ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์
realme 7 Pro มาพร้อมกับ realme UI 1.0 บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 10 ซึ่งมีหน้าตาที่มีสีสันสดใส high-saturation ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา พร้อมพัฒนาภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่นให้รวดเร็วและไหลลื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตนเอง
สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอได้โดยกดค้างที่ตรงกลางของหน้าจอ
รูปแบบธีมที่สวยงาม ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากแอปพลิเคชัน ร้านขายธีม หรือ Theme Store ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วภายในเครื่อง
รองรับ 2 SIM และ 4G
ในโหมด Quick gestures หรือโหมดตัวช่วยเพิ่มความสะดวก เป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานมาอย่างยาวนานบนสมาร์ทโฟนของหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็คือการทำงานร่วมกับพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ โดยเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่นการคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียง, วาดบนหน้าเจอเพื่อเปิดแอปฯ / ควบคุมการคอนโทรล Music Player, การจับภาพหน้าจอด้วย 3 นิ้ว, การรับสายอัตโนมัติเมื่อนำโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเป็นต้น
สำหรับปุ่มนำทาง Navigation สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะกับความถนัดของเราได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Full Screen gesture ที่มาพร้อมฟีเจอร์สั่งการง่าย ๆ แต่สามารถใช้งานจอแสดงผลได้แบบเต็ม 100% ซึ่ง Navigation gestures เป็นฟีเจอร์ที่ใช้การสไลด์นิ้วบนหน้าจอแสดงผลแทนการกดปุ่ม navigation เพื่อให้เป็นการแสดงผลแบบเต็มหน้าจออย่างแท้จริงนั่นเอง
Smart Slider สำหรับเรียกใช้งานคีย์ลัด เช่นการจับภาพ / บันทึกหน้าจอ, การเข้าถึงไฟล์, กล้อง, ข้อความและแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านการสไลด์ที่บริเวณขอบด้านข้างของหน้าจอแสดงผล โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้งและแนวนอน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาเข้ามาอยู่ในแถบ Smart Slider ได้อีกด้วย
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว
ในด้านความปลอดภัย realme 7 Pro มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยป้องการใช้งานในภาพรวมได้อย่างครอบคลุม ทั้งข้อมูลส่วนตัว การเข้าถึงแอปพลิเคชั่น พื้นที่สำหรับเด็ก และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมายที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้ผู้ใช้งานอุ่นใจและมีความปลอดภัยสูงสุด
Phone Manager เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการลบไฟล์ขยะและไฟล์แคชของระบบ, การจัดการด้านความปลอดภัยความเป็นส่วนตัว, การสแกนไวรัส และการปกป้องด้านการชำระเงินเป็นต้น ซึ่งแอปฯนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
ประสิทธิภาพ
realme 7 Pro ใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7125 Snapdragon 720G บนสถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 8nm แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.3 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 618 โดยใช้หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB แบบ LPDDR4x Dual channel หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256GB แบบ UFS 2.1
ผลทดสอบประสิทธิภาพ realme 7 Pro บนแอป AnTuTu
ผลทดสอบประสิทธิภาพ realme 7 Pro บนแอป GeekBench
สำหรับเซ็นเซอร์ต่างๆ ให้มาอย่างครบถ้วน ส่วนในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของความเร็วและความแม่นยำ
มัลติมีเดียและความบันเทิง
Music Player หรือเครื่องเล่นเพลงบน realme 7 Pro มาพร้อมความสามารถที่ครบเครื่อง เรียกว่าไม่แตกต่างจากแอป Music Player ยอดนิยมทั่ว ๆ ไป เช่นการเล่นสุ่ม/เล่นซ้ำ การสร้างเพลย์ลิสต์ ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าเป็นต้น
แต่สิ่งที่มีความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือในด้านกำลังขับและเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง อีควอไลเซอร์ได้ยืดหยุ่นตรงกับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การรับชมคอนเทนต์เต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน
สำหรับ Video Player บน realme 7 Pro รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
Asphalt 9 เลือกปรับคุณภาพภาพแบบคุณภาพสูง สามารถเล่นได้อย่างคมชัด และไหลลื่น ไม่มีอาการแลคให้หงุดหงิดใจ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับชิปเซ็ตและพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 3.0 รวมถึง RAM ที่จัดเต็มถึง 12GB
ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา เมื่อลองเล่นที่บนเฟรมเรทสูง ก็ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่สมูทลื่นไหล แถมเฟรมเรทไม่ตกอีกด้วย โดยสามารถรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 58- 60fps แบบต่อเนื่อง
สำหรับ PUBG Mobile เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องการทรัพยากรขั้นสูง โดยเลือกโหมดกราฟิกในระดับ HDR HD และเฟรมเรทระดับสูงสุด ซึ่งไม่มีปัญหากับ realme 7 Pro แต่อย่างใด สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น ผสานกับหน้าจอที่มี Refresh Rate ระดับ 90Hz ซึ่งช่วยให้เกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
อ่านต่อ… คลิ๊กที่นี่ >>> Pages 2