มอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายในทุกครั้งที่ได้สัมผัส และฝาหลังออกแบบด้วยความเร็วของแสงแบบไดนามิก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Fast and Furious โดยมาจากเส้นแสงไฟหน้ารถที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็น Dynamic Speed Light เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกของแสงเมื่อแสงตบกระทบไปยังสมาร์ตโฟน
realme 8 5G มีให้เลือก 2 สีคือ Supersonic Blue ใช้กระบวนการชุบอินเดียมไฮกลอส เพื่อคืนความสว่างเป็นประกาย และSupersonic Black ใช้กระบวนการรูปแบบ lenticular เพื่อนำเสนอเอฟเฟกต์กระจกเงาระดับพรีเมี่ยมเพื่อดึงความรู้สึกของแสงออกมาให้ดีขึ้น
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ 90Hz Ultra Smooth Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (405 ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 90.5% โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 180Hz รับประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่น และความสว่างสูงสุด 600 nits พร้อมรองรับ 16.7 ล้านสีในการแสดงผล
มุมซ้ายด้านบนของหน้าจอติดตั้งกล้อง In-display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล AI Beauty Selfie รูรับแสง f/2.1 และเลนส์ 5P
พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 48MP AI Camera อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมมุมซ้ายด้านบน
โดยกล้อง 3 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล Ultra HD รูรับแสง f/1.8, เลนส์ 6P และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และเลนส์ 3P
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร และเลนส์ 3P
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot แบ่งเป็นช่องแรกใส่ SIM Card แบบ nanoSIM และช่องที่ 2 ใส่ SIM Card แบบ nanoSIM และช่องที่ 3 ใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง พร้อมฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่มนี้
ด้านบนเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดหรือช่องใดๆ
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ทั้งนี้ realme 8 Series มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 21 เมษายน 2564 ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ รวมถึงราคา และโปรโมชั่น สามารถติดตามได้ในรีวิวฉบับเต็มเร็วๆ นี้ครับ