รีวิว Vivo Y50 ดีไซน์พรีเมี่ยม หน้าจอ Ultra O Screen กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 665 !!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 9.1K views

 

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์

Vivo Y50 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 10 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ในภาพรวมมีการปรับเปลี่ยน UI เล็กน้อย โดยตัวไอคอนมีความอ่อนช้อย และโมเดิร์นขึ้นแบบสัมผัสได้ ส่วนเมนูการตั้งค่าต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความกระชับใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

สิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดก็คือการเข้าสู่ Notification Toggle จะเปลี่ยนมาใช้วิธีปัดจากด้านบนลงมาด้านล่างของหน้าจอเหมือนสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ  สำหรับฟีเจอร์เด่น Jovi Smart Scene และ Screen Time 
จะช่วยติดตามเวลาการใช้งานของแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในหนึ่งวันอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็นข้อมูล และจัดการเวลาที่ใช้ในแต่ละแอปพลิเคชั่น

ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนธีม หรือภาพพื้นหลังรวมถึงรูปแบบตัวอักษรได้ตามสไตล์การใช้งาน พร้อมทั้งตั้งค่ารูปแบบ Home Screen ได้อย่างยืดหยุ่น

หากไม่คุ้นหรือชินตากับกล้องหน้าที่เจาะรูไว้ ผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้การซ่อนกล้องหน้าด้วยแถบดำที่จะสร้างความกลมกลืนให้กับจอแสดงผล โดยเลือกแอปที่ต้องการให้ซ่อนกล้องหน้าได้ในเมนูการตั้งค่า “การแสดงผลและความสว่าง”

Dark Mode ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้การใช้งานในตอนกลางคืนเป็นไปอย่างราบลื่น และส่งผลดีต่อสุขภาพดวงตาของของผู้ใช้งาน โดยหลักการทำงานของฟีเจอร์ Dark Mode จะเปลี่ยนพื้นหลังให้เป็นสีดำ เพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมในที่แสงน้อยได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วยทั้งเรื่องของการประหยัดพลังงาน พร้อมถนอมสายตา และก่อให้เกิดความผ่อนคลายแก่ผู้ใช้งานอีกทางหนึ่งด้วย

(Dark Mode สามารถใช้งานได้กับบางแอปฯ)

Vivo Y50 มาพร้อมฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรที่มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูงบนคลื่น 4G  มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย

ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ในด้านการโทรที่ให้มาก็ถือว่าครบถ้วนและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวัน เช่นฟีเจอร์บล็อคสาย บล็อคข้อความ ได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถบันทึกสายขณะโทรได้โดยตรง ไม่ต้องลงแอปเพิ่มเติมแต่อย่างใด

เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก โดยเมื่อเสียบสาย USB หรือเปิด-ปิดหน้าจอ จะแสดงเอฟเฟกต์แสงไฟเคลื่อนไหวที่หน้าจอ เป็นการเพิ่มลูกเล่นและความสวยงามให้การใช้งานยิ่งขึ้น

สำหรับปุ่มนำทาง สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะกับความถนัดของเราได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Full Screen gesture ที่มาพร้อมฟีเจอร์สั่งการง่าย ๆ และสามารถใช้งานจอแสดงผลได้แบบเต็ม 100%

โดย Navigation gestures เป็นฟีเจอร์ที่ใช้การสไลด์นิ้วบนหน้าจอแสดงผลแทนการกดปุ่ม navigation เพื่อให้เหลือพื้นที่การใช้งานที่มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะใช้รูปแบบการสั่งการแบบไหน เช่นการลากจากขอบด้านล่างจากตำแหน่งตรงกลาง เพื่อกลับไปที่หน้าโฮม ซึ่งก็เหมือนการกดที่ปุ่มโฮมนั่นเอง

โหมดใช้งานมือเดียวและการจับภาพหน้าจอที่มีความหลากหลาย สำหรับการจับภาพหน้าจอก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษของ Vivo โดยสามารถจับภาพหน้าจอได้ยืดหยุ่นมาก ๆ ทั้งการลาก 3 นิ้วขึ้นไปจากหน้าจอแสดงผล

รวมไปถึงการจับภาพหน้าจอแบบยาวๆ หรือรูปแบบอิสระ อีกทั้งยังบันทึกหน้าจอในรูปแบบของวีดีโอได้อีกด้วย และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กันถึง 2 แอคเคาท์ในเครื่องเดียว

ไม่จำกัดเฉพาะการถ่ายเซลฟี่เพียงอย่างเดียว แต่ Y50 ยังงานสามารถใช้งานบิวตี้ หรือใบหน้าสวยผ่านการโทรแบบวีดีโอคอลได้อีกด้วย สำหรับโหมดการใช้งานอัจฉริยะ เป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานมาอย่างยาวนานบนสมาร์ตโฟนของ Vivo ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็คือการทำงานร่วมกับพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ โดยเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่น วาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่น, ปลดล็อคด้วยการโบกมือผ่านหน้าจอ การแจ้งเตือน การรับสายหรือเปลี่ยนเป็นโหมดแฮนด์ฟรีอัตโนมัติ ฯลฯ

ฟีเจอร์ยอดนิยมที่มีมาให้ใช้งานอย่างยาวนาน ก็คือโหมดการแบ่งหน้าต่างเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นไปพร้อม ๆ กัน เช่นแชทไปด้วยด้วยพร้อมดู YouTube ในขณะเดียวกัน

ซึ่งบน Vivo Y50 นั้นเรียกใช้งานการแบ่งหน้าจอได้ง่าย ๆ เพียงลาก 3 นิ้วจากด้านล่างขึ้นไปยังด้านบนของจอแสดงผล ก็จะสามารถใช้งาน 2 แอปฯในหนึ่งหน้าจอได้ในทันที

ฟีเจอร์ในด้านความปลอดภัยก็ถือว่าจัดเต็ม โดย Vivo Y50 มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยป้องการใช้งานในภาพรวมได้อย่างคลอบคลุม ทั้งข้อมูลส่วนตัวการเข้ารหัสแอป ตู้เซลไฟล์ การล็อคซิมการ์ด และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมายที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้ผู้ใช้งานอุ่นใจและมีความปลอดภัยสูงสุด

โหมดมอเตอร์ไซค์และโหมดสำหรับเด็ก , ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลและการควบคุมโดยผู้ปกครอง เป็นโหมดที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจจาก Vivo ไปยังลูกค้าหรือผู้ใช้งานอย่างแท้จริง  ยกตัวอย่างเช่น โหมดเด็กเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคมทุกวันนี้ ที่เด็กเล็กบางกลุ่มมีความสุ่มเสียงที่จะมีสมาธิสั้น อารมณ์ร้อนและมีพฤติกรรมก้าวร้าวจากการติดเกม ติดโทรศัพท์, Tablet ของผู้ปกครองนั่นเอง

ส่วนโหมดมอเตอร์ไซค์ตรงนี้แม้จะขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานเป็นหลักที่จะเลือกปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของความปลอดภัยหรือไม่ ทั้งการสวมใส่หมวกกันน็อค การปฏิบัติตามกฎจราจร ฯลฯ  แต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างสรรค์ในเชิงบวกที่น่าชื่นชมมากๆ ครับ

ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยผู้ช่วยอัฉริยะ i-Manager ที่มาพร้อมความสามารถครบครัน ทั้งสแกนไวรัส ลบไฟล์ขยะ ระบายความร้อน สำรองข้อมูลและจัดการด้านพลังงาน

ในภาพรวม Vivo Y50 มีการจัดสรรพลังงานได้น่าประทับใจมาก ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ครบวันแบบสบาย ๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้แบตเตอรี่ความจุมหาศาลถึง 5,000mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน รวมถึง Firmware ที่ปรับแต่งมาให้สามารถจัดสรรพลังงานได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย

ประสิทธิภาพ

Vivo Y50 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm SM6125 Snapdragon 665  บนสถาปัตยกรรม 11 นาโนเมตร ประมวลผล Octa-core (4×2.0 GHz Kryo 260 Gold & 4×1.8 GHz Kryo 260 Silver) เมื่อทำงานร่วมกับ RAM 8GB จึงส่งผลให้สามารถรีดประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ และเมื่อดูจากผลคะแนนแล้วจะเห็นว่าแรงกว่า snapdragon 660 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

ส่วนในแง่การใช้งานจริงถือว่าเป็นรุ่นกลาง ๆ ที่มาพร้อมความลื่นไหล และความแรงในระดับที่นำไปใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้แบบสบาย ๆ  สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างครบถ้วน อาทิ  Gyroscope, Magnetic,  Accelerometer ส่วนภาครับสัญญาณ GPS ก็มีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ

 

 

มัลติมีเดียและความบันเทิง

Video Player บน Vivo Y50 รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียด 4K ได้อย่างไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น

Music Player นอกจากจะมีหน้าตาสวยงามแล้ว ยังมาพร้อมจุดเด่นด้าน Software ด้วยฟีเจอร์ DeepField เอฟเฟ็กต์เสียงที่พัฒนาโดย Vivo ทำให้เสียงที่ได้มีความนุ่มลึก คมชัดใสเคลียร์ รองรับการจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศา อีกทั้งยังปรับแต่งเสียงผ่าน EQ ได้ยืดหยุ่นและตรงใจผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลง Vivo Y50 นั้นไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

ยุคนี้อาจจะไม่ค่อยเห็นสมาร์ทโฟนใส่ FM มาให้ใช้งาน แต่ทางค่าย Vivo ยังเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้ใช้งานที่ยังชื่นชอบการรับฟังวิทยุ FM จึงไม่แปลกใจที่หลาย ๆ รุ่นยังคงมาพร้อมกับ FM ซึ่งบน Vivo Y50 เป็น FM แบบทศนิยมหนึ่งจุด ทีมีภาครับสัญญาณถือว่าคมชัดใช้ได้เลยครับ ส่วนฟีเจอร์ก็ให้มาอย่างครบถ้วน เช่นการบันทึกไว้ฟังในแบบออฟไลน์ภายหลังเป็นต้น

ทดสอบการเล่นเกม

Asphalt 9 เลือกตั้งค่ากราฟิก “คุณภาพสูง” ในภาพรวมไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดให้เห็น สามารถสัมผัสความเร็ว แรง ลื่นไหลได้ตลอดการแข่งขัน

ROV สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้ โดยรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 59-60fps แบบต่อเนื่อง เพราะด้วยสเปคที่แรงแบบจัดเต็มทั้งในส่วนของชิปเซ็ทและ RAM ที่ให้มาถึง 8GB ส่งผลให้ในภาพรวมถือว่าแรงพอที่จะตีป้อมได้อย่างไหลลื่นโดยไม่รู้สึกหัวร้อน

สำหรับ PUBG เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ เบื้องต้นสามารถตั้งค่ากราฟิกที่ระดับสมดุล และเฟรมเรทระดับกลาง ซึ่งอาจจะต้องรอการอัพเดตจากทางค่ายเกมในภายหลัง เพราะด้วยสเปคแล้วสามารถเล่นในระดับ HD ได้สบาย ๆ ส่วนภาพรวม เรียกว่าเล่นได้ลื่น ๆ ไม่หงุดหงิดหัวร้อนอย่างแน่นอน

ดูหน้าถัดไป… คลิ๊กที่นี่ >>> Pages 3

Facebook Comments

Related Posts