realme 7 Pro เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางบนรุ่นใหม่ภาคต่อของ realme 6 Pro ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มาพร้อมจุดเด่นที่มาพร้อมชาร์จไว 65W SuperDart Charge ชาร์จ 0 – 100% ได้ในเวลาแค่ 34 นาทีเท่านั้น และยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland (ทียูวี ไรท์แลนด์) ประเทศเยอรมันอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED, ชิปเซ็ท Snapdragon 720G ที่เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล และใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งติดตั้งกล้องหลัง 4 เลนส์ Sony ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และลำโพงคู่สเตอริโอ เรียกว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว เท่านี้ยังไม่พอ ยังอัดแน่นด้วยสเปคอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปชมรีวิวเต็มของ realme 7 Pro กันเลยครับ
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องแพคเกจจิ้งของ realme 7 Pro มาพร้อมโทนสีเหลือง ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของแบรนดฺ์ ด้านหน้ากล่องและด้านข้างมีชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน
ด้านหลังกล่องระบุสเปกเด่น 4 อย่างคือ รองรับขาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge, ชิปเซ็ท Snapdragon 720G, กล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony ความละเอียด 64 ล้านพิกฌซล และหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Fullscreen ขนาด 6.4 นิ้ว
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง realme 7 Pro ในสี Mirror Blue ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- เคสพลาสติก TPU แบบใส
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
ตัวเครื่อง realme 7 Pro มีดีไซน์ที่ชื่อว่า AG Split Design ด้วย Texture สองรูปแบบ พร้อมความเงางามเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ สวยสะดุดตา ด้วยขนาด 160.9×74.3×8.7 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 182 กรัม
หน้าจอแสดงผลเป็นจอไร้ขอบ ไร้รอยบาก โดยเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่ In-display Selfie แบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080×2400 พิกเซล (409 ppi) ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 90.8% และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D Gorilla Glass
ด้านหลังติดตั้งกล้อง 4 ตัว Quad Camera โดยกล้อง 3 ตัวเรียงกันในแนวตั้ง และกล้องตัวที่สี่จะอยู่ด้านขวาของกล้องตัวแรก
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน realme 7 Pro
realme 7 Pro ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางบนรุ่นแรกและรุ่นที่ 2 ของ realme ต่อจาก realme X50 Pro 5G ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge ที่เพิ่มประสบการณ์ชาร์จที่เหนือขั้น ในขณะเดียวกัน สมาร์ทโฟนจะมีอุณหภูมิที่คงที่และไม่สูงจนเกินไป
ตัวเครื่องใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4500mAh สามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ภายในเวลาเพียง 34 นาที ซึ่งแม้กระทั่งในขณะเล่นเกมอย่างหนักหน่วง 65W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตได้ 43% ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที
นอกจากนี้ใช้เวลาเพียง 3 นาที ในการชาร์จได้ถึง 13% สามารถเล่นเกม PUBG ได้ 3 เกม (ชาร์จ 3 นาที เล่น PUBG ได้ 3 เกม), เล่น Instagram ได้ 2 ชั่วโมง หรือชม YouTube ต่อเนื่องได้ 2.54 ชั่วโมง และยังเปิดเครื่องแสตนบายด์ได้ถึง 4 วัน
โดยแบตเตอรี่เป็นแบบ Dual 3C Cells จะแบ่งเซลล์หลักเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 2250 mAh ผ่านการชาร์จแบตเตอรี่โดยตรงด้วยอะแดปเตอร์ 10V 6.5A ภายใต้การควบคุมด้วย อัลกอริธึมการชาร์จเร็ว
สำหรับกระบวนการปล่อยไฟของการชาร์จเร็ว SuperDart ใช้วงจรอัดประจุเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่สองเซลล์ลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงความเร็วในการชาร์จและการควบคุมอุณภูมิ ซึ่งการชาร์จทั้งหมดมีระบบการควบคุมและระบายความร้อนป้องกันอุณหภูมิสูง ทำให้การจ่ายไฟมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นถึง 98%
นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกัน 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปยังตัวเครื่อง รวมทั้งมี 10 เซ็นเซอร์ในการตรวจจับอุณหภูมิ NTC Thermistor (Negative Temperature Coefficient) หรือเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิประเภทเทอร์มิสเตอร์ สร้างขึ้นเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระหว่างการชาร์จและสามารถปรับกำลังการชาร์จแบบไดนามิก พร้อมระบายความร้อน
realme 7 Pro ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 720G บนสถาปัตยกรรมการผลิตที่ 8nm เพิ่มพลังและประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อม CPU แบบ Kryo 465 ผสมผสานระหว่าง Cortex-A76 สูงสุด 2.3GHz กับ Cortex-A55 สูงสุด 1.8GHz และ Adreno 618 GPU มีประสิทธิภาพการทำงานเทียบเท่า Snapdragon 730G โดยมีประสิทธิภาพการทำงาน CPU สูงขึ้น 10% และพัฒนา GPU หน้าจอถึง 75%
หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล ชนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.8% ความสว่างสูงสุด 600nits และช่วงสี 98% NTSC ซึ่งเมื่อเทียบกับจอ LCD แล้วจอแสดงผล OLED ให้คุณภาพของภาพและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีกว่าและตอบสนองได้ดีกับลายนิ้วมือบนหน้าจอเร็วกว่า
ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วแบบฝังใต้หน้าจอรุ่นล่าสุดจาก Goodix พร้อมตัวกรองแสง ช่วยเปลี่ยนจากแสงสีเขียวเป็นสีขาว พัฒนาความแม่นยำ ความเร็วและประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
นอกจากนี้ realme 7 Pro ยังมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคู่ (ขนาด : ลำโพงบน : 10มล * 12มล และ ลำโพงล่าง : 12มล * 17มล) รอบรับระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Sound Quality ให้อรรถรสในการฟังที่เหนือระดับยิ่งกว่า
realme 7 Pro ยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland Smartphone Reliability (ทียูวี ไรน์แลนด์) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมหลากประเภทซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
โดย TÜV Rheinland Smartphone Reliability ได้ทำการทดสอบส่วนสำคัญ 22 ส่วน และส่วนอื่น ๆ อีก 38 ส่วน ถือว่าครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในชีวิตประจำวัน และ realme ได้อัพเกรดการทดสอบประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อให้กับสมาร์ตโฟน ให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับความสุขที่ได้รับจากเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดและการออกแบบที่ทันสมัย