รีวิว Vivo Y50 ดีไซน์พรีเมี่ยม หน้าจอ Ultra O Screen กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 665 !!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 9.1K views

 

ทดสอบกล้องหน้า/หลัง

Vivo Y50  มี User Interface หรือหน้าตาเมนูกล้อง ที่ใช้เลย์เอาท์ใหม่ โดยมุมขวาบนของเมนูกล้องจะแสดงไอคอนรูปม่านชัตเตอร์ ซึ่งตรงนี้จะเป็นเมนูทางลัดเพื่อเข้าถึงโหมด Ultra wide angle, Bokeh, และ Super macro

ส่วนด้านบนของเมนูจะเป็นไอคอนที่เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้อง อาทิเช่น เปิด/ปิดการใช้งานแฟลช, โหมด HDR, Filter-Portrait light effect, อัตราส่วนของภาพ และการตั้งค่าโดยรวมของกล้อง

ทดสอบกล้องหน้า

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto

เมื่อเปิดใช้งาน AI Face Beauty ภาพที่ได้ดูสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ เช่นสีของแก้มและลิปสติกเป็นต้น รวมไปถึงโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ

สำหรับโหมด AI Face Beauty ตัวระบบ AI จะคำนวนความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ โดยภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI ค่อนข้างดูลงตัวเป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในทุกสถานการณ์

โหมด Beauty สามารถตั้งค่าระดับความสวยงามได้แบบอัตโนมัติ และตั้งค่าแบบกำหนดเองได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับ

ทดสอบโหมด Bokeh effect ซึ่งการละลายฉากหลังทำได้ค่อนข้างดี โดยให้ความละมุนดูมีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดของเส้นขอบได้ดีอีกด้วย

Super Quadruple Beauty Mode ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง

สำหรับรูปนี้ปรับให้ดวงตานางแบบดูกลมโตขึ้น เพื่อเปรียบเทียบให้่เห็นความแตกต่างจากภาพด้านบน

Portrait light effect

ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม ตัวอัลกอริทึม AI ของ Vivo Y50 จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 5 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background

Natural light, Studio light, Stereo light

Loop light, Rainbow light, Monochrome background

นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่างจุใจถึง 19 รูปแบบ

 

ทดสอบกล้องหลัง

ทดสอบกล้องหลัง ด้วยการถ่ายภาพบุคคลในสภาพแสง Outdoor (โหมด Auto)

เปิดใช้งานโหมดบิวตี้

เมื่อเปิดใช้โหมด Bokeh effect

สำหรับกล้องหลังมี Filter และ Portrait light effect มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้า โดยประกอบไปด้วย Normal, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background

เปิดใช้งานฟิลเตอร์

 

AI Makeup

เป็นฟีเจอร์ “แต่งสวยหลังถ่ายเสร็จ”  โดย AI Makeup มีโหมดที่ช่วยเปลี่ยนการแต่งหน้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ซึ่งมีทั้ง Style ที่เป็นการแต่งหน้าสำเร็จรูปให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ

โหมดบิวตี้ ที่สามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, ริมฝีปากอิ่ม, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเติมเมคอัพเฉพาะส่วนได้ง่าย ๆ เช่นเติมสีลิปสติก บลัชออน และรูปแบบของคิ้ว

สุดท้ายคือฟีเจอร์ Slim ที่มีหลักการทำงานเหมือนกับ AI Body Shaping นั่นเอง โดยสามารถปรับแต่งรูปร่างให้ดูเพรียวบางสมส่วน เช่น ปรับในภาพรวมของรูปร่างหรือเฉพาะจุดที่ต้องการ เช่น ศีรษะ ไหล่ สะโพก ขา หรือเอวให้ดูเล็กลงได้เป็นต้น

 ทั้งนี้ AI Makeup สนับสนุนเฉพาะในอัลบั้ม โหมดกล้องไม่รองรับ

ภาพต้นฉบับ

ใช้งาน AI Makeup

ประโยชน์ของ AI Makeup จะช่วยให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องที่สะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น และให้ภาพสวยงามตอบโจทย์ตรงใจในสไตล์ที่เราชื่นชอบนั่นเอง

Pose Master

ฟีเจอร์นี้มีหลักการทำงาน ด้วยการแสดงตัวอย่างไกด์ไลน์ในการแอคติ้ง หรือการโพสท่าทางนั่นเอง โดยจะมีเส้นประแสดงควบคู่กับภาพแอคติ้งตัวอย่าง ซึ่งผู้ใช้งานเพียงแค่ให้แบบแสดงท่าทางตามตัวอย่างและจัดองค์ประกอบให้แบบเข้าไปอยู่ในเส้นประ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพถ่ายที่สวยโดนใจไม่แพ้การโพสท่าจากนางแบบ นายแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว

ภาพตัวอย่างจาก Pose Master

 

Normal mode

Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)

Zoom 2x

ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 120 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล  รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป

Super Night Mode

โหมด Normal

Super Night Mode

Super Night Mode จะเป็นโหมดที่ใช้การถ่ายภาพซ้อนกันหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง

ซึ่ง Super Night Mode ไม่ได้ทำให้ภาพสว่างขึ้นมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยดึงดีเทลรายละเอียดของภาพกลับมาอีกทางหนึ่งด้วย สามารถดูการเปรียบเทียบได้จากภาพตัวอย่าง โดย

ภาพด้านล่างเมื่อเมื่อเปิดใช้ AI Night Mode แล้ว ภาพจะดูสว่างขึ้นและเพิ่มรายละเอียดในส่วนที่ขาดหายไปจากภาพด้านบน

Super macro

Normal mode 

Super macro

สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน

 

จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อครับ

สรุป Vivo Y50 

จุดเด่น 

  1. ครั้งแรกของซีรีส์ Y ที่มาพร้อมหน้าจอ Ultra O Screen และกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera
  2. ดีไซน์พรีเมี่ยม วัสดุงานประกอบดีมาก ๆ
  3. หน้าจอใหญ่เต็มตา รับชมคอนเท้นต์สะใจ ตัวจอแสดงผลให้ความสว่างสดใส แสดงสีสันได้สมจริง
  4. สเปคโดยรวมให้มาแบบครบ ๆ ทั้ง Snapdragon 665, RAM 8GB, ROM 128GB รองรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้แบบสบาย ๆ
  5. แบตสุดอึดความจุสูงถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน

สิ่งที่ต้องพิจารณา

  1. ไม่รองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็ว
  2. ไม่มีหูฟังแถมมาให้ในกล่อง
Facebook Comments

Related Posts