เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สำหรับ Xiaomi 11 Series ทั้ง 3 รุ่น ซึ่งรอบนี้ Xiaomi ได้ยกเครื่องด้านดีไซน์ โดยเน้นไปที่ความบางเบา และมาพร้อมสีสันที่ตอบโจทย์โดนใจผู้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับ รุ่นที่ทางทีมงานได้มารีวิวในครั้งนี้ก็คือ Xiaomi 11 Lite 5G NE สมาร์ตโฟน 5G ที่มาพร้อมนิยาม “Own Your Style” โดดเด่นด้วยดีไซน์บางเบา มีจอแสดงผลที่รองรับเทคโนโลยีล้ำสมัย ผสานด้วยกล้องหน้า/หลัง ที่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็มไม่แพ้เรือธง สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือสายทำคอนเทนต์ได้อย่างลงตัว
สเปกเบื้องต้น Xiaomi 11 Lite 5G NE
ขนาด |
160.53 x 75.73 x 6.81 มม. |
น้ำหนัก | 158 กรัม |
หน้าจอ |
หน้าจอแสดงผล Dot Display แบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (402ppi) ขนาด 6.55นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความสว่างสูงสุด 800nits อัตรารีเฟรชเรท 90Hz refresh rate, 240Hz Response Rate, Contrast ratio: 5,000,000:1 รองรับ 10-bit TrueColor, DCI-P3 , Dolby Vision® HDR, HDR 10+ ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7325 Snapdragon 778G 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 642L |
RAM | 6GB/8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB/256GB |
microSD Card | รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot Bluetooth 5.2, A2DP, LE IR blaster Multi-functional NFC GPS with A-GPS, GPS: L1+L5GLONASS: G1, Galileo: E1+E5aBeidou: B1I + B1C+ B2a, QZSS: L1 + L5, NavIC: L5 USB Type-C |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED – กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล แบบ 6 ชิ้นเลนส์ รูรับแสง f/1.79 ขนาดพิกเซล 0.7μm 4-in-1 to 1.4μm – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ขนาดพิกเซล 1.12μm – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ telemacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 Contrast AF (3cm-7cm) ขนาดพิกเซล 12μm กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.24 |
รองรับระบบ |
รองรับ 5G/4G/3G/2G 5G NR: n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n41/n66/n77/n78 4G: แบนด์ FDD-LTE 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28/32/66 4G: แบนด์ TDD-LTE 38/40/41/42 3G: แบนด์ WCDMA 1/2/4/5/6/8/192G: GSM:2/3/5/8 |
แบตเตอรี่ | 4,250mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W |
สี | Truffle Black, Bubblegum Blue, Peach Pink และ Snowflake White |
ราคา | RAM 6GB+128GB ราคา 10,990 บาท RAM 8GB+128GB ราคา 11,990 บาท RAM 8GB+256GB ราคา 13,990 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งมาในโทนสีขาว ที่เน้นความเรียบง่าย สบายตา โดยด้านหน้ามีเพียงโลโก้แบรนด์ ชื่อรุ่น และขับเน้นด้วยเลข 11 ขนาดใหญ่สะดุดตา
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง Xiaomi 11 Lite 5G NE ในสี Snowflake White ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- Soft Case TPU แบบใส
- ตัวแปลง Type c to 3.5 มม.
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, คู่มือความปลอดภัย และใบรับประกันสินค้า
รูปลักษณ์ดีไซน์/การออกแบบ
สัมผัสแรกต้องบอกเลยว่าประทับใจกับความบางเบา โดยตัวเครื่องมีความบางถึง 6.81 มม. และน้ำหนักที่เบาเพียงแค่ 158 กรัม และยังมีขอบบางเพียง 1.88 มม. ทั้งด้านข้างและด้านล่าง ส่งผลให้ Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่บางและเบาที่สุดของเสียวหมี่
ส่วนในด้านการออกแบบจะมี curve แบบรอบตัวเครื่อง พร้อมล้อมคาดด้วยวัสดุอะลูมิเนียมที่ขับเน้นความหรูหราพรีเมี่ยมได้ตั้งแต่แรกสัมผัส อีกทั้งยังออกแบบได้ตามหลัก Ergonomics จึงสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การจับถือพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว
Xiaomi 11 Lite 5G NE ที่ทางทีมงานได้รับมารีวิวในครั้งนี้เป็นสีพิเศษ ก็คือสีขาว ‘Snowflake White’ โดยสีขาว ‘Snowflake White’ มีลักษณะพื้นผิวคล้ายกับกระจกเคลือบด้านที่เต็มไปด้วยประกายระยิบระยับของเกล็ดหิมะที่ส่องแสงวิบวับอยู่ทุกมุม เรียกว่าเด่นทั้งด้านการออกแบบ และมีหลากหลายสีสันที่ลงตัวกับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง
Xiaomi 11 Lite 5G NE มาพร้อมจอแสดงผลที่จัดเต็มทั้งความคมชัดและเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยให้สีสันสมจริง ด้วยหน้าจอ AMOLED Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (402ppi) ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.55 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความสว่างสุงสุด 800nits มีอัตรา Contrast ratio: 5,000,000:1 ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 พร้อมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี TrueColor ระดับ 10-bit รองรับ Dolby Vision® HDR, HDR 10+ เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่า
อีกทั้งยังมาพร้อมกับช่วงสีกว้างถึงระดับ DCI-P3 สามารถแสดงสีบนหน้าจอได้ถึง 1.07 พันล้านสีด้วยความแม่นยำระดับสูงได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix , Disney+ Hotstar รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
หน้าจอของ Xiaomi 11 Lite 5G NE ยังมาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 90 Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสความสมูทลื่นไหล และเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงได้โดยปราศจากปัญหาความล่าช้าและปัญหาเครื่องกระตุก
นอกจากจะมาพร้อมเทคโนโลยีจอแสดงผลอันล้ำสมัยแล้ว Xiaomi 11 Lite 5G NE ยังใส่ใจผู้ใช้งาน ด้วยการใส่ฟีเจอร์กรองแสงสีฟ้า เพื่อปกป้องดวงตาของผู้ใช้งานอีกด้วย
ลำโพงสนทนามีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบของตัวเครื่องซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่แสดงผลได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่มุมซ้ายของจอแสดงผล ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม โดยมาพร้อมความละเอียดที่ 20 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ในการถ่ายเซลฟี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างลงตัว
กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ที่ให้มาครบทุกระยะการใช้งาน โดยประกอบไปด้วย
– กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล แบบ 6 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/1.79 ขนาดพิกเซล 0.7μm 4-in-1 to 1.4μm
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 ขนาดพิกเซล 1.12μm
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ telemacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 Contrast AF (3cm-7cm) ขนาดพิกเซล 12μm
Xiaomi 11 Lite 5G NE มาพร้อมลำโพงคู่แบบสเตอริโอ โดยด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องลำโพงตัวที่ 1 และถัดไปจะเป็น IR Blaster ที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เหมือนรีโมทนั่นเอง
ส่วนด้านล่างจะประกอบด้วย ลำโพงสเตอริโอตัวที่ 2 , พอร์ต Type-C , ไมค์สนทนาและช่องถาดซิมการ์ด
ตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Hybrid Slot ที่ต้องเลือกระหว่างการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด หรือใช้ 1 ซิมร่วมกับ Micro SD Card นั่นเอง โดย Xiaomi 11 Lite 5G NE รองรับการใช้งาน 5G นาโนซิมแบบ Dual SIM Dual Standby และรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card
สำหรับฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Arc side fingerprint sensor ที่ปลดล็อกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์
Xiaomi 11 Lite 5G NE เปิดตัวมาพร้อมระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5.4 บนพื้นฐานของ Android 11 ในด้านความสวยงามและความลื่นไหล MIUI ถือว่าเป็นจุดแข็งและจุดขายของค่าย Xiaomi มาช้านาน จึงการันตีในเรื่อง User experience ที่สามารถมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนธีม หรือภาพพื้นหลังรวมถึงรูปแบบไอคอน, รูปแบบการล็อก, แถบสถานะ, ภาพเคลื่อนไหวและเสียงเรียกเข้าได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ
Xiaomi 11 Lite 5G NE รองรับการใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่อง และเป็นแบบ Dual SIM Dual Standby สามารถจับสัญญาณ 5G/4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูง มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย
Xiaomi 11 Lite 5G NE รองรับการส่งไฟล์ ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยแอป ShareMe ซึ่งนอกจากถ่ายโอนข้อมูลระหว่างสมาร์ตโฟนด้วยกันได้แล้ว ยังรองรับการส่งไฟล์ผ่านทาง PC และ Webshare ที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย
มาพร้อม IR Blaster หรือ อินฟาเรตพอร์ตที่ใช้ในการเป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งมีแอปพลิเคชันรองรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท
Cleaner หรือตัวทำความสะอาด ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้สมาร์ตโฟนเร็วแรงอยู่เสมอ โดยสามารถลบไฟล์ขยะ ถอนการติดตั้งแอป รวจสอบความปลอดภัยสมาร์ตโฟนด้วยการสแกนไวรัส เพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพด้วยการเพิ่มพื้นที่ว่างเป็นต้น
นอกจากจะมีแบตใหญ่สุดอึดถึง 4,250mAh แล้ว Xiaomi 11 Lite 5G NE ยังมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน ที่ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งในภาพรวม Xiaomi 11 Lite 5G NE มีการจัดสรรพลังงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ครบวันแบบสบาย ๆ
ส่วนถ้าใครเน้นเล่นเกมหรือใช้งานหนัก ๆ ตลอดทั้งวัน ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะ Xiaomi 11 Lite 5G NE รองรับชาร์จไวด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W ไม่ว่าจะถ่ายรูป ฟังเพลงหรือเล่นเกม ก็พร้อมให้คุณใช้งานได้ตลอดเวลา
ประสิทธิภาพ
Xiaomi 11 Lite 5G NE ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต ชิปเซ็ท Qualcomm SM7325 Snapdragon 778G 5G บนสถาปัตยกกรม 6 นาโนเมตร ประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GH ผสานด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 642L ผสานด้วยแรม LPDDR4X , พื้นที่หน่วยความจำภายในแบบ UFS2.2 และเทคโนโลยี Host Performance Booster ซึ่งภาพรวม Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่แรงเกินราคาค่าตัวและคู่แข่งไปพอสมควรเลยทีเดียว
มัลติมีเดียและความบันเทิง
Music Player บน Xiaomi 11 Lite 5G NE จะมี UI ที่ดูเรียบง่ายสบายตา อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงกับแอป Youtube เพื่อฟังเพลงได้อีกทางหนึ่งด้วย ในด้านคุณภาพเสียง Xiaomi 11 Lite 5G NEมีเอฟเฟกต์เสียงทั้งในส่วนของการเลือกเสียงให้เข้ากับหูฟังที่ใช้งานและยังรองรับการปรับตั้งค่า EQ ได้ยืดหยุ่นและตรงใจผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับ Video Player บน Xiaomi 11 Lite 5G NE รองรับการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียด 4K ได้อย่างไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
Xiaomi 11 Lite 5G NE มาพร้อมฟีเจอร์ Game Turbo ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังอำนวยความสะดวกช่วยให้การเล่นเกมเป็นไปยังราบรื่น
ในเบื้องต้น Xiaomi 11 Lite 5G NE สามารถตั้งค่ากราฟิคของตัวเกมได้ในระดับสูง แต่ที่ทางทีมงานแนะนำจริง ๆ ควรเลือกค้าเริ่มต้นที่ตัว Xiaomi 11 Lite 5G NE กำหนดให้อย่างเหมาะสม ซึ่งในภาพรวมการเล่นเกมบน Xiaomi 11 Lite 5G NE ถือว่าโดดเด่นมาก ๆ ด้วยจอแสดงผลคุณภาพสูง ผสานระบบลำโพงคู่สเตอริโอ และชิปเซ็ตที่สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างสมูท ภาพรวมต้องบอกเลยว่า Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่เด่นทั้งการใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมได้ดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับคู่แข่งในเรตเดียวกัน
ด้านการถ่ายภาพ
Xiaomi 11 Lite 5G NE มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพที่มีความหลากหลาย รวมถึงการตั้งค่าที่มีความยืดหยุ่น แต่ตัว UI อาจจะต้องใช้การปรับตัวในการใช้งานสักเล็กน้อย เพราะการเข้าถึงเมนูบางอย่างจะถูกแยก ไม่ได้รวมไว้ในการตั้งค่าหรือเมนูเพิ่มเติมนั่นเอง
ทดสอบกล้องหน้า
โหมด Auto
Xiaomi 11 Lite 5G NE ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.24 มาพร้อมหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, เปิดปิด AI, สัดส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่น ๆ
Portrait mode
สำหรับโหมด Portrait บน Xiaomi 11 Lite 5G NE มีความยืดหยุ่นในการใช้งานที่น่าประทับใจมาก โดยสามารถปรับค่ารูรับแสง เพื่อทำให้เกิดการเบลอตามระดับที่ต้องการได้เหมือนกล้องโปร
และมีโหมด Beautify มาให้ใช้งานตามสมัยนิยม ซึ่งนอกจะปรับความขาวใสได้แล้ว ยังสามารถปรับแต่งในส่วนของ รายละเอียดอื่น ๆ เช่น ปรับให้ใบหน้าเรียว ตากลมโต รูปทรงของจมูกเป็นต้น
ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
มีฟิลเตอร์ให้ใช้งานอย่างจุใจ
รวมถึงสามารถเปิดใช้งาน Beautify และฟิลเตอร์ให้ใช้งานอย่างหลากหลาย ซึ่งช่วยให้การถ่ายเซลฟี่มีความน่าตื่นตาตื่นใจ และยังสามารถแชร์ไปยังโซเชี่ยลต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามาตกแต่งผ่านแอปในภายหลังอีกด้วย
ทดสอบกล้องหลัง
คมชัดจัดเต็มด้วยความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ให้ความละเอียด 9280×6944 พิกเซล จะซูมหรือ Crop ก็ยังให้ดีเทลที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
โหมด Ultra wide-angle
Zoom 2X
Zoom 5X
Zoom 10X
Xiaomi 11 Lite 5G NE รองรับการ Zoom แบบ Optical zoom ได้ที่ 2x และDigital zoom ได้สูงสุดที่ 10x
Macro mode
Xiaomi 11 Lite 5G NE สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง ดอกไม้ หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
โหมดปกติ
Macro mode
โหมดปกติ
Macro mode
โหมดปกติ
Night Mode
โหมดปกติ
Night Mode
Night Mode จะเป็นโหมดที่ใช้การถ่ายภาพซ้อนกันหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง
มีฟิลต์เตอร์ให้ใช้งานอย่างจุใจ ช่วยให้การแชร์ไปยังโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ ได้สะดวก โดยไม่ต้องนำมาแก้ไขผ่านแอปให้เเสียเวลา
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
Auto mode
Portrait mode
สำหรับกล้องหลังจะมีฟีเจอร์ในการถ่ายภาพบุคคลที่เหมือนกับกล้องหน้าทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Beautify, ฟิลเตอร์ ฯลฯ
บนสรุป Xiaomi 11 Lite 5G NE
Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นสมาร์ตโฟน Mide – range ที่ให้ทั้งฟีเจอร์และสเปคมาเหนือคู่แข่งในระดับเดียวกัน แถมยังมีความโดดเด่นด้วยดีไซน์บางเบาขั้นสุด และมีสีสันให้เลือกใช้งานหลากหลาย โดยเฉพาะสีพิเศษอย่าง ‘Snowflake White’ ที่ออกแบบได้อย่างสวยงามลงตัว เป็นสีเหมาะกับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง ในด้านสเปคถือว่าครบครัน ทั้งชิปเซ็ตตัวแรงและหน้าจอแสดงผลที่จัดเต็มทั้งความคมชัดและเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี TrueColor 10-bit รองรับ Dolby Vision® HDR, HDR 10+ ส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix , Disney+ Hotstar แถมยังมาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอจึงลงตัวมาก ๆ สำหรับสายเอนเตอร์เทน ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม Xiaomi 11 Lite 5G NE เอาอยู่แน่นอน
ในด้านคุณภาพกล้อง ถือว่าน่าประทับใจมาก ด้วยกล้องความละเอียดสูงถึง 64MP มาพร้อมเลนส์ 3 ตัว ครบทุกระยะการใช้งาน คุณภาพที่ได้นั้นเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เก็บทุกความประทับใจ พร้อมแชร์ไปยังโลกโซเชี่ยลได้อย่างลงตัว ส่วนใครที่เป็นสายทำคอนเทนต์ Xiaomi 11 Lite 5G NE ก็สามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน
ปิดท้ายกันไปด้วยแบตเตอรี่สุดอึดถึง 4,250mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W ส่งผลให้ Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่มีความครบครัน คุ้มค่า สามารถตอบโจทย์สายบันเทิงและเล่นเกมในราคาที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งระดับเดียวกัน
Xiaomi 11 Lite 5G NE วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2564 โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ White Truffle Black, สีฟ้า Bubblegum Blue และสีชมพู Peach Pink และสีใหม่ล่าสุด สีขาว Snowflake White
· รุ่นความจุ 8GB+256GB: ราคา 13,990 บาท วางจำหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น
· รุ่นความจุ 8GB+128GB: ราคา 11,990 บาท วางจำหน่ายที่ Xiaomi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์
· รุ่นความจุ 6GB+128GB: ราคา 10,990 บาท วางจำหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น
Lazada: https://bit.ly/3hZcOpn
JD Central: https://bit.ly/3u6umV3
Shopee: https://bit.ly/3hYUcWg