รีวิว : realme 6 สมาร์ตโฟนจอ 90Hz พร้อมกล้องโปร 64MP และชาร์จไว 30W VOOC Flash Charge ในราคาไม่ถึงหมื่น !!

 หลังจากที่ realme เปิดตัว realme 6 และ realme 6 Pro สองสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล realme Series ที่มาพร้อมการอัปเกรดครั้งใหญ่ไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดย realme 6 Pro เป็นรุ่นท๊อปที่วางจำหน่ายก่อน และทางทีมงานได้รีวิวให้อ่านกันไปเรียบร้อย คราวนี้มาถึงคิวของ realme 6 กันบ้าง

สำหรับ realme 6 แม้จะเป็นรุ่นรอง แต่ก็มาพร้อมสเปกหลักที่เหมือนกันคือ หน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz รวมถึงกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ตามสโลแกน “64MP กล้องโปร จอเหนือขั้น” ส่วนฟีเจอร์การใช้งานอื่นๆ จะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามรีวิวเต็มกันเลยครับ

สเปคเบื้องต้น  realme 6

PACKAGING & ACCESSORIES

กล่องแพคเกจจิ้งของ realme 6 มาพร้อมโทนสีเหลือง ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของแบรนดฺ์ ด้านหน้ากล่องและด้านข้างมีชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน

อุปกรณ์ภายในกล่อง realme 6 ประกอบด้วย

1. ตัวเครื่อง realme 6
2. คู่มือการใช้งาน
3. เข็มจิ้มสำหรับเปิดถาดซิมการ์ด
4. อแดปเตอร์ชาร์จแบบ VOOC Flash Charge 30W
5. สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
6. เคสซิลิโคนแบบใส

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง realme 6  มาพร้อมกับ Comet Design แรงบันดาลใจจากดาวหางที่พาดผ่านท้องฟ้า โดยใช้เทคโนโลยีการแกะสลักพื้นผิวด้วยเลเซอร์ และเคลือบสีบนฝาหลังด้วยกระบวนการ optical ใช้เวลาเคลือบแสงนานกว่า 360 นาที ให้ความสว่างของสีเพิ่มขึ้น 60% มีให้เลือก 2 สีคือ Comet White และ Comet Blue

realme 6 มาพร้อมจอไร้ขอบ ไร้รอยบาก และเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่ In-display Selfie แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.5 โดยมีอัตรา refresh rate 90 Hz แสดงผลได้ดีกว่า 50 % อัตราการแสดงผล 90.5 % และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3

มุมซ้ายด้านบนเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่า FOV 79.3 องศา, รูรับแสง f/2.0 และ 5 ชิ้นเลนส์ และมาพร้อม CCD Alignment technology ช่วยป้องกันความเสียหายของกล้องหน้าจากการกระแทก

พลิกมาด้านหลังเครื่องมีดีไซน์แบบ Comet ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการพาดผ่านของดาวหางบนท้องฟ้า เกิดเป็นสองสีพิเศษ คือ Comet White กับ Comet Blue โดยใช้เทคโนโลยีการแกะสลักพื้นผิวด้วยเลเซอร์ และเคลือบสีบนฝาหลังด้วยกระบวนการ optical ซึ่งสีที่ทาง ibelieveIT ได้มาพรีวิวคือ Comet Blue

มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera ประกอบด้วย

• กล้องหลัก Main lens เซ็นเซอร์ Samsung GW1 ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เก็บรายละเอียดได้ดีแม้ในที่แสงน้อย ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72 “ ความกว้างเซ็นเซอร์ 0.8 μm และขนาดของภาพ 9280×6944 พิกเซล DPI Digital ซูม 10 เท่า
• กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3 เก็บภาพมุมกว้างได้ 119 องศา
• กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เลนส์สำหรับภาพ Portrait พร้อมฟิลเตอร์ ขาว – ดำ ให้ภาพดูมีสไตล์
• กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่อง กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง ซึ่งในปุ่มฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย

ด้านบนไม่มีช่องหรือปุ่มกดใดๆ

ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

คุณสมบัติการใช้งาน

realme 6 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI เวอร์ชัน 1.0 ที่ทาง realme พัฒนาขึ้นเองโดยมีพื้นฐานมาจาก ColorOS ที่ใช้มาในรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งยังคงคอนเซปต์การใช่งานที่เรียบง่าย ออกแบบโดยให้ความสำคัญกับ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ ระบบสี, ไอคอน, พื้นหลัง และภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่น

รวมทั้งมีสีสันสดใส high-saturation ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา, สามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตนเอง และพัฒนาภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่นให้รวดเร็วและไหลลื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ในส่วนของหน้าจอหลักนั้น ถ้าปัดจากด้านซ้ายเข้ามาจะเป็นหน้า Smart Assistant หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับใข้งานฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยโดยการแตะครั้งเดียว และดูข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็วในขั้นตอนเดียว และถ้าปัดจากขอบจอด้านขวาเข้ามาจะเป็นแถบ Smart Bar ที่แสดงเครื่องการจับภาพหน้าจอ และทางลัดเข้าสู่แอปพลิเคชั่นที่ใชงานบ่อยๆ

รวมทั้งสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอได้โดยกดค้างที่ตรงกลางของหน้าจอ

มาพร้อมฟังก์ชัน Dark Mode ที่ปรับเปลี่ยนโทนสีของ UI เป็นโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สบายตา และประหยัดแบตเตอรี่ รวมถึงมีโหมด Eye Care สำหรับปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอแสดงผลให้อยู่ในโทนอุ่น ซึ่งนอกเหนือจากจะช่วยลดแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตาผู้ใช้งานแล้ว ยังเป็นการช่วยลดอาการล้าของสายตา ตอบโจทย์การใช้งานในสถานที่แสงน้อยเป็นอย่างมาก

ส่วนไฮไลต์ของ realme 6 คือ หน้าจอแสดงผลแบบ 90Hz Ultra Smooth Display ที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดที่ 90Hz ซึ่งสามารถปรับอัตราการรีเฟรชของจอภาพได้โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่เมนู Screen Refresh Rate เนื่องจากค่า Default ของ realme 6 จะตั้งไว้อยู่ที่ระดับ 60Hz เพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ให้ใช้ได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น

รวมถึงมีฟีเจอร์ OSIE Vision Effect ซึ่งเป็นการปรับสีสันของคอนเทนต์ให้สดใสมากยิ่งขึ้น

รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE with VoLTE และรองรับการใช้ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้

รวมทั้งรองรับการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือ โดยตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ด้านหลังเครื่อง โดยนอกจากปลดล็อคหน้าจอแล้วยังสามารถตั้งค่าปลดล็อคแอป และที่เก็บข้อมูลส่วนตัวได้

มาพร้อมแอป Phone Manager เครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่องโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์ไฟล์แคช (Cache File), จัดการความเป็นส่วนตัว หรือการสแกนไวรัส ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัย และใช้งานได้รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา

มีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน รวมทั้งรองรับแอปโคลน ผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 บัญชี

คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน

ด้านการถ่ายภาพ

กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Camera

realme 6 มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

• กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung GW1 รูรับแสง f/1.8 เก็บรายละเอียดได้ดีแม้ในที่แสงน้อย, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72 “ ความกว้างเซ็นเซอร์ 0.8 μm, ขนาดของภาพ 9280×6944 DPI Digital ซูม 10 เท่า
• กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3 สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา
• กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4  และมาพร้อมกับ Portrait Mode ที่มีฟิลเตอร์ให้เลือกแต่งมากมาย
• กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายได้ใกล้สุด 4 เซ็นติเมตร เก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็กได้ดี เช่น การถ่ายสัตว์ตัวเล็ก

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ พร้อม AI Beauty สามารถเลือกเอฟเฟกต์ความงามได้ 8 แบบ, โหมด Protrait พร้อมเอฟเฟค Bokeh, โหมดความละเอียดสูง 64MP, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน Super NighScape 2.0, โหมด Panorama, โหมดมาโครพิเศษ, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมด Time-Lapse และโหมด Slow-motion

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 9280 x 6944 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K พร้อมซูมแบบออฟคิคอลได้ 5 เท่า และซูมดิจิทัล 10 เท่า

และด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมด Chroma Boost หรือการเพิ่มสี, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ

ตั้งค่าปิดโหมด Chrome Boost

ตั้งค่าเปิดโหมด Chrome Boost

สำหรับโหมด Chroma Boost ประมวลผลโดยโหมด AI เป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้ Filter หรือ Vivid mode ปรับอุณหภูมิให้สีของภาพ, เพิ่มสีให้ภาพแม้ถ่ายในแสงไฟสลัว, ปรับรายละเอียดให้ภาพแม้ในส่วนที่ไม่มีแสง, เพิ่มแสงให้การถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก และคงความธรรมชาติไว้, เพิ่มเลเยอร์ของสี

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยโหมด Super Nightscape 2.0

ส่วน Super Nightscape 2.0 โหมดถ่ายภาพในที่มืด สามารถเก็บแสงกลางคืนได้มากกว่า ด้วยการท้างาน ร่วมกันของ Night Scene Algorithm และเทคโนโลยี AI ให้ภาพที่คมชัดมากกว่า ลดการเกิด noise ในภาพ สามารถเก็บรายละเอียดภาพในเวลากลางคืนที่ไม่สามารถเห็นภาพได้ด้วยตาเปล่า ลดการบีบอัดไฟล์

ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ realme 6 รองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังมีระบบกันสั่น EIS (Electric Image Stabilization) ส่วนในโหมดการถ่ายภาพแบบ Slow-motion รองรับการถ่ายแบบ 240fps ที่ความละเอียด 720p

นอกจากนี้ยังสามารถตัดต่อวีดีโอใน realme 6 ได้อีกด้วย รวมทัั้งรองรับการถ่ายวิดีโอมุมกว้างได้

ทดสอบภาพจากกล้องหลัง realme 6

โหมด Auto

โหมด Portrait

โหมด Portrait + Beauty

โหมด Portrait + Filter

โหมด Beauty ระดับ 30

โหมด Beauty ระดับ 50

โหมด Beauty ระดับ 100

โหมดปกติ

โหมด Ultra Wide

โหมด Ultra Macro

ซูม 1X

ซูม 2X

ซูม 5X

ซูม 10X

กล้องหน้า พร้อมโหมด AI Beauty และ AI HDR 

ส่วนกล้องหน้า In-Display Selfie Camera AI ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รุรับแสง f/2.0 สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait พร้อม Bokeh Effect ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอเพิ่มความน่าดึงดูด, โหมดวิดีโอ, โหมด Panorama และโหมด  Time-Lapse พร้อมแสดงไอคอนเมนูทั้งการเปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน AI HDR และฟีลเตอร์ ที่ด้านบนสำหรับใช้งานได้ทันที

ประสิทธิภาพ

realme 6 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.05GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G90T, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G76, RAM 4GB/8GB แบบ LPDDR4x Dual-Channel และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 128GB แบบ UFS 2.1 เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกมฮิตอย่าง ROV และ Call of Duty ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น รองรับเฟรมเรทระดับสูง โดยรวมแล้วสำหรับการเล่นเกมถือว่าใช้ได้เลย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Game Space ที่ผู้ใช้สามารถบล็อกการแจ้งเตือน Pop Up ต่างๆ ขณะที่กำลังเล่นเกม และล็อกระดับความสว่างของหน้าจอได้

โดยใน Game Space ยังมี Graphics Acceleration สำหรับรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด รวมไปถึง Network Protection สำหรับจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลดอาการแลคขณะเล่นเกมออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme 6 ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme 6 ผ่านแอป GeekBench

แบตเตอรี่

realme 6 ใช้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 4,300 mAh พร้อมเทคโนโลยี VOOC Flash Charge 30W ชาร์จเต็ม 70 % ในระยะเวลา 30 นาที รวมถึงมีฟีเจอร์ Smart Power Save ฟังก์ชันอัจฉริยะสำหรับช่วยประหยัดแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และฟังก์ชัน Power Saving Mode สำหรับปิดการทำงานเบื้องหลังของแอปพลิเคชันบางตัว และปิดฟังก์ชัน Auto Sync รวมถึงลดความสว่างของหน้าจอ เพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ในระดับสูงสุด

นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยพิเศษที่มากถึง 5 ชั้น ที่ป้องกันแบตเตอรี่ร้อน แบตละลาย และแบตระเบิดตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่ ใช้งานได้อย่างหายห่วงไม่ต้องกังวลกันเลย เท่าที่ลองทดสอบใช้งานทั่วไป เล่นเกม ดูหนัง และฟังเพลง ก็สามารถใช้งานได้เกิน 1 วันแบบสบายๆ

realme 6 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ในตระกูล realme 6 Series โดยมาพร้อมสโลแกน  “64 MP กล้องโปร จอเหนือชั้น” โดดเด่นด้วยดีไซน์ฝาหลังแบบ Comet Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการพาดผ่านของดาวหางบนท้องฟ้า  ด้วยเทคโนโลยีการแกะสลักพื้นผิวด้วยเลเซอร์ และเคลือบสีบนฝาหลังด้วยกระบวนการ optical

นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ 90Hz Ultra Smooth Display ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มีอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz ซึ่งเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงที่ใช้จอที่มีอัตราเดียวกันแล้วราคาค่อนช้างสูง realme 6 จึงนับว่าคุ้มกว่ามาก รวมทั้งใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G90T ที่ตอบโจทย์คอเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI ที่มีหน้าตาสวยงาม ใช้งานง่าย และลื่นไหล

ในส่วนการถ่ายภาพติดตั้งกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Camera ความละเอีบด 64 ล้านพิกเซล ที่ครบทั้งการถ่ายภาพปกติ, การถ่ายภาพมุมกว้างที่ถ่ายได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน รวมถึงวิดีโอก็สามารถถ่ายโหมดนี้ได้ และการถ่ายวิดีโอยังมีโหมดกันสั่น EIS อีกด้วย, การถ่ายโหมดมาโครที่ถ่ายได้ใกล้สุด 4 ซม. และการถ่าย Portrait หรือการถ่ายภาพบุคคลที่ถ่ายสวยแบบหน้าชัดหลังเบลอได้

ส่วนกล้องหน้าแบบ In-Display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty ที่ถ่ายออกมาได้สวยเนียนสดใส ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4,300mAh ที่ใช้ได้นานเป็นวัน ไม่ต้องพกแบตเตอรี่สำรอง และรองรับการชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 ซึ่งสามารถเติมแบตเตอรี่กลับเข้าสู่ตัวเครื่องได้ในเวลาอันรวดเร็ว หรือชาร์จเต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 55 นาที

ทั้งนี้ realme 6 มีให้เลือก 2 สีคือ สี Comet Blue และ Comet White ในราคาเริ่มต้นที่ 7,999 บาทสำหรับรุ่นความจุ 4+128GB และราคา 8,999 บาทสำหรับรุ่นความจุ 8+128GB

วางจำหน่ายแล้ววันนี้ พร้อมของแถมสุดพิเศษ รับฟรี realme Notebook Backpack ของแถมมีจำนวนจำกัด! พร้อมโปรโมชั่นผ่อน 10% สูงสุดนาน 10 เดือน*

*ตามเงื่อนไขบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ