คุณสมบัติการใช้งาน
realme 9i รันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0 ที่ได้รับการสร้างมาอย่างดีเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่สนุกมากยิ่งขึ้น โดยการออกแบบ UI คำนึงถึงความชอบและความสะดวกสบายของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ใช้งานได้อย่างราบรื่นและสนุก และผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตนเอง
มาพร้อม Dark Mode หรือโหมดกลางคืน สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ และยังทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยลงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ด้วย โดยเปิดอัตโนมัติในเวลากลางคืน
สามารถเลือกปรับได้ 3 สไตล์ คือ Enhanced (ดำสนิท), Medium (เทาเข้ม) และ Gentle (เทา) ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีคอนทราสต์ที่แตกต่างกันไป สามารถตั้งค่าเป็น Auto ให้ตัวเครื่องทำการวัดแสงโดยรอบจากเซ็นเซอร์ ambient แล้วประมวลผลเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดตามช่วงเวลานั้น ๆ ให้เอง
พร้อมโหมดถนอมสายตา และปรับอุณหภูมิสีหน้าจอได้ โดยการเพิ่มอุณหภูมิสีเพื่อลดรังสีแสงสีฟ้า เพื่อป้องกันอาการปวดตา และสามารถตั้งเวลา เปิด-ปิด อัตโนมัติ รวมถึงมีฟีเจอร์ OSIE Vision Effect ซึ่งเป็นการปรับสีสันของคอนเทนต์ให้สดใสมากยิ่งขึ้น
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
รองรับการปลดล็อคหน้าจอ ล็อคแอป และเก็บข้อมูลส่วนตัวด้วยการสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultra-fast โดยติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่มเปิดปิดด้านขวาข้างเครื่อง
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับ 4G LTE แบบ Dual SIM Dual Standby
มาพร้อมแอป Phone Manager เครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่องโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์ไฟล์แคช (Cache File), จัดการความเป็นส่วนตัว หรือการสแกนไวรัส ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัย และใช้งานได้รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา
มีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน รวมทั้งรองรับแอปโคลน ผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 บัญชี
รองรับระบบเสียง Real Sound ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง realme และ Dirac Research AB ผ่านลำโพงสเตอริโอคู่แบบสเตอริโอ พร้อมรองรับ Hi-Res Audio เพื่อประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้น โดยเฉพาะการฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ที่จะได้อรรถรสเพิ่มขึ้น
ประสิทธิภาพ
ทดสอบการเล่นเกม
ในด้านประสิทธิภาพ realme 9i ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 680 จาก Qualcomm กับเทคโนโลยีการผลิตขนาด 6 นาโนเมตรที่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งเมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ Snapdragon 662 รุ่นล่าสุดแล้ว Snapdragon 680 มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 25% สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้ราบรื่นกว่า ทั้งการเปิดใช้งาน การดาวน์โหลดเร็วขึ้น
รวมทั้งประสิทธิภาพของ GPU เพิ่มขึ้น 10% อีกทั้งอัตราเฟรมเรทที่สูงขึ้นด้วยเรียกได้ว่าจะช่วยมอบประสบการณ์การเล่นเกมให้ไหลลื่นยิ่งขึ้น
ทดสอบกับ Asphalt 9 เกมแข่งรถสุดฮิต เลือกปรับกราฟิกคุณภาพสูง ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 บวกกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 อันทรงพลัง และจอรีเฟรชเรท 90Hz ทำให้สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล โดยภาพรวมก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
ขณะที่ PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล โดยปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “ระดับสมดุล” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับกลาง ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจ เพราะแทบไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจ
ปิดท้ายกันด้วย ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดย realme 9i สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบายๆ และถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว
อ่านต่อ… คลิ๊กที่นี่ >>> Pages 3