3.5K
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราแล้วสำหรับ realme X3 SuperZoom สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ในตระกูล X Series ภาคต่อของ realme X2 Pro ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุดทางทีมงาน IbelieveIT ได้เครื่องรีวิวเรียบร้อย โดย realme X3 SuperZoom มาพร้อมสโลแกน “พลังซูม พลังแรง”
โดยพลังซูมคือ เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกจาก realme ที่มาพร้อมเลนส์ Periscope รองรับระยะการซูมตั้งแต่ 16 มม. -124 มม. และซูมได้สูงสุด 60 เท่า สามารถเก็บภาพทิวทัศน์ระยะไกลได้อย่างชัดเจน
ส่วนพลังแรงทรงพลังด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 855 Plus เทคโนโลยีชิปเซ็ตขนาดเล็กเพียง 7nm. ความเร็วสูงสุด 2.96GHz ผ่านการทดสอบจากแอป Benchmark โดยทำคะแนนสูงสุด 517,743 คะแนน
นอกจากนี้ยังจัดเต็มด้วยคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ มากมาย เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาชมรีวิวฉบับเต็ม realme X3 SuperZoom กันเลยครับ
รวมทั้งมีโหมดกลางคืน (Dark Mode), ปรับอุณหภูมิสีหน้าจอ ลดแสงสีฟ้าเพื่อช่วยถนอมสายตาและสามารถตั้งเวลาเปิดอัตโนมัติได้ และฟีเจอร์ OSIE สำหรับปรับสีสันของหน้าจอให้มีความสดใสและช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพ
มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง Side Fingerprint Scanner สามารถปลดล็อคได้ไวโดยใช้เวลาเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น รวมทั้งยังจดจำลายนิ้วมือได้อย่างชาญฉลาด ด้วยระบบ capacitive เพียงกดปุ่มเดียวก็สามารถที่จะปลดล็อคสมาร์ทโฟนได้ทันที และยังช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนระบบ face unlock บน realme X3 SuperZoom นั้นก็ให้ความรวดเร็วแม่นยำ ไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ โดยใช้เวลาไม่ถึง 0.23 วินาที และยังทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อย อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ตอบโจทย์คอเกมสายฮาร์ดคอร์ด้วย HyperBoost 2.0 เทคโนโลยีที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ประกอบด้วย FrameBoost 2.0 สามารถวิเคราะห์สถานการณ์แบบ real-time และจัดการเฟรทเรทให้เสถียรขึ้น 41.1% และ TouchBoost 2.0 ซึ่งช่วยเพิ่มการตอบสนองหน้าจอสัมผัสได้ดีขึ้น 22.2%
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนอัพเกรดใหม่ โดยมีการครอบคลุมแหล่งความร้อนภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ 100% โดยท่อระบายความร้อนทำจากท่อทองแดงขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 มม. เพิ่มพื้นที่การกระจายความร้อนโดย 176.9% และปริมาณการกระจายความร้อน 410 มม. ³ รวมถึงช่วยให้อุณหภูมิแกนกลางลดลงเพื่อรักษาประสิทธิภาพและความเร็วอีกด้วย
สำหรับ Game Space “การเร่งความเร็วเกม” ที่ช่วย optimization ให้เล่นเกมได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยจัดการด้านจัดการด้านเครือข่าย เช่นการปฏิเสทสาย จัดการด้านการแจ้งเตือน ล็อคความสว่างเป็นต้น ทำให้การเล่นเกมบน realme X3 SuperZoom นั้นเป็นไปอย่างสมูทลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุดติดขัดให้หงุดหงิดใจในขณะเล่นเกม
รวมไปถึงมีระบบ Tactile Engine Motor หรือมอเตอร์สั่นตามสถานการณ์ของเกมเพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสในระหว่างเล่นเกมให้มีความสมจริง และสนุกเพิ่มขึ้น
realme X3 SuperZoom ใข้แบตเตอรี่ความจุ 4,200mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Flash Charge โดยชาร์จผ่านอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว (5V6A) ที่แถมมาให้ในกล่อง สามารถชาร์จจาก 0-100% ภายในเวลาเพียง 55 นาทีหรือสามารถชาร์จได้เกือบ 70% ภายในระยะเวลา 30 นาทีเท่านั้น
ไม่ว่าจะเล่นเกมหนักหน่วงขนาดไหนก็สามารถชาร์จไวได้ 60% ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง รวมทั้งรองรับ 15W PD charge และมีป้องกันความปลอดภัยถึง 5 ชั้นและรับรองความปลอดภัยในการชาร์จตั้งแต่หัวชาร์จ สายชาร์จ และตัวสมาร์ทโฟน
realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับ realme UI บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 10 ซึ่งมีหน้าตาที่มีสีสันสดใส high-saturation ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา พร้อมพัฒนาภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่นให้รวดเร็วและไหลลื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตนเอง
สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอได้โดยกดค้างที่ตรงกลางของหน้าจอ
รูปแบบธีมที่สวยงาม ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากแอปพลิเคชัน ร้านขายธีม หรือ Theme Store ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วภายในเครื่อง
ฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรของ realme X3 SuperZoom มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูงบนคลื่น 4G มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ในด้านการโทรที่ให้มาก็ถือว่าครบถ้วนและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวัน เช่นฟีเจอร์บล็อคสาย บล็อคข้อความ ได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถบันทึกสายขณะโทรได้โดยตรง ไม่ต้องลงแอปเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ในโหมด Quick gestures หรือโหมดตัวช่วยเพิ่มความสะดวก เป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานมาอย่างยาวนานบนสมาร์ทโฟนของหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็คือการทำงานร่วมกับพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ โดยเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่นการคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียง, วาดบนหน้าเจอเพื่อเปิดแอปฯ / ควบคุมการคอนโทรล Music Player, การจับภาพหน้าจอด้วย 3 นิ้ว, การรับสายอัตโนมัติเมื่อนำโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเป็นต้น
สำหรับปุ่มนำทาง Navigation สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะกับความถนัดของเราได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Full Screen gesture ที่มาพร้อมฟีเจอร์สั่งการง่าย ๆ แต่สามารถใช้งานจอแสดงผลได้แบบเต็ม 100%
ซึ่ง Navigation gestures เป็นฟีเจอร์ที่ใช้การสไลด์นิ้วบนหน้าจอแสดงผลแทนการกดปุ่ม navigation เพื่อให้เป็นการแสดงผลแบบเต็มหน้าจออย่างแท้จริงนั่นเอง
Smart Slider สำหรับเรียกใช้งานคีย์ลัด เช่นการจับภาพ / บันทึกหน้าจอ, การเข้าถึงไฟล์, กล้อง, ข้อความและแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านการสไลด์ที่บริเวณขอบด้านข้างของหน้าจอแสดงผล โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้งและแนวนอน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาเข้ามาอยู่ในแถบ Smart Slider ได้อีกด้วย
แบ่งหน้าต่างเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นไปพร้อม ๆ กัน ได้ง่าย ๆ แค่ลากสาวนิ้วจากล่างขึ้นด้านบนของจอแสดงผล และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว
ในด้านความปลอดภัย realme X3 SuperZoom มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยป้องการใช้งานในภาพรวมได้อย่างครอบคลุม ทั้งข้อมูลส่วนตัว การเข้าถึงแอปพลิเคชั่น พื้นที่สำหรับเด็ก และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมายที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้ผู้ใช้งานอุ่นใจและมีความปลอดภัยสูงสุด
Phone Manager เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการลบไฟล์ขยะและไฟล์แคชของระบบ, การจัดการด้านความปลอดภัยความเป็นส่วนตัว, การสแกนไวรัส และการปกป้องด้านการชำระเงินเป็นต้น ซึ่งแอปฯนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
ปิดท้ายกันไปด้วยการจัดสรรพลังงาน ในภาพรวมต้องบอกว่า realme X3 SuperZoom นั้นมีแบตที่อึดอย่างน่าประทับใจ หากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ สามารถใช้งานได้ครบ 1 วันแบบสบาย ๆ
ตรงนี้นอกจากแบตเตอรี่ที่ให้ความจุมาสูงถึง 4,200mAh แล้ว ยังมาพร้อมการป้องกันการใช้พลังงานแบบอัจฉริยะ รวมถึงมีตัวเลือกการประหยัดพลังงานที่ช่วยเพิ้มประสิทธิภาพการเปิดเครื่องรอใช้งานขณะนอนหลับ และโหมดประสิทธิภาพอัจฉริยะที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติตามสถานการณ์การใช้งาน จึงทำให้การจัดสรรพลังงานบน realme X3 SuperZoom เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
realme X3 SuperZooom ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 885 Plus ผสมผสานระหว่าง eight-core Kyro CPU และ Adreno 640 GPU มีประสิทธิภาพการทำงานเร็วกว่า Snapdragon 855 ถึง 15% รวมทั้งรองรับ Snapdragon Elite Gaming และชิป AI ประมวลผลได้เร็วกว่าเดิม 3 เท่า เล่นเกมได้ลื่นไหล สลับแอปไวกว่าเดิม
สำหรับเซ็นเซอร์ต่างๆ ให้มาอย่างครบถ้วน ส่วนในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของความเร็วและความแม่นยำ
Music Player บน realme X3 SuperZoom มาพร้อมความสามารถที่ครบเครื่อง เรียกว่าไม่แตกต่างจากแอป Music Player ยอดนิยมทั่ว ๆ ไป เช่นการเล่นสุ่ม/เล่นซ้ำ การสร้างเพลย์ลิสต์ ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าเป็นต้น
แต่สิ่งที่มีความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือในด้านกำลังขับและเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง อีควอไลเซอร์ได้ยืดหยุ่นตรงกับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การรับชมคอนเทนต์เต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ realme X3 SuperZoom ยังรองรับคุณภาพเสียงแบบ Hi-Res (ผ่านหูฟัง) อีกด้วย
สำหรับ Video Player บน realme X3 SuperZoom รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
Asphalt 9 เลือกปรับคุณภาพภาพแบบเน้นความไลหลื่น สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการแลคให้หงุดหงิดใจ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับชิปเซ็ตและพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 3.0 รวมถึง RAM ที่จัดเต็มถึง 12GB
ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา เมื่อลองเล่นที่บนเฟรมเรทสูง ก็ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่สมูทลื่นไหล แถมเฟรมเรทไม่ตกอีกด้วย โดยสามารถรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 58- 60fps แบบต่อเนื่อง
สำหรับ PUBG Mobile เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องการทรัพยากรขั้นสูง หากต้องการเล่นบนความละเอียดคมชัดระดับ HD พร้อมความลื่นไหล ซึ่งไม่มีปัญหากับ realme X3 SuperZoom แต่อย่างใด เพราะสเปคนั้นจัดเต็มอยู่แล้ว เมื่อบวกกับ HyperBoost 2.0 ที่เป็นโหมดการเล่นเกมอันโดดเด่น จึงส่งผลให้ realme X3 SuperZoom เป็นสมาร์ตโฟนที่ตอบสนองในการเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
User Interface หรือหน้าเมนูกล้องออกแบบเน้นที่ความเรียบง่ายสะอาดตา การเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยประกอบไปด้วย การเปิด/ปิดไฟแฟลช, HDR Mode, โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง (Wide-Angle), AI Mode, ฟีลเตอร์ และการตั้งค่าหลักของกล้อง
ส่วนกล้องหน้าจะมีไฮไลท์ที่ AI Beauty แบบล่าสุด รองรับ AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ สามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้ถึง 296 จุด ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมจำแนก เพศ อายุ และสีผิว เพื่อให้ภาพออกมาเหมาะสมเข้ากับบุคคลและเพศของผู้ใช้งาน
สำหรับโหมดการถ่ายอื่น ๆ สามารถเรียกใช้งานโดยแตะที่ปุ่มสามขีดที่มุมขวาด้านบน โดยมีโหมดความละเอียด 64 MP พิเศษ, โหมดทิวศน์กลางคืน, พาโน, ผู้เชี่ยวชาญ, โหมดไทม์แลปส์, สโลว์โมชั่น และมาโครพิเศษ
ทั้งนี้ realme X3 SuperZoom มีให้เลือก 2 เฉดสีด้วยกันคือ Arctic White และ Glacier Blue วางจำหน่ายในราคา 19,990 บาท โดยเปิดให้ Pre – order แล้ววันนี้ 27 พฤษภาคมถึง 5 มิถุนายน 2563 รับฟรีเครื่องทำความชื้น และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง/ปี ที่ Banana, BKK, Kingkong ,CSC, TG Fone, Jaymart, IT City รวมมูลค่า 5,999 บาท
พิเศษ! สำหรับผู้ Pre-order ผ่านช่องทาง E-commerce ที่ Lazada และ Shopee พร้อมรับของแถมสุดพิเศษ
1. FujiFilm Instax Mini Link สี Dark Denim (ของมีจำนวนจำกัด)
2. VIP Card
3. Humidifier
มูลค่ารวม 9,889 บาท ที่ช่องทาง Shopee และ Lazada เท่านั้น
และสำหรับผู้ Pre-order ผ่านทางโอเปอเรเตอร์ AIS และ Truemove H พร้อมสมัครแพ็คเกจที่กำหนดไว้ สามารถซื้อ realme X3 SuperZoom ในราคาเริ่มต้นเพียง 10,990 บาทเท่านั้น และรับฟรีเครื่องทำความชื้น และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง/ปี รวมมูลค่า 5,999 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 6 มิถุนายน 2563
สเปคเบื้องต้น realme X3 SuperZoom
ขนาด | 163.8 x 75.8 x 8.9 มม. |
น้ำหนัก | 202 กรัม |
หน้าจอ | หน้าจอ Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.57 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.6% พร้อมค่า Refresh Rate ที่ระดับ 120Hz, รองรับ HDR10+ และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและหลัง |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.96GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 855+ (7 nm) และหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 640 (700 MHz) |
RAM | 12GB แบบ LPDDR4X |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB แบบ UFS 3.0 |
microSD Card | – |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 4 ตัว Quad Camera ประกอบด้วย – กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล Ultra high-resolution wide-angle camera เซ็นเซอร์รับภาพ Samsung ISOCELL Bright GW1 ขนาด 1/1.7 นิ้ว , รูรับแสง f/1.72, FOV 78.6° และมีขนาดของเม็ดพิกเซลใหญ่ถึง 1.6μm – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4, ซูมแบบออปติคอล 5 เท่า และซูมแบบดิจิทัล 60 เท่า, ทางยาวโฟกัส 124 mm และมีระบบกันสั่น OIS – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3, เก็บภาพได้กว้างมากถึง 119 องศา – กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Marco ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายวัตถุระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตรกล้องหน้าเซลฟี่คู่ กล้องหลักความละเอียด 32MP เซ็นเซอร์ Sony IMX616 wide-angle มุมมอง 80 องศา และกล้องรองความละเอียด 8MP super wide-angle camera สามารถ Selfie ได้อย่างกว้างมากขึ้นถึง 105 องศา |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 ครอบทับด้วย realme UI |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB Type-C, USB On-The-Go, NFC |
รองรับระบบ | 2G:GSM:850/900/1800/1900 3G:WCDMA:B1/B2/B4/B5/B6/B8/B19 4G:LTE FDD:B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28 TD-LTE:B34/B38/B39/B40/B41 ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 4200mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 30W Dart Flash charging |
สี/ ราคา | Arctic White, Glacier Blue / 19,990 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภํณฑ์ของ realme X3 SuperZoom เป็นกล่องกระดาษแข็งมาในโทนสีเหลืออร่ามตามสีของโลโก้ realme ด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนด้านหลังกล่องระบุสเปกเด่น 4 อย่างคือ ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 855 Plus, หน้าจอรีเฟรชเรท 120Hz, กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ซูม 60x SuperZoom และกล้องหน้าคู่ความละเอียด 32+8 ล้านพิกเซลแบบ Dual In-display Selfie พร้อมขนาดความจุ ROM/RAM และเครือข่ายที่รองรับอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย
1.ตัวเครื่อง realme X3 SuperZoom 2.สาย USB Type-C 3.อะแดปเตอร์ 30W Dart Flash Charge 4.อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด 5.เคสซิลิโคนใส 6.คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้ารูปลักษณ์ดีไซน์
ตัวเครื่อง realme X3 SuperZoom ได้แรงบันดาลใจจากขั้วโลกเหนือ สู่การดีไซน์ที่แท้จริง โดยพื้นผิวของหน้าจอผ่านกรรมวิธีการผลิตโดยเทคโนโลยี AG ชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ได้รับจากการกัดด้วยความแม่นยำสูงสู่พื้นผิว เรียกได้ว่ามีทั้งความสมดุลทางสายตาและได้รับความรู้สึกจากสัมผัสที่ละเอียดอ่อน นุ่มนวล สะดวกสบายและป้องกันลายนิ้วมือ หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.57 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.6% พร้อมค่า Refresh Rate ที่ระดับ 120Hz, รองรับ HDR10+, ปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและหลัง และเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่คู่ที่มุมซ้ายด้านบน พลิกมาด้านหลังเครื่อง มีให้เลือก 2 สีคือ Arctic White หิมะและน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วพื้นดิน และได้รับความส่องสว่างจากแสงของดวงอาทิตย์บนฟากฟ้าสีฟ้า จึงเกิดการสะท้อนระหว่างกันบริเวณพื้นผิว กับ Glacier Blue ภูเขาน้ำแข็งที่ล่องลอยอยู่บนพื้นผิวของมหาสมุทร กำลังจะละลายและไหลลงสู่ทะเลสีครามเมื่อยามอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งสีที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือ สี Arctic White โดยมุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว Quad Camera ความละเอียด 64MP+8MP+8MP+2MP วางเรียงกันในแนวตั้งอยู่ในกรอบวงรี ส่วนไฟแฟลช LED อยู่ด้านข้าง และมีโลโก้ realme อยู่ถัดลงมาด้านซ้าย ด้านซ้ายข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังบนปุ่มนี้ ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน ด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ SIM Card ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบ nano SIM Card, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง โดยตัดช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ออกไปไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน realme X3 SuperZoom
realme X3 SuperZoom ใช้หน้าจอที่มีอัตรารีเฟรซเรท 120Hz สามารถแสดงผลได้ 120 เฟรมต่อวินาที ถือว่ามากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 2 เท่า เรียกว่าเล่นเกม หรือชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างไหลลื่น ภาพกราฟฟิกคมชัด และมองภาพได้สบายตา และมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ไวมากๆ รวมทั้งสามารถเลือกปรับเป็นโหมดจออัตรารีเฟรชเรท 60Hz เพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ โดยหน้าจอแสดงผล 120Hz Ultra Smooth Display แบบ IPS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (402 ppi) ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 90.6% พร้อมปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits เคลือบด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์
ประสิทธิภาพ
มัลติมีเดียและความบันเทิง
ทดสอบการเล่นเกม
ทดสอบกล้องหน้า/หลัง
ทดสอบกล้องหน้า
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty ในภาพรวม เก็บรายละเอียดความคมชัดได้ดี สกินโทนมีความเป็นธรรมชาติ และไวท์บาลานซ์ค่อนข้างแม่นยำ ซึ่งในโหมด Auto ถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจมาก ๆ เมื่อลองเปิดใช้งาน AI Beauty ด้วยความฉลาดของ AI ที่สามารถสามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้ถึง 296 จุด ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมจำแนก เพศ อายุ และสีผิว เพื่อให้ภาพออกมาเหมาะสมเข้ากับบุคคลและเพศของผู้ใช้งาน ภาพที่ได้ดูสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ ทั้งในส่วนของโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ และเข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ realme X3 SuperZoom ยังมาพร้อมกับ AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว โครงสร้างใบหน้าแบบ 3 มิติ เป็นต้น โดยในรูปนี้ใช้เอฟเฟกต์ ปรับแต่งใบหน้าให้กระจ่างใส และให้ดวงตากลมโตขึ้นแบบ 100% (เพื่อให้เห็นความแตกต่างจากภาพบน) สรุปว่าปรับตั้งค่าได้ยืดหยุ่นมาก ๆ อยากเสริมจุดเด่น กลบจุดด้อยตรงไหน AI Effect บน realme X3 SuperZoom โหมด portrait ที่ละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย และนอกจากนี้เรายังสามารถปรับการเบลอของฉากหลังได้ตั้งแต่ระดับ 0-100 ทำให้การถ่ายภาพหน้าฉัดหลังเบลอมีความยืดหยุ่นที่ดีมาก และในโหมด portrait ยังสามารถใช้งานร่วม AI Effect ได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถปรับแต่งการเซลฟี่ของเราได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งจะได้ภาพที่มีการละลายฉากหลังผสานเข้ากับเอฟเฟกต์บิวตี้ได้อย่างลงตัว ในโหมด portrait จะมีฟีเจอร์ Artistic Portrait สามารถเลือกใช้ฟิลเตอร์ได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อปรับแต่งให้โบเก้และสกินโทนของภาพออกมาดูสวยงามและมีเสน่ห์ เช่นโทนภาพแนวเรโท หรือพาสเทลเป็นต้น ด้วยกล้องหน้าคู่แบบ Dual In-Display Selfie ของ realme X3 SuperZoom ทำให้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่แบบมุมกว้าง เก็บรายละเอียดต่างๆ ของฉากหลักได้เพิ่มขึ้นจากภาพถ่ายปกติโหมด super portrait Nightscape Selfie
ทดสอบกล้องหลัง AI Quad Camera 64 ล้านพิกเซล
กล้องหลังมาพร้อมความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล ที่นอกจากจะให้ความคมชัดได้ดีเยี่ยมแล้วยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่อัดแน่นไม่แพ้กล้องหน้า มีบิวตี้โหมดมาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้า โดยสามารถเลือกปรับระดับความสวยงามได้ตั้งแต่ 0-100 โดยรูปนี้เปิดใช้งานบิวตี้ที่ระดับ 30เปิดใช้งานบิวตี้ที่ระดับ 50
เปิดใช้งานบิวตี้ที่ระดับ 100
โหมด portrait ของกล้องหลัง ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กล้องหน้า ทั้งการละลายฉากหลังและโบเก้ของภาพ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับตัว Hardware ชั้นแยี่ยม โดยกล้องหลัง 4 เลนส์บน realme X3 SuperZoom จะมี 1 เลนส์ที่ทำหน้าที่เป็น depth sensor ที่ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอและการสร้างโบเก้ของภาพที่ทำให้เกิดมิติและความสวยงามได้ในสไตล์กล้องมือโปร สำหรับรูปนี้เปิดใช้ bokeh effect ที่ระดับ 100 ซึ่งจะให้ภาพที่ดูมีมิติเพิ่มขึ้นมา เรียกว่าให้ฟิลลิ่งได้ไกลเคียงกล้องระดับโปรเลยทีเดียวเก็บความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล
ซูมปกติ 1 เท่า
ซูมออปติคอล 5 เท่า
ซูมดิจิทัล 10 เท่า
ซูมดิจิทัล 10 เท่า
realme X3 SuperZoom มาพร้อมเลนส์ Periscope telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4 ซูมแบบออผติคอล 5 เท่า พร้อมระบบกันสั่น และซูมแบบดิจิทัล 60 เท่า สังเกตได้ว่าภาพซูมแบบออปติคอล 5 เท่า มีความละเอียดที่คมชัดน่าประทับใจ ขณะที่ภาพซูมแบบดิจิทัล 60 เท่าอาจจะไม่คมชัด แต่ก็ยังเห็นรายละเอียดของภาพอยู่ ที่พิเศษสำหรับ realme X3 SuperZoom คือ รองรับ Starry Mode โหมดการถ่ายภาพดวงดาวตอนกลางคืน ที่สามารถถ่ายทางช้างเผือกได้ โดย Starry Mode จะเพิ่มความสว่างของดวงดาวที่มีความมืด ช่วยให้ภาพถ่ายของคุณมีความงดงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความงดงามบนท้องฟ้าด้วยการช่วยให้กาแล็กซี่มีความสว่างยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึงใช้ AI อัลกอริทึม ร่วมกับการเปิดรับแสงในระยะเวลาหนึ่งนานเป็นพิเศษและจะทำการสังเคราะห์หลายเฟรม เพื่อเพิ่มความคมชัดและความสว่างของดวงดาวได้อย่างชาญฉลาด และรวบรวมความพิเศษสำหรับตัวแปรหลักของการถ่ายภาพเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วชัตเตอร์ ความไวแสง ระยะโฟกัส และ สมดุลแสงสีขาว เพื่อช่วยให้คุณสามารถเก็บภาพดวงดาวมากมายที่งดงามอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจได้มากขึ้นกว่าเดิม สำหรับโหมด Nightscape Pro หรือโหมดกลางคืนบน realme X3 SuperZoom สามารถที่จะปรับค่าความไวแสง สมดุลแสงสีขาว ความเร็วชัตเตอร์และระยะโฟกัส ช่วยให้ภาพถ่ายมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อบวกกับค่ารูรับแสงที่กว้าง f/1.8 จึงทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความสว่างคมชัด โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องแต่อย่างใด ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 119 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ด้วยโหมดมาโครพิเศษ ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอนAI Dazzle Colour Off
AI Dazzle Colour On
และกล้องหลังของ realme X3 SuperZoom ยังมีโหมด AI Dazzle Colour ที่ช่วยขับสีของรูปให้โดดเด่นขึ้น ทำให้ภาพถ่ายออกมามีสีสันสดใส และสวยงาม จากนี้ไปรับชมภาพจากกล้อง realme X3 SuperZoom ในสภาพแสงต่าง ๆสรุป realme X3 SuperZoom
realme X3 SuperZoom ถือเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ในตระกูล X Series ที่มาพร้อมสโลแกน “พลังซูม พลังแรง” สมชื่อรุ่น โดยพลังซูมมาจากกล้องหลังที่มีเลนส์ Periscope รองรับระยะการซูมตั้งแต่ 16 มม. -124 มม. และซุมได้สูงสุด 60 เท่า สามารถเก็บภาพทิวทัศน์ระยะไกลได้อย่างชัดเจน นอกจากซูมได้ 60 เท่าแล้ว ยังรองรับ Starry Mode โหมดการถ่ายภาพดวงดาวตอนกลางคืนที่สามารถ่ายภาพทางช้างเผือกออกมาได้อย่างสวยงามไม่แพ้กล้องโปรของมืออาชีพ รวมทั้งยังรองรับโหมด Super Nightscape 4.0 ถ่ายภาพกลางคืนได้สวยคมชัดกว่าเคยด้วยโหมด Ultra nightscape, Pro nightscape และ Tripod mode ส่วนพลังแรง มาจากขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 855 Plus ที่ใช้เทคโนโลยีชิปเซ็ตขนาดเล็กเพียง 7nm พร้อมซีพียูความเร็วสูงสุด 2.96GHz ซึ่งาสามารถทำคะแนนทดสอบ Benchmark ของแอป AnTuTu ได้สูงถึง 517,743 คะแนนในสมาร์ตโฟนที่ใช้ Snapdragon 855+ รวมทั้งยังมาพร้อมหน้าจอที่อัตรารีเฟรชเรท 120Hz มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 2 เท่า เรียกว่าเล่นเกม หรือดูคอนเทนต์ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด บวกกับหน่วยความจำ RAM 12GB + ROM 256GB แบบ UFS 3.0 ที่รับส่งข้อมูลได้เร็ว และใช่แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 30W Dart Charge ชาร์จเต็ม 100% เพียง 50 นาทีเท่านั้น โดยรวมแล้ว realme X3 SuperZoom เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่เรียกว่าอัดแน่นด้วยสเปกระดับไฮเอนด์ของสมาร์ทโฟนในตอนนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มเลยทีเดียวครับ
Facebook Comments