รีวิว Samsung Galaxy A50s ดีไซน์สวย จอใหญ่ แบตอึด โดดเด่นทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ !!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 2K views

Samsung Galaxy A50s สมาร์ตโฟนรุ่นอัพเกรดพร้อมต่อยอดความสำเร็จจาก Galaxy A-Series  (A50) ทั้งเรื่องดีไซน์และประสิทธิภาพโดยรวม รวมถึงกล้องหน้าและหลังที่อัพเกรดความสามารถ จนทำให้ตอบโจทย์สาย Live + Vlogger ได้อย่างโดนใจ ทั้งการบันทึกวีดีโอกล้องหน้าความละเอียดระดับ 4K ผสานกับกล้องหลัง 3 เลนส์ Triple-Camera ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล โดดเด่นด้วยเลนส์มุมกว้าง Ultra-Wide 123 องศา ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง-วีดิโอ แถมยังพกฟีเจอร์เทพ ๆ ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่เรือธงอย่างซีรีส์ S และ Note อีกด้วย สำหรับสเปคที่ให้มาก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างเหลือเฟือ และแน่นอนว่าราคายังคงจับต้องได้ง่ายเหมือนเช่นเคย ส่วนสิ่งอื่น ๆ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาติดตามรับชมไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

 

สเปคเบื้องต้น Samsung Galaxy A50s

ขนาด 158.5 x 74.5 x 7.7 มม.
น้ำหนัก 166 กรัม
หน้าจอ Infinity-U Display แบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 91.6% ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
หน่วยประมวลผล ชิปเซ็ท Exynos 9611 (10 nm) หน่วยประมวลผล Octa-core (4×2.3 GHz Cortex-A73 & 4×1.7 GHz Cortex-A53) หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G72 MP3
RAM 6GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB
microSD Card สูงสุด 512GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 เลนส์ ขับเคลื่อนด้วย AI ประกอบด้วย

กล้องตัวหนึ่ง เลนส์ Depth sensor สำหรับการถ่าย Portrait ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
———————————
กล้องตัวที่สอง Main Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0
———————————
กล้องตัวที่สาม Ultra Wide เลนส์มุมกว้างพิเศษ 123 องศา ระยะ 13mm ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.2
———————————

มาพร้อมฟีเจอร์ Scene Optimizer, flaw detection และ Super Steady
———————————
กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 รองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K

ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI 1.1
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac,  WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB Type-C, GPS, Glonass, Beidou, Galileo, NFC, ANT+
รองรับระบบ 2G GSM: GSM850, GSM900, DCS1800, PCS1900

3G UMTS: B1(2100), B2(1900), B5(850), B8(900)

4G FDD LTE: B1(2100), B3(1800), B5(850), B7(2600), B8(900), B20(800), B28(700)

4G TDD LTE: B38(2600), B40(2300), B41(2500)

(รองรับ 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)

แบตเตอรี่ 4000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Fast charge 15W
สี/ ราคา Prism Crush Black, Prism Crush White และ Prism Crush Green ราคา 10,990 บาท

 

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องบรรจุภัณฑ์มาในโทนสดใส ซึ่งสื่อถึงดีไซน์ที่โดดเด่นของตัวเครื่อง Galaxy A50s ทั้งด้านหน้าและหลัง พร้อมกำกับชื่อรุ่นขนาดใหญ่ไว้ชัดเจน ส่วนด้านหลังพิมพ์บอกฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์เด่น ประกอบด้วยหน้าจอ Infinity-U Display, กล้องหลังสามเลนส์ Triple Camera และระบบสแกนนิ้วบนจอแสดงผล (On-Screen Fingerprint) รวมถึงขนาดความจุ ROM/RAM พร้อมเครือข่ายที่รองรับ

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

  1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้า

2. อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด

3. เคสซิลิโคนชนิดใส

4. ชุดหูฟังสมอลทอร์ค พอร์ต 3.5 มม.

4. สาย USB Type C + อแดปเตอร์ชารจ์ Output 9.0V /1.67A & 5.0V/2.0A

อแดปเตอร์ชารจ์บน Galaxy A50s รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว Fast charge 15W

 

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

เป็นการยกระดับงานออกแบบบน Series A ครั้งใหญ่ โดย Galaxy A50s มาพร้อมดีไซน์ “3D prism design” ที่ใช้รูปทรงเลขาคณิต ผสานเข้ากับเทคโนโลยีเคลือบสีในชั้นเลเยอร์ขั้นสูง ทำให้เกิดเอฟเฟกต์สะท้อนแสงแบบโฮโลกราฟฟิก โดยจะทำให้เราสามารถมองเห็นสีรุ้งยามเมื่อแสงตกกระทบตัวเครื่องในมุมต่าง ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นดีไซน์ที่เหนือชั้นและไม่ซ้ำกับคู่แข่งในท้องตลาดอย่างแท้จริง

สำหรับตัวเครื่องในภาพรวม มีความโค้งมนออกแบบได้สอดคล้องตามหลักสรีระศาตร์ ทำให้การจับถือพกพา มีความสะดวกคล่องตัวที่ดีมาก นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมความเพรียวบางถึง 7.7 มม. มีน้ำหนักเบาแค่ 166 กรัม แทบไม่น่าเชื่อว่า Galaxy A50s  จะทำความบางได้ดีขนาดนี้ เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่และมีแบตเตอรี่ความจุสูง แต่ทุกอย่างก็ถูกจัดสรรเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว

ซัมซุงถือว่าเป็นผู้นำด้านจอแสดงผล โดยเฉพาะพาเนล Super AMOLED ซึ่งเราจะพบเห็นในสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่นของค่ายซัมซุง และแน่นอนว่า Galaxy A50s เลือกใช้จอแสดงผลคุณภาพสูง แบบ Super AMOLED เช่นกัน โดยมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 มี Notch รูปแบบ Infinity-U Display พร้อมขอบจอบางเฉียบ แทบจะไร้ขอบเลยก็ว่าได้ เมื่อผสานเข้ากับ Notch หรือรอยบากที่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลง จึงทำให้มีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 91.6% เลยทีเดียว

นอกจากนี้ด้วยความละเอียดระดับ FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล ในด้านความคมชัดนั้นหายห่วง แถมให้สีสันที่สว่างสดใส มีมุมมองที่กว้าง สามารถตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป รวมถึงจัดเต็มด้านความบันเทิงได้เป็นอย่างดี ทั้งท่องเว็บ, ดูหนัง, เล่นเกมได้อย่างเต็มอรรถรส

เซ็นเซอร์วัดแสงและกล้องหน้าจัดวางอยู่ในเลย์เอาท์ของรอยบาก ส่วนลำโพงสนทนาจะถูกจัดวางในตำแหน่งของขอบจอได้อย่างลงตัว สำหรับกล้องหน้าให้ความละเอียดมาสูงถึง 32 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 ทำให้สามารถตอบโจทย์การถ่ายเซลฟี่ได้ในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็น Day Light หรือ Low Light

กล้องหลัง 3 เลนส์ Triple Camera  เต็มเปี่ยมประสิทธิภาพด้วย Hardware อันทรงพลัง พร้อมขับเคลื่อนด้วย AI  อัญชาญฉลาด

รอบนี้ซัมซุงอัพเกรดความสามารถกล้องให้ Galaxy A50s ขึ้นไปอีกขั้น ด้วย Hardwarw ชั้นเยี่ยม แถมยังใส่ฟีเจอร์เทพ ๆ บางส่วนจากเรือธงมาไว้ใน Galaxy A50s อีกด้วย เช่น Scene Optimizer, flaw detection ระบบกันสั่น Super Steady และ AR Doodle สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นของ Triple Camera บน Galaxy A50s ประกอบไปด้วย

กล้องตัวที่หนึ่ง เลนส์ Depth sensor สำหรับการถ่าย Portrait ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2

กล้องตัวที่สอง Main Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0

กล้องตัวที่สาม Ultra Wide เลนส์มุมกว้างพิเศษ 123 องศา ระยะ 13mm ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.2

 

จากนี้มาสำรวจ Hardware ภายนอกกันต่อ

ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียง ด้านล่างประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., พอร์ตชาร์จ Type-C, ไมค์สนทนา, และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

สำหรับคุณภาพเสียงจากลำโพงอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งเรื่องของความดัง ความกระจ่างใสเคลียร์ สามารถเปิดระดับเสียงจนสุดโดยไม่มีอาการแตกพร่าแต่อย่างใด

ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง ถัดลงมาคือปุ่มพาวเวอร์ ที่วางเลย์เอาท์ได้ดีมาก โดยไม่อยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป ทำให้สามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสะดวกคล่องตัว

ช่องใส่ซิมการ์ดและหน่วยความจำภายนอกถูกจัดวางไว้ที่มุมบนฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง

ตัวถาดซิมของ Galaxy A50s เป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม พร้อมสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 512GB

 

ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน Samsung Galaxy A50s

On-Screen Fingerprint & Knox 

ระบบสแกนนิ้วบนจอแสดงผล (On-Screen Fingerprint) ทำงานได้รวดเร็วแม่นยำ ทั้งนี้ก็คงต้องบอกว่าฟีเจอร์สแกนนิ้วบนจอแสดงผล อาจจะไม่ใช่ของใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ Galaxy A50s นั้นแตกต่างจากคู่แข่งคือการผสานโซลูชั่นความปลอดภัยขึ้นสูง ที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว นั่นก็คือ Knox ที่มีการติดตั้งไว้ในตัวเฟิร์มแวร์ ทำให้การใช้งานด้านความปลอดภัยร่วมกับระบบ Biometric ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า มีความปลอดภัยรัดกุมเพิ่มมากยิ่งขึ้น สามารถใช้งานด้านธุรกรรมทางการเงิน หรือปกป้องข้อมูลสำคัญ ๆ ได้อย่างอุ่นใจ

ส่วนระบบ Face unlock บน Galaxy A50s มีความรวดเร็วแม่นยำ ไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ โดยใช้เวลาไม่ถึง 0.60 วินาที และยังทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้โดยไม่มีปัญหา อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

 

Infinity-U Display “Super AMOLED”

ซัมซุงถือว่าเป็นผู้บุกเบิกหน้าจอแสดงผลบนสมาร์ตโฟน ตั้งแต่การนำจอ LCD มาใช้เป็นรายแรกของโลก จนกระทั้งเปิดตัวพาเนล Super AMOLED ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงและคุณสมบัติอันยอดเยี่ยม ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่สมาร์ตโฟนจากค่ายซัมซุงจะมีหน้าจอที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

สำหรับ Samsung Galaxy A50s มาพร้อมจอแสดงผลพาเนล Super AMOLED ที่สามารถแสดงขอบเขตสีได้สมจริง โดดเด่นด้วยความคมชัด สว่างสดใส ให้มุมมองกว้างดูแล้วสบายตา มี Respond การตอบสนองที่อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ และมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 โดยมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 91.6% ซึ่งออกแบบ Notch ในรูปแบบ Infinity-U Display ที่มีขนาดเล็ก ผสานกับขอบจอที่บางเฉียบ จึงส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Galaxy A50s ยังมาพร้อมพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้งาน ทั้งโหมดกรองแสงสีฟ้า และโหมดใช้งานกลางคืน ซึ่งทั้งสองฟีเจอร์จะช่วยถนอมสายตาจากการใช้งานต่อเนื่องรวมถึงในสภาวะแสงน้อยได้ดีอีกด้วย

Link to Windows

เป็นการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับ PC ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows โดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตเครือข่ายเดียวกัน และไม่ต้องเชื่อมต่อผ่านทางสายใด ๆ ผู้ใช้งานสามารถดูและใช้ไฟล์รูปถ่ายล่าสุดที่อยู่ใน Galaxy A50s ผ่านทางทาง PC, ดูและส่งข้อความผ่านทาง PC,  สามารถดูการแจ้งเตือน Notification เช่นสายเรียกเข้า อีเมล์ โซเชี่ยล ฯลฯ และนำการแสดงผลของสมาร์ตโฟนขึ้นไปยัง PC

Samsung Galaxy A50s มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4000mAh ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานข้ามวัน แถมยังมีระบบชาร์จไวด้วยเทคโนโลยี Fast charge 15W เมื่อลองทดสอบด้วยการชาร์จจากระดับแบต ที่ 10% จนถึง 65% ใช้เวลาเพียง 50 นาทีเท่านั้น ถือว่าชาร์จได้ไวน่าประทับใจมาก ๆ ครับ

ทั้งนี้ควรใช้สาย Micro USB และอแดปเตอร์ชาร์จที่ให้มาในกล่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพสูงสุดครับ

 

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์

Samsung Galaxy A50s เปิดตัวมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 และครอบทับด้วย One UI โดยตัว User Interface มาในสไตล์โมเดิร์น พร้อมเน้นประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความสะดวกคล่องตัว และสิ่งที่น่าประทับใจคือไม่มีการพรีโหลด Third-Party App มาให้เหมือนแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้การใช้งานพื้นที่ภายในตัวเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพ และผู้ใช้งานไม่รู้สึกรำคาญกับบางแอปฯที่ติดตั้งมาให้โดยที่ไม่ต้องการอีกด้วย

ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งในส่วนของเลย์เอาท์หน้าจอหลัก ทั้งรูปแบบคอลัมน์ และหน้า Apps Drawer ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และรูปแบบธีมที่สวยงาม ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากแอปพลิเคชัน ร้านขายธีม หรือ Galaxy Themes ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วภายในเครื่อง

Apps edge ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมขอบจอโค้งในแบบ edge to edge และถึงแม้ว่าหน้าจอของ Galaxy A50s จะไม่ได้เป็นจอโค้งแบบ edge to edge เหมือนรุ่นพี่ก็ตาม แต่ก็สามารถประยุกต์ใช้งานฟีเจอร์นี้ เพื่อช่วยให้สามารถเข้าถึงทางลัดของแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรของ Samsung Galaxy A50s มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับ Wi-Fi Calling และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูงบนคลื่น 4G  มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย

เชื่อว่าหลายคนอาจจะพลาดกับฟีเจอร์สุดเทพอย่าง Adapt Sound กันอยู่ไม่น้อย ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีและเหมาะสมที่สุดผ่านทางหูฟังที่ปรับแต่งให้เกิดความสมดุล โดยเราสามารถกำหนดโปรไฟล์ของรูปแบบเสียง ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง

 

Game Launcher ฟีเจอร์ที่พร้อมตอบโจทย์คอเกมสายฮาร์ดคอร์ ที่ต้องการประสิทธิภาพในการเล่นเกมแบบขั้นสุด รวมถึงผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป ที่ต้องการปรับตั้งค่าการเล่นเกมให้สมดุล ทั้งการประหยัดพลังงานและการใช้ข้อมูลเดต้าอย่างเหมาะสม

 

Samsung มอบพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ให้ลูกค้าใช้ฟรี ๆ ถึง 15 GB นอกจากจะใช้เก็บข้อมูลทั่ว ๆ ไปเหมือนผู้ให้บริการ cloud storage ที่มีบริการอยู่ในท้องตลาดแล้ว ตัว Samsung cloud ยังมาพร้อมฟีเจอร์ในการสำรองและคืนค่าให้กับตัวสมาร์ตโฟนได้อีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการที่ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าของซัมซุงได้รับความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปใช้งานสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ แต่ข้อมูลสำคัญ ๆ ก็ยังอยู่ครบถ้วน

 

Bixby Routines ผู้ช่วยอัจฉริยะที่อักเกรดความสามารถขึ้นมาอีกระดับ เป็นฟีเจอร์ที่ถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่ในซีรีส์ S10 นั่นเอง สำหรับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกก็ใส่มาให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งโหมดใช้งานมือเดียว, ฟีเจอร์ Motions & Gestures ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ของตัวเครื่อง เช่นยกเครื่องเพื่อปลุกหน้าจอ, การเปิดหน้าจอค้างไว้ในขณะที่มองหน้าจอ, การใช้ฝ่ามือเพื่อจับภาพหน้าจอเป็นต้น และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว

Device care เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการลบไฟล์ขยะและไฟล์แคชของระบบ, การจัดการด้านหน่วยความจำ, การสแกนไวรัส และการดูแลแบตเตอรี่เป็นต้น ซึ่งแอปฯนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

มาพร้อมแบตความจุสูงถึง 4000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Fast charge 15W จากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน หากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไม่ได้เน้นเล่นเกม สามารถใช้งานได้ครบ 1 วันแบบสบาย ๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้ตัวชิปเซ็ทและ Firmware ที่ปรับแต่งมาได้ดีมาก ๆ

ปิดท้ายด้วย Galaxy Rewards และ Galaxy Gift เอกสิทธิ์ที่พร้อมมอบสิทธิพิเศษแบบ Exclusive ที่มีให้เฉพาะลูกค้าของซัมซุงเท่านั้น ซึ่งหาไม่ได้ในแบรนด์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในตลาด ณ ทุกวันนี้

 

ประสิทธิภาพ

เปิดตัวมาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Exynos 9611 บนสถาปัตยกรรม 10nm ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่า Exynos 9610 แบบสัมผัสได้ ทั้งเรื่องประสิทธิภาพและการจัดสรรพลังงานโดยรวม การรองรับ camera performance ที่สูงขึ้น การประมวลผลและจัดการภาพถ่ายและวีดีโอที่รวดเร็ว และ AI ที่ชาญฉลาดขึ้นเป็นต้น ทำให้ในภาพรวมเรื่องความแรง ความลื่นไหลนั้นหายห่วง  สามารถตอบทุกโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือเล่มเกมที่ต้องการประมวลผลหนัก ๆ ก็ตาม

สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ให้มาอย่างครบถ้วนตามที่สมาร์ทโฟนระดับ Mid-range ควรจะมี ส่วนในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของความเร็วและความแม่นยำ

 

มัลติมีเดียและความบันเทิง

ซัมซุงยังเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้ใช้งานที่ยังชื่นชอบการรับฟังวิทยุ FM จึงไม่ได้ตัดฟีเจอร์นี้ออกไป และ FM บน Samsung Galaxy A50s  นั้นเป็น FM แบบทศนิยมสองจุด ที่มีภาครับสัญญาณถือว่าคมชัดใช้ได้เลย ส่วนฟีเจอร์ก็ใส่มาให้ครบถ้วน ทั้งการบันทึกวีดีโอไว้ฟังแบบออฟไลน์ และการส่งไปยัง Reminder เป็นต้น

Music Player เป็นแอปฯที่พัฒนาโดยซัมซุง โดยมาพร้อมความสามารถแบบจัดเต็มไม่แพ้แอปฯเสียเงินที่มีอยู่ในสโตร์ เพียงแต่ไม่ได้มีการพรีโหลดมาให้ตั้งแต่โรงงาน เราต้องทำการดาวน์โหลดมาติดตั้งเองในภายหลัง ในแง่ความสามารถนั้นครบเครื่องจัดเต็มตามที่เกริ่นไป ส่วนสิ่งที่ขับเน้นให้เกิดความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือในด้านกำลังขับและเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง อีควอไลเซอร์ได้ยืดหยุ่นตรงกับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี  จึงทำให้การฟังเพลงหรือรับชมคอนเทนต์นั้นเต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน

สำหรับ Video Player บน Samsung Galaxy A50s รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น

 

ทดสอบการเล่นเกม

Asphalt 9 เมื่อเลือกปรับกราฟิคคุณภาพสูง ยังสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการแลคให้หงุดหงิดใจ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับชิปเซ็ตรุ่นใหม่และการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ออกมาได้ดีมาก ๆ

ROV เกมแนว MOBA สุดฮิต ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดงหรือผู้สูงวัยต่างก็ติดกันอย่างงอมแงม (ฮ่า) เมื่อลองเล่นที่บนเฟรมเรทสูง ก็ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่สมูทไหลลื่น แถมเฟรมเรทไม่ตกอีกด้วย ไม่ว่าจะเดินชิล ๆ หรือลุยตะลุมบอลหมู่ โดยสามารถรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 59- 60fps แบบต่อเนื่อง

ปิดท้ายกันไปแด้วย PUBG เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องการทรัพยากรขั้นสูง หากต้องการเล่นบนความละเอียดคมชัดระดับ HD พร้อมความลื่นไหล ซึ่งไม่มีปัญหากับ Samsung Galaxy A50s แต่อย่างใด เพราะสเปคนั้นตอบโจทย์อยู่แล้ว และรวมถึงฟีเจอร์ Game Launcher ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ Galaxy A50s เป็นสมาร์ตโฟนระดับ Mid-Range ที่ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมรุ่นหนึ่งในท้องตลาด

 

ทดสอบกล้องหน้า/หลัง

User Interface หรือเมนูกล้องบน Samsung Galaxy A50s  ถูกออกแบบให้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์และโหมดการถ่ายภาพต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยด้านบนจะประกอบไปด้วย โหมดการตั้งค่า, Bixby Vision, โหมดแฟลช, ตั้งแวลาในการถ่าย, อัตราส่วนของภาพ,  AR Emoji, และฟิลเตอร์ต่าง ๆ

ส่วนด้านล่าง จะมีโหมดการถ่ายภาพมุมกว้าง/มุมปรกติ, Scene optimizer และโหมดการถ่ายต่าง ๆ ที่สามารถจัดเรียงได้ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ

กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงกว้าง f/2.0 ส่งผลให้สามารถถ่ายเซลฟี่ได้ดีในทุกสภาพแสง แถมยังรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K เหมือนรุ่นพี่ซีรีส์ S และ Note ได้อีกด้วย ในส่วนของฟีเจอร์ไฮไลท์อย่างไลฟ์โฟกัสก็โดดไม่แพ้รุ่นพี่เช่นกัน ทั้งเรื่องการละลายฉากหลังได้ละมุนเป็นธรรมชาติและเก็บดีเทลเส้นขอบของตัว subject หรือตัวแบบได้ดีมาก ๆ อีกด้วย

 

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto

ทดสอบกล้องหน้าในโหมดไลฟ์โฟกัส จะเห็นได้ว่าการละลายฉากหลังดูเป็นธรรมชาติ และเก็บดีเทลของเส้นขอบได้ค่อนข้างเนียนตาอีกด้วย

ในโหมดไลฟ์โฟกัสผู้ใช้งานสามารถ เปลี่ยนรูปแบบ background effect ได้อีก 3 รูปแบบ พร้อมปรับระดับการเบลอได้ตั้งแต่ 0-7 ระดับ ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่มีความสนุกและได้ผลลัพธ์ที่ตื่นตาตื่นใจอีกด้วย

ทดสอบกล้องหน้าในที่แสงน้อย

ลองถ่ายเซลฟี่ภายในอาคารที่มีแสงน้อย ภาพที่ได้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ ต้องยกความดีให้กับค่ารูรับแสง f/2.0 และความฉลาดของ AI ที่ทำผลงานได้ดีทั้งในที่แสงปรกติและในที่แสงน้อย

 

ทดสอบกล้องหลัง AI Triple Camera

กล้องหลัง 3 เลนส์ Triple Camera โดดเด่นด้วย Smart AI Technology ค้นหาชอตที่สมดุลให้เราได้ง่ายๆ มีเทคโนโลยี AI จดจำชอตถ่ายภาพได้อย่างฉลาด พร้อมฟีเจอร์ Scene Optimizer ที่เป็นระบบกล้องอัจฉริยะที่ช่วยให้ปรับระดับความสว่าง ความคมชัด ความสมจริงได้มากถึง 30 ซีน นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์เทพ ๆ เหมือนรุ่นพี่ในซีรีส์ S และ Note เช่น flaw detection , AR Doodle และ Super Steady ที่เป็นระบบกันสั่น โดยไม่ต้องพึงพากิมบอลหรือไม้กันสั่น ซึ่งหาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน

 

ทดสอบกล้องหลัง

กล้องหลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กล้องหน้า โดยในสภาพแสงปรกติ โทนภาพออกแนวคม ใสเคลียร์ ให้ไดนามิค เรนจ์ ที่น่าประทับใจ เรียกว่าจบหลังกล้องโดยไม่ต้องแต่งภาพได้เลย

สำหรับ Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์มุมมองกว้างพิเศษถึง 123 องศา ช่วยให้เก็บภาพมุมกว้างได้เหมือนที่ตาเห็น และมีประโยชน์ในการถ่ายในสถานที่แคบ ๆ ไม่มีพื้นที่ให้ถอย รวมถึงสามารถเก็บภาพบุคคลหรือหมู่คณะได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ตกตกหล่นเพื่อนคนใดคนหนึ่งอีกต่อไป

โหมด Normal ระยะปรกติ

โหมด Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษ

โหมด Normal ระยะปรกติ

โหมด Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษ

สำหรับโหมด Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษ ไม่ได้เด่นแค่การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์เพียงอย่างเดียว เมื่อนำมาใช้ถ่ายภาพบุคคล ก็จะช่วยให้แบบดูเพรียว ดูขายาวขึ้นอีกนิด ซึ่งตรงนี้สาว ๆ ต้องชอบกันอย่างแน่นอน

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto

ทดสอบกล้องหลังในโหมดไลฟ์โฟกัส ด้วยคุณสมบัติของเลนส์ Depth sensor ที่ให้ความละเอียดมาถึง 5 ล้านพิเซล ผสานกับรูรับแสงกว้าง f/2.2 จึงทำให้การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอบน Galaxy A50s นั้นทำผลงานได้ดีมาก ๆ สามารถเบลอฉากหลังได้ละมุนละไมในสไตล์กล้องมืออาชีพ ให้ลองสังเกตปอยผมที่หัวไหล่ด้านขวาของแบบ ซึ่งยังคงดีเทลไว้ได้ ไม่ถูกกลบให้เป็นปื้น ๆ ดูแล้วไม่เนียนตาเหมือนบางแบรนด์ รวมถึงการเก็บขอบรายละเอียดในภาพรวมก็ดูมีความเป็นธรรมชาติด้วยเช่นกัน

 

Auto Mode

Night Mode

Night Mode ที่เป็นการถ่ายภาพซ้อนหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง

Auto Mode

Night Mode ไม่ได้ทำให้ภาพสว่างขึ้นมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยดึงดีเทลรายละเอียดของภาพกลับมาอีกทางหนึ่งด้วย สามารถดูการเปรียบเทียบได้จากภาพตัวอย่าง ซึ่งภาพด้านล่างเมื่อเมื่อเปิดใช้ Night Mode แล้ว ภาพจะดูสว่างขึ้นและเพิ่มรายละเอียดในส่วนที่ขาดหายไปจากภาพด้านบน

มาพร้อมฟีเจอร์ Document Scanner สามารถสแกนเอกสารได้ง่าย ๆ ให้ตัวหนังสือคมชัดดุดเครื่องสแกน ฟีเจอร์นี้ใช้งานง่ายมาก แค่ส่งกล้องไปยังหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์ที่ต้องการสแกน จากนั้นกล้องจะทำการครอปให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติ

AR Doodle ฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวพร้อม Note 10 โดยเป็นการวาดภาพเสมือนจริงลงไปในการบันทึกวีดีโอ เมื่อกล้องตรวจพบใบหน้าหรือที่ว่าง ลายเส้นบนใบหน้าจะติดตามใบหน้าขณะที่เคลื่อนไหว ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การถ่ายวีดีโอมีลูกเล่นสนุกสนานเพิ่มมากยิ่งขึ้น

 

โหมดบันทึกวีดีโอ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Super Steady ซึ่งเป็นระบบกันสั่นโดยไม่ต้องพึงพากิมบอลหรือไม้กันสั่น ฟีเจอร์นี้ได้ถูกถ่ายทอด DNA มาจากสมาร์ตโฟนเรือธงอย่างซีรีส์ S และ Note  ซึ่งต้องบอกเลยว่าหาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน

 

สรุป Samsung Galaxy A50s 

Samsung Galaxy A50s มาพร้อมความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่แปลกใหม่ด้วย  “3D prism design”  ซึ่งให้สีสันที่เปลี่ยนไปตามแสงตกกระทบ โดยสิ่งที่น่าประทับใจตั้งแต่แรกจับเลยก็คือ ความเพรียวบาง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก  ส่วนกล้องหน้าและหลังถือว่าทำผลงานได้ดี สามารถตอบโจทย์สาย Live ด้วยกล้องหน้าที่รองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K  รวมถึงกล้องหลังที่ให้คุณภาพไม่แพ้ใครในท้องตลาด แถมยังมีฟีเจอร์เทพ ๆ ที่ถูกถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่ที่เป็นเรือธงของปีนี้อีกด้วย ทำให้ Galaxy A50s มีความโดดเด่นมาก เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนในระดับเดียวกัน และถึงแม้สเปคจะไม่ได้ถูกอัดมาแบบล้น ๆ เหมือนคู่แข่ง แต่สเปคของ Galaxy A50s ที่ให้มานั้นเพียงพอต่อการใช้งานในยุคนี้ได้อย่างเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมที่มีกราฟิกสูง ๆ ซึ่ง Galaxy A50s สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน 

สำหรับสิ่งที่ซัมซุงดูจะมีภาษีเหนือกว่าคู่แข่ง คือเน้นการนำเสนอนวัตกรรมอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของจอแสดงผล, ระบบเสียง Dolby Atmos , กล้องหน้า/หลังที่มาพร้อมฟีเจอร์อัดแน่น รวมถึงโซลูชั่นด้านความปลอดภัย “Knox” ที่ช่วยให้สมาร์ตโฟนมีความปลอดภัยรัดกุมเพิ่มมากยิ่งขึ้น สามารถใช้งานด้านธุรกรรมทางการเงิน หรือปกป้องข้อมูลสำคัญ ๆ ได้อย่างอุ่นใจ นอกจากนี้ยังมีอีโคซิสเต็ม, สิทธิพิเศษ และบริการหลังการขายที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายขุม ทั้งหมดทั้งปวง จึงส่งผลให้ Samsung Galaxy A50s อาจจะไม่ใช่สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม แต่นี่คือสมาร์ตโฟนที่ลงตัวที่สุดของชั่วโมงนี้อย่างแท้จริง

Facebook Comments

Related Posts