หลังจากเปิดตัวที่ประเทศจีนไปเมื่อช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมาสำหรับ OPPO Reno5 Series 5G ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในบ้านเราอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 มกราคมนี้กับ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G สองสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล Reno Series ที่มาพร้อมสโลแกน Picture Life Together กับฟีเจอร์ที่มาต่อยอดการถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตที่สวยไม่เหมือนใคร รวมถึงมีดีไซน์โดดเด่นอีกด้วย
โดยทาง IbelieveIT ก็ได้เครื่องมาพรีวิวแกะกล่องให้คุณผู้อ่านได้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิดตัว เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปชมกันเลยครับว่า OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G จะสวยแค่ไหน และมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
สเปกเบื้องต้น OPPO Reno5
ขนาด | 159.1 x 73,3 x 7.7 มม. (Starry Black) 159.1 x 73,3 x 7.8 มม. (Fantasy Silver) |
น้ำหนัก | 171 กรัม |
หน้าจอ | AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (410 ppi) ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 91.7% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 180Hz และความสว่าง 430 nits |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7250 Snapdragon 765G (7 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 620 |
RAM | 8GB แบบ LPDDR 4x |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB แบบ UFS 2.1 |
microSD Card | สูงสุด 256GB |
ระบบปฏิบัติการ | OxygenOS 11 based on Android 11.1 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot Bluetooth 5.1, A2DP, LE GPS with A-GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BDS ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C, USB On-The-Go |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบ PDAF – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 – กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม SIM card 1 2G: GSM 850/900/1800/1900MHz 3G: WCDMA bands 1/5/84G: TD-LTE bands 38/40/41 (194MHz) 4G: LTE FDD bands 1/3/5/7/8/20/28 SIM card 2 2G: GSM 850/900/1800/1900MHz 3G: WCDMA bands 1/5/84G: TD-LTE bands 38/40/41 (194MHz) 4G: LTE FDD bands 1/3/5/7/8/20/28 |
แบตเตอรี่ | 4,310mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 50W Flash Charging |
สี | Fantasy Silver และ Starry Black |
ราคา | XX,XXX บาท |
สเปกเบื้องต้น OPPO Reno5 5G
ขนาด | 159.1 x 73.4 x 7.9 มม. |
น้ำหนัก | 172 กรัม (Starry Black) และ 180 กรัม (Galactic Silver) |
หน้าจอ | AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (410 ppi) ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 91.7% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 180Hz และความสว่าง 430 nits |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7250 Snapdragon 765G (7 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 620 |
RAM | 8GB LPDDR 4x |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB แแบบ UFS 2.1 |
microSD Card | – |
ระบบปฏิบัติการ | OxygenOS 11 based on Android 11.1 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot GPS dual-band A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบกันสั่น EIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 – กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม SIM Card 1 2G:GSM: 850/900/1800/1900MHz 3G:WCDMA: Bands 1/2/4/5/6/8/19 4G:FDD-LTE: Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/17/18/19/20/26/28/66 4G:TD-LTE: Bands 38/39/40/41 5G SA: n1/3/7/28/41/78 5G NSA: n77/78/38/40/41/1/3/5/7/8/20/28 BlockA&BlockB SIM Card 2 2G:GSM: 850/900/1800/1900MHz 3G:WCDMA: Bands 1/2/4/5/6/8/19 4G:FDD-LTE: Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/17/18/19/20/26/28/66 4G:TD-LTE: Bands 38/39/40/41 |
แบตเตอรี่ | 4,300mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 |
สี | Galactic Silver และ Starry Black |
ราคา | XX,XXX บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G มาในดีไซน์โฉมใหม่ โดยมาในโทนสีฟ้าอมเขียวตัดกับสีดำ ด้านหน้ากล่องมีเลข 5 ขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนด้านล่างระบุชื่อรุ่น OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G บอกให้รู้ว่าเป็นรุ่นไหน
ด้านหลังกล่องเรื่มจากตรงกลางด้านบนมีข้อความที่ยืนยันว่า OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ จาก Google ได้อย่างสะดวกง่ายดาย ถัดลงมาติดฉลากแสดงข้อมูลเครือข่าย หมายเลขอีมี่ และข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิต รวมไปถึงสัญลักษณ์จากหลายหน่วยงาน ที่ให้การรับรองมาตรฐานต่างๆ
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง OPPO Reno5 หรือ OPPO Reno5 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- ชุดหูฟัง 3.5 มม.
- เคสพลาสติกใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ที่มีมาให้ในกล่องทั้ง OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
เริ่มจาก OPPO Reno5 มาในดีไซน์บางเบาสวยหรู โดยมีน้ำหนักเพียง 171 กรัม และมีความหนาเพียง 7.7 มม. สำหรับสี Starry Black ส่วนสี Fantasy Silver มีความหนา 7.8 มม. นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ COF ยังทำให้ขอบใต้หน้าจอมีขนาดลดลงเหลือ 3.98 มม. จากเดิม 5.53 มม. ใน OPPO Reno4 ซึ่งมอบประสบการณ์การแสดงผลแบบ edge-to-edge display ที่สมจริงยิ่งขึ้น
โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Fantasy Silver ที่มาในพื้นผิวสีเงินสุดแฟนตาซีที่ชวนให้หลงใหล ด้วยเทคโนโลยี Diamond Spectrum Process ใหม่ล่าสุด ทำให้เกิดเป็นเฉดสีใหม่นับพันสีบนฝาหลังของเครื่อง หากมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน จะสามารถแบ่งสีได้อย่างชัดเจนทั้งหมด 5 สีได้แก่ สีเขียว สี เหลือง สีฟ้า สีม่วง และสีส้ม
นอกจากนี้ด้วยเอฟเฟกต์ Reno Glow อันเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO ก็ยิ่งทำให้สี Fantasy Silver ใน OPPO Reno5 เปล่งประกายระยิบระยับพร้อมรายละเอียดสีที่แวววาวบนฝาหลัง ดั่งมีเพชรนับล้านถูก ฝังอยู่ในนั้น และยิ่งไปกว่านั้นการเคลือบผิวด้านบนฝาหลัง ช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้น้อยลงอีกด้วย
กับสี Starry Black (สีที่ได้มารีวืว) ซึ่งเป็นสีที่ให้ความรู้สึกราวกับการเห็นเงาสะท้อนของดวงดาวที่ตกกระทบในทะเลสาบ สีของตัวเครื่องจะไม่ดำสนิท แต่จะเผยให้เห็นแสงแวววับจางๆ ที่ส่องประกายผ่านค่ำคืนที่มืดสนิท
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และด้วยดีไซน์หน้าจอแบบ Punch-hole Display จึงทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 91.7% ไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ หรือเล่มเกม ก็มองได้กว้าง คมชัดเต็มตา
พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera โดยด้านซ้ายมีเลนส์กล้องขนาดใหญ่ 3 เลนส์วางเรียงในแนวตั้ง ส่วนด้านขวามีเลนส์ขนาดเล็ก พร้อมข้อความ 64MP AI QUAD-CAM และไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ OPPO
โดยกล้อง 4 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 4 ซม.
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ส่วน OPPO Reno5 5G เป็นสมาร์ตโฟน 5G ดีไซน์สวยหรูที่บางเบาพิเศษเพียง 7.9 มม. โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 172 กรัมในสี Starry Black และ 180 กรัมในสี Galactic Silver นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ COF ยังทำให้ขอบใต้หน้าจอมีขนาดลดลงเหลือ 3.98 มม. มอบประสบการณ์การแสดงผลแบบ edge-to-edge display ที่สมจริงยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับฝาหลังโค้งแบบ 3 มิติและขอบหน้าจอ 2.5D ตลอดจนการออกแบบที่ประณีต ทำให้ OPPO Reno5 5G ถือจับใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Galactic Silver (สีที่ได้มารีวิว) พื้นผิวสีเงินสุดแฟนตาซีที่ชวนให้หลงใหล ด้วยเทคโนโลยี Diamond Spectrum Process ใหม่ล่าสุด ทำให้เกิดเป็นเฉดสีใหม่นับพันสีบนฝาหลังของตัวเครื่อง และหากมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน จะสามารถเห็นสีได้อย่างชัดเจนทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง และสีส้ม
นอกจากนี้ด้วยเอฟเฟกต์ Reno Glow ทำให้สี Galactic Silver ใน OPPO Reno5 5G เปล่งประกายระยิบระยับพร้อมรายละเอียดสีที่แวววาวบนฝาหลัง ดั่งมีเพชรนับล้านถูกฝังอยู่ในนั้น และการเคลือบผิวด้านบนฝาหลัง ยังช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้น้อยลงด้วย
กับสี Starry Black ซึ่งเป็นสีที่ให้ความรู้สึกราวกับการเห็นเงาสะท้อนของดวงดาวที่ตกกระทบในทะเลสาบ สีของตัวเครื่องจะไม่ดำสนิท แต่จะเผยให้เห็นแสงแวววับจางๆ ที่ส่องประกายผ่านค่ำคืนที่มืดสนิท แสดงถึงความมีรสนิยมและความอ่อนโยนได้เป็นอย่างดี
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และด้วยดีไซน์หน้าจอแบบ Punch-hole Display จึงทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 91.7% ไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ หรือเล่มเกม ก็มองได้กว้าง คมชัดเต็มตา
พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera โดยด้านซ้ายมีเลนส์กล้องขนาดใหญ่ 3 เลนส์วางเรียงในแนวตั้ง ส่วนด้านขวามีเลนส์ขนาดเล็ก พร้อมข้อความ 64MP AI QUAD-CAM และไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ OPPO
โดยกล้อง 4 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 4 ซม.
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ส่วนด้านข้างเครื่องของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G จะมีปุ่มกดที่วางอยู่ตำแหน่งเหมือนกัน เริ่มจากด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ SIM Card กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
โดยช่องใส่ SIM Card ของ OPPO Reno5 จะเป็นแบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่องแบบ microSD Card รองรับสูงสุด 256GB
ขณะที่ช่องใส่ SIM Card ของ OPPO Reno5 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน OPPO Reno5 Series 5G
OPPO Reno 5 และ OPPO Reno5 5G มาพร้อมโหมดการถ่ายวิดีโอ Portrait ใหม่ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างวิดีโอ Portrait ที่สวยเด่นไม่เหมือนใครได้ง่ายๆ อาทิ
AI Mixed Portrait มีใน OPPO Reno5 โดยเป็นการนำเอา Double Exposure Effect มาใช้ในการถ่ายวิดีโอ โดยฟีเจอร์นี้สามารถนำวิดีโอ Portrait มาซ้อนทับวิดีโออื่นด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์วิดีโอที่เหนือกว่า พร้อมให้ความรู้สึกสุนทรียะที่สวยงาม โดยฟีเจอร์นี้สามารถแสดงตัวอย่างวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอได้เหมือนที่ตาเห็น
Dual-view Video มีทั้งใน OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G โหมดนี้สามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกันและรองรับรูปแบบการแบ่งหน้าจอที่แตกต่างกันได้ถึงสามแบบคือ Split, Round และ Rectangle
AI Highlight Video มีทั้งใน OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G เป็นฟีเจอร์ที่สามารถเพิ่มคุณภาพของวิดีโอให้คมชัด สว่าง และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายวิดีโอในที่ที่มีแสงน้อยหรือย้อนแสง AI Highlight Video จะใช้อัลกอริทึม Ultra Night Video ช่วยปรับความสว่าง ความอิ่มสี และความคมชัด ทำให้วิดีโอคมชัดเมื่อบันทึกจากในที่แสงน้อย โดยรองรับทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
OPPO Reno 5 และ OPPO Reno5 5G มาพร้อมจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อมอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุด 180Hz ทำให้เล่นเกมหรือดูคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล และสามารถตั้งค่าที่รีเฟรชเรท 60Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้
OPPO Reno5 5G รองรับ 5G ที่เร็วแรงและลื่นไหล พร้อมใช้งาน 5G ในประเทศไทยได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง โดยรองรับคลื่นความถี่ n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n41/n77/n78
OPPO Reno 5 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,310mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 50W Flash Charging ที่ชาร์จเพียง 5 นาที ก็ดูวิดีโอต่อเนื่องได้ถึง 3 ชั่วโมง และชาร์จ 0-100% ภายในเวลาเพียง 48 นาที
ส่วน OPPO Reno5 5G มาพร้อมแบคเตอรี่ความจุ 4,300mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ที่ชาร์จเพียง 15 นาที ก็ได้แบตถึง 60% และชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียงแค่ 35 นาที
โปรโมชั่นของแถมพรีออเดอร์
สำหรับผู้ที่สั่งจอง OPPO Reno5 ล่วงหน้าจะได้รับของแถมได้แก่ เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale และ E-VIP Card
ส่วนผู้ที่สั่งจอง OPPO Reno5 5G ล่วงหน้าจะได้รับของแถมได้แก่ เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale, Bluetooth Speaker และ E-VIP Card
ทั้งนี้ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G จะเปิดตัวทางการในประเทศไทยในวันที่ 26 มกราคม 2564 เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ดังนี้
- Facebook: https://www.facebook.com/oppothai/
- YouTube: https://www.youtube.com/user/oppothai
- Line: https://page.line.me/oppothai