ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหน้าแบบ In-Display Selfie 8MP
realme C17 ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 และเลนส์ 5P โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, การเพิ่มฟีลเตอร์แบบต่างๆ, สัดส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่นๆ
รองรับ AI beauty และ Bokeh Effect เป็นต้น พร้อมกับอัลกอริธึมที่ถูกพัฒนาให้เข้ากับ เพศ สีผิวและใบหน้า ช่วยให้ผู้ใช้งานสนุกกับการถ่ายเซลฟี่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังรองรับโหมด HDR และ EIS Stailization
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 60%
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 60%
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%
สำหรับโหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 60%) โดยละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 15 แบบ
กล้อง AI หลัง 4 เลนส์ 13MP
realme C17 มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ช่วยให้ภาพคมชัดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับระบบ PDAF ทำให้การโฟกัสรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น และเพิ่มการซูมขึ้น 4 เท่าให้ถ่ายภาพระยะไกลให้ใกล้กว่าที่เคย
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพบุคคลได้มากขึ้นกับฟีเจอร์ปรับโทนสี
สำหรับโหมดถ่ายถาพมาพร้อมอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย ด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมด Chroma Boost หรือการเพิ่มสี, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ
สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดมาโครพิเศษ, Google Lens, โหมด Time-Lapse, โหโหมดถ่ายภาพ Pro และโหมด Panorama
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด FHD 1080p/30fps พร้อมซูมแบบออฟคิคอลได้ 5 เท่า
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 60%
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 100%
ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 60%
ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 100%
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 15 แบบ
โหมดปกติ
ซูม 2 เท่า
ซูม 5 เท่า
ซูม 10 เท่า
กล้องหลังของ realme C17 สามารถซูมแบบออฟติคอลได้ 5 เท่า และซูมแบบดิจิทัลได้ 10 เท่า
ปิดโหมด Super Nightscape
เปิดโหมด Super Nightscape
โหมด Super Nightscape ด้วยอัลกอริทึมจะทำการถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบแสง และรวมเป็นภาพถ่ายกลางคืนที่ดีที่สุด ทำให้การถ่ายภาพไม่มีจำกัดเวลาและแสง
ซ้าย ปิดโหมด Chroma Boost ขวาเปิดโหมด Chroma Boost
โหมด Chroma Boost เป็นโหมดที่ AI engines ระบุฉากเฉพาะ จากนั้นจะใช้อัลกอริธึมของ color-mapping ในระดับพิกเซล ในการคืนค่าสีและความสว่าง เพื่อให้ได้ภาพดูเป็นธรรมชาติ มีสีสันที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ Filter หรือ Vivid mode
รองรับการโหมดถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Ultra-Macro โดยสามารถถ่ายในระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
กล้องหลังของ realme C17 ยังมาพร้อมเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide 119° เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์แบบกว้าง เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
บทสรุป
realme C17 ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นท๊อปในตระกูล C Series ตั้งแต่ที่การเปิดตัว โดยมาพร้อม 4 จุดเด่นหลักเริ่มจากหน้าจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth ที่มีอัตรารีเฟรชเรทรุ่นแรกของซีรี่ส์, ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 460 ที่ทรงพลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและแบตเตอรี่, ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว 13MP ถ่ายรูปสวยไม่แพ้รุ่นกลางของ realme และใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 18W
นอกจากนี้ยังมีดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา โดยได้แรงบันดาลใจจาก Cat’s Eye หรืออัญมณีล้ำค่า “เพชรตาแมว” ให้ความรู้สึกแวววาว น่าค้นหา เปรียบได้กับความแวววาวของทะเลสาปและพื้นผิวมหาสมุทร ซึ่งมาด้วยกัน 2 สีพร้อมพื้นผิวฝาหลังที่แตกต่างกัน คือ Lake Green ที่มาพร้อมฝาหลังแบบพื้นผิวด้าน และ Navy Blue ที่มาพร้อมฝาหลังสะท้อนแสงพร้อมไฮไลท์เอฟเฟกต์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้คนรุ่นใหม่ได้รับดีไซน์ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
เรียกได้ว่า realme C17 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ตโฟนที่ครบเครื่องทั้งเรื่องดีไซน์ ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าในตอนนี้เลยก็ว่าได้
เป็นเจ้าของ realme C17 ‘90Hz ‘หน้าจอลื่นกว่าที่เคย’ ในราคาเพียง 4,999 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สำหรับช่องทางออนไลน์ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคาเพียง 4,999 บาท ผ่านช่องทาง Lazada, Shopee, Thisshop และ JD Central
ช่องทางการจำหน่าย
Lazada : https://bit.ly/3kR3WAQ
Shopee : https://bit.ly/36gL8Ha
Thisshop : https://bit.ly/3i6nMXe
JD Central : https://bit.ly/3ibdgOn
realme C17 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคาเพียง 4,999 บาท ที่ realme Brand Shop และผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็น Banana, BKK, KingKongPhone, TG FONE, Jaymart, IT City และ CSC
และสำหรับลูกค้า AIS TruemoveH และ dtac เป็นเจ้าของ realme C17 ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,990 บาท