Dimensity 9300 ชิปเซ็ตระดับเรือธง เร็ว แรง ประหยัดพลังงาน
vivo X100 5G / vivo X100 Pro 5G ขับเคลื่อนชิปเซ็ตระดับเรือธง Dimensity 9300 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตร และเป็นสถาปัตยกรรมแบบ CPU คอร์ใหญ่ทั้งหมด ในภาพรวม Dimensity 9300 ให้ประสิทธิภาพการทำงาน เล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น โดยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกเพิ่มขึ้น 40% ในขณะที่ใช้พลังงานลดลงถึง 33% ในส่วนของชิปประมวลผลกราฟิก Immortalis-G720 GPU ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น 46% การใช้พลังงานลดลง 40%
และโปรเซสเซอร์ APU 790 AI รุ่นที่ 7 มีการใช้พลังงานลดลง 45% และยังมาพร้อม vivo Pro Imaging Chip V2 (เฉพาะ vivo X100 Pro 5G) ชิปที่ปรับแต่งเองจาก vivo โดยออกแบบมาเพื่อเพิ่มการแสดงผลและกราฟิกเกมบนสมาร์ตโฟนไปสู่อีกระดับ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืนและการแสดงผลวิดีโอที่โดดเด่นแม้ในสภาพแสงที่น้อย
ในการทดสอบผล Benchmark ด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทั้ง vivo X100 5G / vivo X100 Pro 5G สามารถทำคะแนนไปได้กว่า 2 ล้าน ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงในระดับต้น ๆ ของสมาร์ตโฟนเรือธง ณ ปัจจุบัน ส่งผลให้การใช้งานในภาพรวม รวมถึงการใช้งานหนัก ๆ อย่างการเล่นเกม รวมถึงการถ่ายรูปและวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K เป็นไปอย่างสมูทลื่นไหล ไม่พบอาการสะดุดติดขัดให้หงุดหงิดใจอย่างแน่นอน
ชิปประมวลผลกล้อง V3 รุ่นใหม่ล่าสุด เสริมพลังการถ่ายภาพระดับโปร
ชิป V3 ที่ออกแบบเองของ vivo ช่วยให้สามารถถ่ายวิดีโอภาพบุคคลแบบภาพยนตร์ระดับ 4K ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการประมวลผลอันทรงพลังช่วยยกระดับการถ่ายภาพบนมือถือขึ้นไปอีกระดับ
ทั้งนี้ vivo X100 Pro 5G ภูมิใจนำเสนอชิป vivo V3 ที่ล้ำสมัยล่าสุด ซึ่งใช้กระบวนการผลิตขนาด 6 นาโนเมตร พร้อมการออกแบบใหม่ของ Multi-current AI cognitive-ISP และระบบ Frame Info Tunneling (FIT) รุ่นที่สองช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของอัลกอริทึมอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ลดการใช้พลังงาน โดยยังมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ระบบ Dual-ship ประมวลผลคู่ ช่วยยกระดับการถ่ายวิดีโอ portrait ระดับ 4K ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยนำเสนอฟีเจอร์วิดีโอพอร์ตเทรตแบบภาพยนตร์ระดับ 4K ใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานบันทึกความงดงามของชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น โดยมีเทมเพลตและเอฟเฟกต์ภาพยนตร์ระดับ 4K ที่หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างวิดีโอแบบพอร์ตเทรตระดับภาพยนตร์ได้อย่างง่ายดาย
Funtouch OS 14 ใหม่ล่าสุด
vivo X100 5G / vivo X100 Pro 5G มาพร้อม Funtouch OS 14 รุ่นใหม่ล่าสุด บนพื้นฐานของ Android 14 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 นำเสนอชุดไอคอนและวิดเจ็ตใหม่ที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะแสดงแอปพลิเคชันที่ใช้เป็นประจำ และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานโดยที่ไม่ต้องกดเปิดแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การใช้งานทั่วไป ๆ รวมถึงด้านความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Personalization X100 Series
อัปเดตการปรับแต่งรูปแบบนาฬิกาบนหน้าจอล็อกได้แล้ว และยังมีคุณสมบัติ AOD Styles ที่ หลากหลายและการปรับระดับเสียงต่อแอป ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและควบคุมอุปกรณ์ของตนได้ดียิ่งขึ้น
Smooth Performance
สามารถลดกระบวนการที่อยู่ภายในระบบโดยอัตโนมัติผ่าน RAM Saver และเพิ่มพื้นที่ RAM ที่มีอยู่ รวมทั้งฟีเจอร์ App Retainer ใหม่ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าแอปที่ใช้งานจะถูกเปิดกลับมาหน้าล่าสุดเสมอ X100 Series 5G ยังรองรับ Motion Blur ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลของจอแสดงผลด้วยอัตราการรีเฟรช 60Hz ที่น่าประทับใจ ถึง 18.7%
Multitasking
vivo X100 5G / vivo X100 Pro 5G เปิดตัว Mini Window ใหม่สำหรับสถานการณ์ที่ผู้ใช้ต้องการใช้งานสองแอปพร้อมกัน อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถสลับระหว่าง โหมดหน้าต่างเล็ก ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
Audiovisual Entertainment
มอบประสบการณ์ค้นหาและการดูอัลบั้มที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งออกวิดีโอในคุณภาพต้นฉบับได้ นอกจากนี้ยังแนะนำฟิลเตอร์ใหม่ทั้งหมด 25 แบบเพื่อการตัดต่อวิดีโอที่ง่ายดายขึ้น
User Privacy and Security
ทั้ง X100 5G และ X100 Pro 5G รองรับคุณสมบัติ Voice Isolation ซึ่งเพิ่มความชัดเจนในระหว่างการดูวิดีโอ การประชุม และการโทรโดยการกรองเสียงรบกวนรอบข้าง
และฟีเจอร์ Smart Mirroring ใหม่ของ X100 Series 5G ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องกังวลว่าแถบการแจ้งเตือนจะปรากฏขึ้นและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ตั้งใจ
ด้านความปลอดภัย
ฟีเจอร์ในด้านความปลอดภัยก็ให้มาอย่างครบถ้วน โดย X100 5G และ X100 Pro 5G รองรับฟีเจอร์ความปลอดภัยในระดับ Hardware ด้วย Biometric อันล้ำสมัยจาก “นวัตกรรม In-Display Fingerprint Scanning” หรือการฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายในจอแสดงผล และในเจนเนอเรชั่นล่าสุดมีการอัปเกรดตัวเซนเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ จึงส่งผลให้การทำงานมีความรวดเร็วแม่นยำที่ดีมากยิ่งขึ้น
ส่วนระบบ Face Unlock บน X100 5G และ X100 Pro 5G มีความรวดเร็วแม่นยำไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และยังสามารถทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้โดยไม่มีปัญหา และมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
มัลติมีเดียและความบันเทิง
X100 5G และ X100 Pro 5G โดดเด่นด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ มาพร้อมฟีเจอร์แบบอัดแน่น ด้วยอัตรารีเฟรชแบบไดนามิค 120Hz รองรับขอบเขตสี DCI-P3 100% ความอิ่มตัวของสี NTSC 105% ให้ความสว่างสูงสุด 3,000 นิต (ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน ) มีอัตราส่วนคอนทราสต์ 8,000,000:1 สามารถตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้ดีเยี่ยม ด้วยลำโพงคู่สเตอริโอ และ Software และ Hardware ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงและเอฟเฟ็กต์ของเสียง อาทิเช่น ฟีเจอร์ความละเอียดสูงพิเศษ, ฟีเจอร์ Super Audio ที่สามารถปรับคุณภาพเสียงลำโพงของโทรศัพท์ให้เหมาะสมโดดยอัตโนมัติ และยังรองรับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ด้วยชิปถอดรหัส DAC ภายในตัวเครื่อง
ด้านการเล่นเกม
vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างน่าประทับใจแบบขั้นสุด โดยขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Flagship Dimensity 9300 ประมวลผล Octa-core (1×3.25 GHz Cortex-X4 & 3×2.85 GHz Cortex-X4 & 4×2.0 GHz Cortex-A720) ผสานด้วยชิปประมวลผลกราฟิก Immortalis-G720 GPU พร้อมฟีเจอร์ขยาย RAM 16 GB + 16 GB ( เฉพาะ vivo X100 Pro 5G ) พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ UFS 4.0 ซึ่งเมื่อรวมกับการทำงานควบคู่ไปกับชิป vivo V3 จึงพร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพอย่างก้าวกระโดดแบบสัมผัสได้เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
มาพร้อม Ultra-Game Mode มาพร้อมเวอร์ชันอัปเดตใหม่ล่าสุด ซึ่งได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึงสามโหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดประหยัดแบตเตอรี่, โหมดสมดุล และโหมดประสิทธิภาพที่สามารถรีดพลังในการเล่นเกมออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน Linear Motor ที่เป็นมอเตอร์แนวราบ X-Axis รวมถึงลำโพงสเตอริโอคู่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำ ด้วยการผสมผสานระหว่างการสั่นสะเทือนและเสียงอันทรงพลัง ให้ความสมจริงในขณะเล่นมากยิ่งขึ้น ผ่านลำโพงสเตอริโอคู่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่จัดเต็มในแบบรอบด้าน ด้วยการผสมผสานระหว่างการสั่นสะเทือนและเสียงอันทรงพลัง ให้ความสมจริงในขณะเล่นมากยิ่งขึ้น
vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G สามารถตั้งค่ากราฟิกและเฟรมเรตของตัวเกมในระดับสูงสุดได้ทุกเกม เมื่อลองทดสอบเกมยอดนิยมอย่าง Genshin Impact, PUBG, ROV, Asphalt 9 ไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดให้เห็น
สรุปในภาพรวม vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G เล่นได้ทุกเกมแบบตั้งค่าสูงสุด พร้อมเปิดเฟรมเรทสูง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับคุณภาพ Hardware ระดับเรือธง และ Firmware ที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี รวมถึงฟีเจอร์ Ultra-Game Mode ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมอีกรุ่นหนึ่งของตลาดบ้านเรา
แบตเตอรี่และเทคโนโลยีชาร์จไวที่พร้อมสำหรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยีการสร้างแกรไฟต์ขั้วลบทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการชาร์จเร็วและความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่มีพลังงานเต็มตลอดเวลา
สำหรับ vivo X100 5G มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 5000mAh และระบบชาร์จเร็วแบบ 120W Dual-Cell FlashCharge ในขณะที่ vivo X100 Pro 5G มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 5400mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W FlashCharge และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W Wireless FlashCharge
โดย vivoX100 Pro 5G สามารถชาร์จได้ในระดับ 50% ภายใน 14 นาที และหากใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง 0% เมื่อเสียบสายชาร์จ โลโก้ vivo จะปรากฏภายใน 4 วินาที และเริ่มใช้งานจอหลักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าสามารถเปิดเครื่องติดทันทีเมื่อเสียบชาร์จหลังแบตหมดนั่นเอง
อ่านต่อ… คลิ๊กที่นี่ >>> Pages 3
