รีวิว realme 7 Pro สมาร์ตโฟนชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge และรุ่นแรกที่ได้รับรองจาก TüV Rheinland

โดย J.wasan
0 ความเห็น 3.8K views

ทดสอบกล้องหน้า/หลัง

กล้องหน้าเซลฟี่ In-Display 32 ล้านพิกเซล

realme 7 Pro ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, FOV 85° และรูรับแสง f/2.5 โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, การเพิ่มฟีลเตอร์แบบต่างๆ, สัดส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่นๆ

โหมดเซลฟี่ปกติ

โหมดเซลฟี่ + AI Beauty 50%

โหมดเซลฟี่ + AI Beauty 100%

มาพร้อมโหมด AI Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ โดยเลือกปรับระดับความเนียนได้ตั้งแต่ 0-100% รวมทั้รองรับ AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ สามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้ถึง 296 จุด ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมจำแนก เพศ อายุ และสีผิว เพื่อให้ภาพออกมาเหมาะสมเข้ากับบุคคลและเพศของผู้ใช้งาน และรองรับโหมด HDR ให้ภาพสวยคมชัด

โหมด Portrait

โหมด Portrait + AI Beauty 50%

โหมด Portrait + AI Beauty 100%

สำหรับโหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 60%)

สามารถเลือกปรับแต่งเอฟเฟกต์ภาพที่มีให้เลือก 10 แบบ

กล้องหลัง 4 เลนส์ Sony ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX682 รูรับแสง f/1.8 มาพร้อมความสามาถในการตรวจจับแสงที่มีความแม่นยำสูง ด้วยตัวเซนเซอร์ขนาดใหญ่  1/1.73” รองรับ Quad Bayer รายละเอียดภาพสูงถึง 1.6 μm ทำให้ได้ภาพสวยคมชัดแม้ถ่ายในที่แสงน้อย และมีทางยาวโฟกัส 26mm
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3 เก็บภาพมุมกว้างสุด 119 องศา และมีทางยาวโฟกัส 16mm
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และถ่ายวัตถุระยะใกล้สุด 4 ซม.
  • กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Portrait B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ที่มาพร้อมระบบฟิลเตอร์สีใหม่ ช่วยให้เลนส์หลักจับแสงได้ดีขึ้น เพิ่มความต่างของภาพ สร้างภาพสไตล์ Retro และเพิ่มรายละเอียดให้กับภาพ Portraits

สำหรับ User Interface หรือหน้าตาเมนูกล้องออกแบบเน้นที่ความเรียบง่าย สบายตา เข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยประกอบไปด้วย การเปิด/ปิดไฟแฟลช, HDR Mode,  AI Dazzle Color Mode, ฟีลเตอร์ และการตั้งค่าหลักของกล้อง รวมถึงเลือกถ่ายภาพในมุมปกติ, แบบมุมกว้าง Ultra-Wide/Macro, ซูม 2 เท่า และซูม 5 เท่า ไปจนถึงซูมสูงสุด 10 เท่า

โหมดปกติ

โหมดปกติ + AI Beauty 50%

โหมดปกติ + AI Beauty 100%

มาพร้อมโหมด AI Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ โดยสามารถเลือกระดับความเนียนได้ตั้งแต่ 0-100%

โหมด Portrait

โหมด Portrait + AI Beauty 50%

โหมด Portrait + AI Beauty 100%

โหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 60%)

 

โหมดเอฟเฟกต์ที่มีให้เลือกปรับได้ถึง 10 แบบ

นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพมุมกว้างเก็บรายละเอียดของฉากหลังได้ครบด้วยโหมด Ultra Wide

ซูม 1X

ซูม 2X

ซูม 5X

ซูม 10X

กล้องหลังของ realme 7 Pro ยังรองรับการซูมแบบออฟติคอล 5 เท่า และซูมแบบดิจิทัล 10 เท่า

ปิดโหมด AI Dazzle Color

เปิดโหมด AI Dazzle Color

รองรับการโหมดถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Ultra-Macro โดยสามารถถ่ายในระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร

ภาพถ่ายด้วยโหมด 64MP

ภาพที่ถ่ายด้วยโหมด 64MP เมื่อนำมาขยายภาพยังคงชัดเจนอยู่

โหมด ultra clear 64MP ด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX682 ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ และอัลกอริทึมที่ถูกพัฒนาความละเอียดสูงพิเศษใหม่สำหรับโหมด 64MP ทำให้ผู้ใช้งานได้ภาพที่มีความคมชัด นอกจากนี้ โหมด 64MP ใหม่ยังสามารถสลับระหว่างโหมด AI และโหมด Pro โดยในโหมด Pro ผู้ใช้สามารถปรับค่าความละเอียดของกล้องได้สูงสุด 64MP

รวมถึงมีโหมด Nightscape 3.0 สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืนโดยเฉพาะ ที่รองรับ Tripods Mode ถ่ายภาพกลางคืนร่วมกับขาตั้งกล้อง สามารถรับแสงได้นานสุด 50 วินาที

โหมด Pro Nightscape ผู้ใช้งานสามารถปรับชัตเตอร์ ISO สมดุลแสงขาวและพารามิเตอร์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยกล้องหลักคุณภาพสูง 64MP และอัลกอริธึมแบบหลายเฟรมช่วยเพิ่มความคมชัดที่มากขึ้นถ่ายภาพกลางคืนได้เพลิดเพลินมากขึ้น

โหมดปกติ

โหมดฟิลเตอร์ Modern Gold

โหมดฟิลเตอร์ Flamingo

โหมดฟิลเตอร์ Cyberpunk

Night Filters กล้อง realme 7 Pro มาพร้อมฟิลเตอร์กลางคืนยอดนิยมถึง 3 ตัว ได้แก่ Cyberpunk, Flamingo และ Modern Gold ช่วยเพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพกลางคืนยิ่งขึ้น

Starry Mode เพื่อเก็บภาพความสวยงามวิบวับของดวงดาว realme ได้คิดค้น Starry Mode โดยเฉพาะ โดยใช้อัลกอริทึม AI เพื่อเพิ่มความคมชัดและความสว่างของดวงดาวอย่างชาญฉลาดทำให้ได้ภาพถ่ายดวงดาวอย่างมืออาชีพ realme ได้รวม 4 ฟังก์ชั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ ชัตเตอร์, ความไวแสง ISO, ระยะโฟกัส, สมดุลแสงขาว ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้อย่างน่าทึ่ง

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง

              

บทสรุป

realme 7 Pro ถือเป็นสมาร์ตโฟนในตระกูล realme 7 Series รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในบ้านเรา โดยมีจุดขายอยู่ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge สมกับสโลแกน “65W สู่การชาร์จที่เหนือขั้น” สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh จาก 0-100% ภายในเวลาเพียง 34 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องรอนานเป็นชั่วโมงเหมือนแต่ก่อน และยังเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วนี้ด้วย

อีกทั้งยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ผ่านการทดสอบคุณภาพโดย TüV Rheinland (ทูฟไรน์แลนด์: หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยทางเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมระดับโลก) ทำให้มั่นใจได้ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นการทำงานที่เหนือขั้นตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ 

นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ที่ทันสมัย โดยได้แรงบันดาลใจของแสงสะท้อนธรรมชาติรอบตัวผ่านแสงเงาบนฝาหลังของเครื่องที่ผลิตด้วยกรรมวิธีเทคโนโลยี AG ใน 2 เฉดสีสวยงามให้เลือกคือ Mirror Blue และ Mirror Sliver พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสันของภาพที่สดใส และมีความคมขัด บวกกับการใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 720G ขนาด 8nm ที่ทรงพลังโดยเฉพาะการเล่นเกม รวมถึงการใช้งานทั่วไป ตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มที่

ด้านการถ่ายภาพก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยกล้องหลัง 4 เลนส์ Sony ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมลูกเล่นเพียบ ทั้งโหมดการถ่ายแบบ Pro Nightscape และ Ultra Nightscape Video, โหมดขาตั้งกล้อง เป็นต้น รวมถึงยังเพิ่มลูกเล่นในการภาพถ่ายย่ามค่ำคืนให้สวยสะดุดตาไม่เหมือนใครด้วยฟิลเตอร์ Cyberpunk, Flamingo และ Modern Gold  ส่วนกล้องหน้าแบบ In-display ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ก็ถ่ายเซลฟี่สวยคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน

ทั้งนี้ realme 7 Pro ความจุ 8 + 128GB วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาเพียง 10,990 บาท ที่ร้าน realme Brand Shop และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ ทั้ง Lazada, Shopee ,This Shop และ JD Central ไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้นะครั

Facebook Comments

Related Posts