สัมผัสไฮไลท์เด่น Vivo V15 “ฟีเจอร์กล้อง” ที่ชวนให้ตกหลุมรัก !!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 1K views

หลังจากเปิดตัว V15 Series มาได้สักพัก กระแสตอบรับนั้นเป็นไปตามคาด โดยได้รับการต้อนรับอย่างล้มหลามจากแฟน ๆ ค่ายวีโว่ และผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวย เซลฟี่เด่น ซึ่งทั้ง V15Pro และน้องเล็ก V15 นั้นจัดเต็มทั้งด้านนวัตกรรม รวมไปถึงดีไซน์และคุณภาพจากกล้องหน้า/หลัง ที่ต้องบอกเลยว่าสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย และวันนี้ ibelieveit จะพาไปสัมผัสไฮไลท์เด่นของกล้อง V15 ที่จะชวนให้ตกหลุมรักและอยากจับจองเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสุดครบเครื่องในราคาที่เอื้อมถึง

 

User Interface หรือเมนูกล้องของ Vivo V15 ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงและเรียกใช้งานได้อย่างสะดวกคล่องตัว ผู้ใช้งานสามารถใช้การปัดนิ้วไปทางซ้าย/ขวาของหน้าจอเพื่อเข้าสู่โหมดการถ่ายต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

ส่วนด้านบนของเมนูจะเป็นไอคอนที่เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้อง อาทิเช่น เปิด/ปิดการใช้งานแฟลช, โหมด HDR, AI Portrait Lighting, LIVE PHOTO, และการตั้งค่าโดยรวมของกล้อง

สำหรับโหมดการถ่ายจะประกอบไปด้วย DOC, PRO, PANO, NIGHT, AI BEAUTY, PHOTO, VIDEOS, AR STICKERS

ส่วนการตั้งค่าหลักจะเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกในการใช้งาน อาทิเช่น การตั้งอัตราส่วนของภาพ, การสั่งถ่ายด้วยวิธีแตะหน้าจอ, ถ่ายด้วยคำสังเสียง และฝ่ามือ, เลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ต้องการบันทึก, การใส่ลายน้ำ, ปิดเสียงชัตเตอร์, ระบุ GPS, เลือกระดับความละเอียด, ตารางจุดตัด,  AI Portrait Framing, AI Scene Identification และเสียงเอกเฟต์ในการเลื่อนสไลด์กล้องหน้า

 

กล้องหน้า Pop Up ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล 

กล้องหน้าของ V15 มาพร้อมความละเอียดจัดเต็มถึง 32 ล้านพิกเซล แน่นอนว่าจุดขายยังคงเป็น AI Face Beauty ที่สามารถใช้ความฉลาดจาก AI มาช่วยให้การถ่ายเซลฟี่มีความสนุกและได้ผลลัพธ์อันน่าประทับใจ แถมยังมีโหมด 3D Face Shaping ที่สามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, ริมฝีปากอิ่ม, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว เป็นต้น

 

ทดสอบกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลในโหมด Auto ที่ยังไม่ผ่านการปรับแต่งใด ๆ ภาพที่ได้มีความคมชัด ใสเคลียร์ สกินโทนมีความเป็นธรรมชาติและจัดการเรื่องไวท์บาลานซ์ได้ดีมาก

AI Face beauty

เมื่อเปิดใช้งาน AI Face Beauty ภาพที่ได้ดูสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ เช่นสีของแก้มและลิปสติกเป็นต้น รวมไปถึงโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ

สำหรับโหมด AI Face Beauty ตัวระบบ AI จะคำนวนความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ โดยภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI ค่อนข้างดูลงตัวเป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในทุกสถานการณ์ ต้องยอมรับเลยว่าคุณภาพ Hardware กล้องและ AI ของ V15 นั้นทำผลงานร่วมกันได้ลงตัวมาก ๆ

 

นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง

 

Portrait light effects

ฟีเจอร์ Portrait light effects จะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเซลฟี่ และการถ่าย Portrait ด้วยกล้องหน้าและหลัง ซึ่งจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม โดยอัลกอริทึม AI ของ V15 จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ  Natural light, Studio Light, Stereo Light, Loop Light, Rainbow light, และ Monochrome background

 

ทดสอบฟีเจอร์ Portrait light effects

Natural light

 

Studio Light

 

Stereo Light

 

Loop Light

 

Rainbow light

 

Monochrome background

 

Portrait light effects + AI Face beauty

และฟีเจอร์ Portrait light effects ยังสามารถใช้งานร่วมกับโหมดบิวตี้ได้อีกด้วย

 

ทดสอบด้วยการเปิดใช้งานโหมดบิวตี้แบบปรับแต่งเอง โดยปรับให้ดวงตากลมโตและคางเรียวลงมาอีกนิด เมื่อบวกกับฟีเจอร์ Portrait light effects ก็จะได้ภาพที่สวยงาม ดูน่าตื่นตาตื่นใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น

 

AI Selfie HDR

AI Selfie HDR ประโยชน์ของโหมดนี้ก็คือ เมื่อเราถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างมาก ๆ หรือเมื่อย้อนแสง ถ้าเปิด HDR จะช่วยในเรื่องการเกลี่ยสภาพแสงโดยรวมและดึงดีเทลของภาพให้กลับมามีความสมดุล

 

ภาพตัวอย่าง ด้านซ้ายมือปิด HDR เมื่อถ่ายรูปย้อนแสงจะเห็นว่าท้องฟ้าและฉากหลังนั้นสว่างจ้าจนเกินไป ส่วนภาพด้านขวามือเมื่อเปิด HDR แล้วจะมีการเกลี่ยแสงที่สมดุล อีกทั้งยังสามารถดึงรายละเอียดของแบ็คกราวด์กลับมาได้อย่างครบถ้วน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโหมดที่มีประโยชน์และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันของเรา

 

ทดสอบกล้องหน้า Vivo V15 ในที่แสงน้อย

แม้ในที่แสงน้อย V15 ก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเรื่องความคมชัดและไวท์บาลานซ์ที่ยังคงแม่นยำ

ทดสอบกล้องหน้าในที่แสงน้อยพร้อมเปิดใช้งาน Portrait light effects ต้องบอกเลยว่ากล้องหน้าของ V15 ทำผลงานได้น่าประทับใจในทุกสภาพแสง

 

AI Selfie (โหมด Flash)

ไฟแฟลชของกล้องหน้าจะเป็นแบบ Flash on screen หรือใช้แสงจากหน้าจอแสดงผลเป็นไฟแฟลชนั่นเอง ซึ่งไฟแฟลชจากกล้องหน้านั้นช่วยให้การเซลฟี่ในเวลากลางคืนและในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น จากภาพตัวอย่างด้านซ้ายใบหน้าของนางแบบจะมีเงาที่ตกกระทบ เมื่อเปิดแฟลชแล้วจะลบเงาและช่วยให้ภาพดูมีมิติขึ้นอีกด้วย

—————————————————————————————————–

 

กล้องหลัง Triple camera 12 ล้านพิกเซล(24 million photosensitive units)

Vivo V15 มาพร้อมกล้องหลังแบบ Triple camera โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียด 12 พิกเซล กล้องตัวที่สองความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเป็นเลนส์ Ultrawide ใช้ในการถ่ายภาพมุมกว้าง และปิดท้ายด้วยกล้องตัวที่สาม ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เป็น depth sensor ที่ช่วยในเรื่องการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอและโบเก้ของภาพ

นอกจากนี้ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายรูปเป็นเรื่องง่ายแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดี แม้จะไม่มีความรู้ ความชำนาญในด้านการถ่ายรูปมาก่อนก็ตาม  เช่นฟีเจอร์ AI Scene Recognition ที่สามารถตรวจจับวัตถุหรือสภาพแวดล้อมที่อยู่หลังกล้องให้แบบอัตโนมัติ จากนั้นจะทำการแยกประเภทพร้อมปรับตั้งค่าการถ่ายให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ โดยอัตโนมัติ เช่นเราส่องกล้องไปที่อาหาร ก็จะมีไอค่อนรูปอาหารแสดงขึ้นมาในมุมล่างซ้ายของจอแสดงผล จากนั้นตัว AI ก็จะทำการประมวลผลพร้อมปรับแต่งให้ภาพที่ถ่ายออกมาแล้วมีความสมบูรณ์ที่สุด

กล้องหลังของ Vivo V15 นั้นโดดเด่นไม่แพ้กล้องหน้าเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องความคมถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจมาก ๆ ส่วนการจัดการไวท์บาลานซ์ก็ทำได้ดีเช่นกัน ทำให้การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือภาพบุลคลด้วย V15 สามารถตอบทุกโจทย์ได้อย่างลงตัว

 

AI Face beauty (กล้องหลัง)

มีโหมดบิวตี้ให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าทุกประการ ด้วยอัลกอลิทึ่มและ AI อันชาญฉลาด ส่งผลให้การประมวลผลและถ่ายทอดภาพออกมาได้สวยงาม กระจ่างใส มีความเป็นธรรมชาติ

สามารถปรับตั้งค่าโหมดบิวตี้ได้ยืดหยุ่นเหมือนกล้องหน้า อยากเพิ่มจุดไหนเลือกได้ตามต้องการ ในภาพตัวอย่างเลือกปรับแต่งให้ดวงตากลมโตและใบหน้าเรียวยาวขึ้นมาอีกนิด ส่งผลให้โครงสร้างใบหน้าเกิดความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งหลาย ๆ คนสามารถนำไปใช้เพื่อช่วยเสริมจุดบกพร่องบางส่วน พร้อมเติมเต็มความสวยในรูปแบบที่ตรงใจกับผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง

 

AI Body Shaping

AI Body Shaping ที่หลาย ๆ คนต้องชื่นชอบ เพราะสามารถปรับแต่งรูปร่างของเราให้ดูเพรียวบางสมส่วน เช่น ปรับในภาพรวมของรูปร่างหรือเฉพาะจุดที่ต้องการ เช่น ศีรษะ ไหล่ สะโพก ขา หรือเอวให้ดูเล็กลงได้เป็นต้น

โหมด Auto

เปิดใช้ฟีเจอร์ AI Body Shaping

เนื่องจากนางแบบมีรูปร่างที่ค่อนไปทางกะทัดรัด จึงได้ทำการปรับแต่งให้นางแบบขายาวขึ้นมาอีกนิดเพื่อเพิ่มความสูง จากภาพตัวอย่าง ภาพด้านบนใช้โหมด Auto ในการถ่าย ส่วนภาพด้านล่างเปิดใช้งาน AI Body Shaping ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นว่าขาของนางแบบเรามีความเพรียวบางลงและดูสูงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และแน่นอนว่ายังสามารถปรับแต่งได้อีกหลายส่วน เช่นปรับทั้งภาพรวมก็ได้ หรือเลือกปรับเฉพาะจุด เช่น ศีรษะ ไหล่ เอว ขาสะโพกเป็นต้น

สำหรับฟีเจอร์ AI Body Shaping ต้องบอกเลยว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดนใจ “หนุ่ม สาว” คนรุ่นใหม่อย่างแแน่นอน เพราะสามารถทลายข้อจำกัดในการถ่ายรูปแบบเดิม ๆ ที่หลายคนกังวลว่าถ่ายรูปออกมาแล้วจะดูอ้วน ดูแขนใหญ่ สะโพกใหญ่ ฯลฯ  ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย AI Body Shaping ครับ

 

Portrait light effects (กล้องหลัง)

สำหรับกล้องหลัง สามารถใช้งานฟีเจอร์ Portrait light effects ได้เหมือนกล้องหน้า โดยมีเอฟเฟกต์ให้ใช้งาน 5 รูปแบบประกอบไปด้วย

 

  1. Studio Light

2. Stereo Light

3. Loop Light

4. Rainbow light

5. Monochrome background

Portrait light effects (กล้องหลังในที่แสงน้อย)

 

หน้าชัดหลังเบลอด้วย AI Portrait Bokeh

การถ่ายภาพบุคคล จะดูมีความโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น หากกล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นนั้น ๆ สามารถถ่ายภาพได้ในสไตล์กล้อง DSLR ที่รองรับการถ่ายแบบ Depth of Field หรือภาพหน้าชัดหลังเบลอ ได้อย่างเป็นธรรมชาติจากคุณสมบัติของตัว Hardware

แต่สำหรับสมาร์ทโฟนจะใช้ความสามารถทางด้าน Software เป็นหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งค่าย Vivo เอง ก็มีทีเด็ดด้วยโหมด AI Portrait Bokeh  ที่สามารถถ่ายภาพ Portrait ออกมาได้ค่อนข้างน่าประทับใจ

 

สำหรับรูปนี้ใช้โหมด AI Portrait Bokeh ภาพที่ได้มีความโดดเด่นสะดุดตา ทั้งตัวแบบ และฉากหลังที่ละลายได้สวยงาม ขับให้ตัวแบบเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เมื่อเปิดโหมด Portrait Bokeh mode จะเห็นได้ว่าการละลายฉากหลังดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถเก็บดีเทล รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ  อย่างเช่นปรอยผม หรือพวกเส้นขอบของเสื้อผ้าได้ค่อนข้างดีอีกด้วยครับ

 

สำหรับรูปที่ถ่ายด้วยโหมด Portrait จากกล้องหลัง เมื่อเราเปิดดูภาพในแอปอัลบั้ม จะมีรูปสัญลักษณ์ของรูรับแสงและข้อความกำกับ “Bokeh” เมื่อเราแตะที่ข้อความนี้ จะสามารถปรับเลือกจุดโฟกัสรวมไปถึงปรับค่ารูรับแสงตามที่เราต้องการ สำหรับค่ารูรับแสงจากโหมด Portrait จะเป็นการจำลองจาก Software เป็นหลัก

ซึ่งค่าเริ่มต้นที่ f/0.95 อาจจะทำให้ภาพที่ได้ดูลอย ๆ หลอกตาจนเกินไป เมื่อเราปรับค่ารูรับแสงให้แคบลงมาก็จะได้ความเนียนเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ลองดูจากภาพตัวอย่างด้านล่าง โดยมุมภาพจะมีการกำกับบอกไว้ว่าใช้ค่ารูรับแสงที่เท่าไหร่ในแต่ละภาพ

เปรียบเทียบให้ดูถึงการเลือกปรับค่ารูรับแสงในแต่ละช่วง ตั้งแต่ F/0.95 จนไปถึง F/16

F/0.95 – F/1.4 – F/2.0

 

F/2.8 – F/4.0 – F/5.6

 

F/8.0 – F/11 – F/16

AI Portrait Framing

ฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกบน Vivo V11 และ V15 Series ก็มาพร้อมฟีเจอร์ AI Portrait Framing ด้วยเช่นกัน สำหรับฟีเจอร์นี้จะมีหลักการทำงานโดยตรวจจับภาพใบหน้าบุคคลที่อยู่ในเฟรม พร้อมแนะนำการหันกล้องไปในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งก็คือการจัดองค์ประกอบของภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดนั่นเอง ตรงนี้ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพบุคคลได้ดีมาก แม้เราจะถ่ายรูปไม่เก่งก็ตาม

ตัวอย่างภาพที่ใช้งานฟีเจอร์ AI Portrait Framing 

 

ทดสอบกล้องหลังในที่แสงน้อยและการเปิดใช้งาน Flash

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto ไม่เปิดแฟลช

รูปนี้เปิดใช้แฟลชกล้องหลัง โดยเลือกใช้งานรูปแบบ Fill lighting (ฉายแสงแฟลชตลอดเวลา) เพื่อให้ภาพไม่สว่างขาวจนโอเวอร์แบบโหมด Auto Flash ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาพดูมีมิติขึ้น และนอยส์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

 

 AI Super Wide-Angle Camera

อีกหนึ่งจุดขายหลักของซีรีส์ V15 ก็คือกล้องที่มาพร้อม AI Super Wide-Angle  ที่มีมุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 120 องศา ทำให้สามารถเก็บภาพวิวทิวทัศน์ หรือหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป

โหมด Normal

AI Super Wide-Angle Camera มุมมองกว้างพิเศษ

 

โหมด Normal

เปิดใช้งาน AI Super Wide-Angle Camera มุมมองกว้างพิเศษ

 

โหมด Normal

AI Super Wide-Angle Camera มุมมองกว้างพิเศษ

โหมด Normal

AI Super Wide-Angle Camera มุมมองกว้างพิเศษ

 

AI Super Night Mode

AI Night Mode ที่เป็นการถ่ายภาพซ้อนหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง

AI Night Mode ไม่ได้ทำให้ภาพสว่างขึ้นมาเพียงอย่างเดียว แต่ายังช่วยดึงดีเทลรายละเอียดของภาพกลับมาอีกทางหนึ่งด้วย สามารถดูการเปรียบเทียบได้จากภาพตัวอย่าง ซึ่งภาพทางขวามือเมื่อเปิดใช้ AI Night Mode แล้ว ภาพจะดูสว่างขึ้นและเพิ่มรายละเอียดในส่วนที่ขาดหายไปจากภาพด้านซ้าย สังเกตได้จากหลังคาของม้าหมุน ที่เราจะเห็นความชัดเจนของบานกระจกและโครงสร้างในภาพรวม

 

ลองใช้ AI Night Mode ถ่ายภาพบุคคลดูบ้าง ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา จะไม่ได้สว่างเวอร์ แต่จะเป็นการเกลี่ยสภาพแสงโดยรวม พร้อมเก็บรายละเอียดของแบบและแบ็คกราวด์พื้นหลังให้สมดุลกัน

 

โหมด Normal

AI Night Mode

โหมด Normal

AI Night Mode

โหมด Normal

AI Night Mode

 

AI HDR (กล้องหลัง)

 

AR Stickers

AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย

AR Stickers จากกล้องหน้า

AR Stickers จากกล้องหลัง

ตัวอย่าง AR Stickers ในแบบภาพเคลื่อนไหว

 

 

Tips ส่งท้าย แนะนำการตั้งค่าและเทคนิคการถ่ายภาพให้สวยด้วย Vivo V15

1.เปิดใช้งานเส้นกรอบ หรือถ้าพูดในภาษากล้องมันก็คือจุดตัดเก้าช่องนั่นเอง ตรงนี้จะช่วยให้มือใหม่สามารถจัดองค์ประกอบของภาพได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยในเรื่องปัญหาการถ่ายภาพเอียงสำหรับคนที่มีปัญหาด้านสายตา (เปิดใช้งานได้ที่การตั้งค่าของตัวกล้อง)

2.เปิดการใช้หน่วงเวลาในการถ่าย ตรงนี้จะช่วยเรื่องภาพสั่นเบลอได้ในระดับหนึ่ง เพราะเมื่อเรากดไปที่ชัตเตอร์แล้ว ยังมีเวลาเตรียมตัวในการถือกล้องให้นิ่งได้ดีกว่าการกดแล้วถ่ายในทันที

3.สำหรับการถ่ายเซลฟี่ ที่ให้ความสะดวกสบายและภาพไม่สั่น เราสามารถเปิดใช้งาน การถ่ายภาพด้วยคำสั่งเสียง หรือใช้ฝ่ามือเป็นตัวช่วย ซึ่งก็จะส่งผลให้การถ่ายภาพของเรามีความสะดวกสบายและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย

4.เปิดใช้งานฟีเจอร์ AI การระบุฉาก และ AI Portrait Framing  หากเราถ่ายรูปไม่เก่ง ตัว AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีมาก เพราะด้วยความฉลาดในการแยกแยะซีนและจะประมวลผลให้ภาพออกมาตรงกับซีนที่เรากำลังถ่ายอยู่ในขณะนั้นได้ถูกต้องตามความเป็นจริง

 

เป็นอย่างไรกันบ้าง หลังจากได้เห็นความสามารถและฟีเจอร์ที่อัดแน่นของกล้องหน้าและหลังจาก Vivo V15 ที่ขับเคลื่อนด้วย Hardware คุณภาพ และยังมาพร้อมความชาญฉลาดของ AI ที่พัฒนาโดยค่าย Vivo กันไปแล้ว เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงประทับใจในความสามารถและช่วยทำให้ตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของ Vivo V15 สมาร์ทโฟน ครบเครื่องสุดคุ้มกันได้ง่ายขึ้นนะครับ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้นี่ REVIEW : VIVO V15 ดีไซน์พรีเมี่ยม กล้องเพอร์เฟกต์ทุกช็อต มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำ ในราคาจับต้องได้ !!!

 

ข้อมูลจำเพาะ Vivo V15 

ทั้งนี้ Vivo V15  มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Topaz Blue(น้ำเงิน-ฟ้า) และ Glamour Red (แดง) วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้าน Vivo BrandShop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ในราคา 10,999 บาท  

Facebook Comments

Related Posts