เปิดตัวพร้อม realme 5 Pro สำหรับ realme 5 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล realme 5 Series อีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด แม้สเปกจะเป็นรอง แต่ก็มีจุดเด่นที่หน้าจอที่ใหญ่กว่า และแบตเตอรี่สุดอึด ในราคาคุ้มค่าสบายกระเป๋า
รวมทั้งยังมาพร้อมพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ และตัวเครื่องที่มีดีไซน์แบบ Holographic Diamond สวยหรูไม่แพ้กัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปดูรีวิว realme 5 กันดีเลยกว่า
อุปกรณ์ในกล่อง
กล่องแพคเกจจิ้งของ realme 5 มาในโทนสีขาว ด้านหน้ากล่องและด้านข้างมีชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน โดยมาพร้อมข้อความ 5000mAh – Quad Camera ซึ่งเป็นสเปกเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง realme 5
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ / ใบรับประกันสินค้า
- เข็มจิ้มสำหรับเปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จ 5V/2A
- สายดาต้าลิงค์แบบ microUSB
- เคสซิลิโคนแบบใส
realme 5 มาพร้อมจอไร้ขอบพร้อมรอยบากทรงหยดน้ำ Dewdrop Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 82.7% และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3+
ในรอยบากทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนมีเลนส์กล้องเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมด AI Beauty, AI HDR เพิ่ม AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ
พลิกมาด้านหลังเครื่องมีดีไซน์แบบ Diamond Cut ในสไตล์ Holographic ที่เป็นประกายหรูหราเหมือนเพชร พร้อมความเป็นประกายของสีสันที่สดใสในระดับนาโน โดยมีการเคลือบกว่า 133 ครั้งเพื่อให้ได้สีที่สวยงาม รวมทั้งใช้เทคโนโลยีการแกะสลักฝาหลังขนาดไมครอนลากยาวรูปแบบ 3D diamond cutting ที่เป็น DNA และด้วยดีไซน์พิเศษที่ปกป้องเครื่องภายในสู่ภายนอกจากละอองน้ำ
มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera ประกอบด้วย
- กล้องตัวแรกเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา เก็บทุกประสบการณ์ได้ครบภายในช็อตเดียว
- กล้องตัวที่ 2 กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รูรับแสงกว้างขึ้นทำให้ภาพสว่างได้มากกว่าเดิม
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ออกแบบลักษณะเอฟเฟคให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งาน รองรับโหมด Beauty และการถ่ายภาพ Bokeh โหมดถ่ายภาพ Portrait เพื่อตอบโจทย์ทั้ง 5 สไตล์
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร เก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็กได้ดี เช่น การถ่ายสัตว์ตัวเล็ก เปิดโลกมหัศจรรย์ของการถ่ายภาพ
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่อง กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนไม่มีช่องหรือปุ่มกดใดๆ
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต microUSB 2.0 และช่องลำโพงเสียง
สเปคเบื้องต้น realme 5
ขนาด | 164.4 x 75.6 x 9.3 มม. |
น้ำหนัก | 198 กรัม |
หน้าจอ | Dewdrop notch แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 82.7% และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3+ |
หน่วยประมวลผล | Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 665 (11 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 |
RAM | 3GB/4GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 64GB/128GB |
microSD Card | สูงสุด 256GB |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 4 ตัว AI Quad Camera ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25, กล้องตัวที่สามเลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่สี่เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร รองรับการโฟกัสภาพแบบ PDAF, ฟีเจอร์ Chrome Boost, โหมดถ่ายภาพกลางคืน Super Nightscape, โหมดผิวสวย AI Beauty และฟังก์ชั่น AI Scene Recognition ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และรองรับเทคโนโลยี AI Beauty |
ระบบปฏิบัติการ | Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Color OS 6 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, microUSB 2.0, USB On-The-Go |
รองรับระบบ | 4G LTE 850/900/1800/2100/2300/2500/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh รองรับระบบการชาร์จแบบ 5V/2A |
ราคา | RAM 3GB+ROM 64GB 4,599 บาท
RAM 4GB+ROM 128GB 5,999 บาท |
คุณสมบัติการใช้งาน
realme 5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0.1 ซึ่งทำงานบนพื้นฐาน Android 9 Pie ที่มีอินเทอร์เฟสใหม่ที่เหมาะกับสมาร์ทโฟนจอ Full Screen โดยเน้นควบคุมการใช้งานผ่านหน้าจอแสดงผลทั้งหมด เริ่มจากตัว Launcher ที่มี App Drawer มาให้แล้ว สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นทั้งหมด ด้วยการปัดนิ้วขึ้นจากไอคอนทางลัดบนหน้าจอโฮม
ในส่วนของหน้าจอหลักนั้น ถ้าปัดจากด้านซ้ายเข้ามาจะเป็นหน้า Smart Assistant หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับใข้งานฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยโดยการแตะครั้งเดียว และดูข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็วในขั้นตอนเดียว และถ้าปัดจากขอบจอด้านขวาเข้ามาจะเป็นแถบ Smart Bar ที่แสดงเครื่องการจับภาพหน้าจอ และทางลัดเข้าสู่แอปพลิเคชั่นที่ใชงานบ่อยๆ
รวมทั้งสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอได้โดยกดค้างที่ตรงกลางของหน้าจอ
สามารถเปลี่ยนธีมและภาพพื้นหลังของเครื่องได้ โดยเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่แอป realme Theme Store
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE with VoLTE และรองรับการใช้ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
มาพร้อมแอป Phone Manager เครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่องโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์ไฟล์แคช (Cache File), จัดการความเป็นส่วนตัว หรือการสแกนไวรัส ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัย และใช้งานได้รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา
มีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน รวมทั้งรองรับแอปโคลน ผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 บัญชี
คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน
ด้านการถ่ายภาพ
realme 5 มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 ทำให้ภาพสว่างได้มากกว่าเดิม
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ออกแบบลักษณะเอฟเฟคให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งาน รองรับโหมด Beauty และการถ่ายภาพ Bokeh โหมดถ่ายภาพ portrait เพื่อตอบโจทย์ทั้ง 5 สไตล์
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายได้ใกล้สุด 4 เซ็นติเมตร เก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็กได้ดี เช่น การถ่ายสัตว์ตัวเล็ก
สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Protrait พร้อมเอฟเฟค Bokeh, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน Night Scape, โหมด Panorama, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมด Time-Lapse และโหมด Slow-motion
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4000 x 3000 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K พร้อมซูมแบบออฟคิคอลได้ 5 เท่า
และด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมดเลนส์ Ultra Wide, เปิดปิดโหมด Chroma Boost หรือการเพิ่มสี, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ
ตั้งค่าปิดโหมด Chrome Boost
ตั้งค่าเปิดโหมด Chrome Boost
ทดสอบภาพจากกล้องหลัง realme 5
ภาพกลางแจ้ง
ภาพในร่ม
ภาพบุคคล (โหมดปกติ)
\
ภาพบุคคล (โหมด Portrait)
โหมดเลนส์ Ultra Wide
โหมด Ultra Macro
โหมด Night Scape
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รุรับแสง f/2.0 สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมด Panorama และโหมด Time-Lapse พร้อมแสดงไอคอนเมนูทั้งการเปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR และฟีลเตอร์ ที่ด้านบนสำหรับใช้งานได้ทันที
รวมทั้งรองรับเทคโนโลยี AI Beauty ที่สามารถแยกลักษณะบุคคลได้อัตโนมัติ เพศ อายุ สีผิว เพื่อปรับภาพให้สวยแบบธรรมชาติ, จดจำใบหน้า 296 จุด ช่วยปรับภาพให้เหมาะสมกับบุคคล. ปรับความเหมาะสมให้เข้ากับเพศของผู้ใช้งาน และเพิ่ม 8 เอฟเฟคพิเศษที่จะทำให้การเซลฟี่ได้ดั่งใจคุณ
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 3120 x 4160 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K
ทดสอบภาพจากกล้องหน้า realme 5
เซลฟี่โหมดปกติ
เซลฟี่โหมด Portrait
เซลฟี่พร้อมเอฟเฟคพิเศษ
ประสิทธิภาพ
realme 5 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 665 SoC, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610, RAM 3GB/4GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB/128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกมฮิตอย่าง ROV และ PUBG Mobile ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น รองรับเฟรมเรทระดับสูง โดยรวมแล้วสำหรับการเล่นเกมถือว่าใช้ได้เลย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Game Space ที่ผู้ใช้สามารถบล็อกการแจ้งเตือน Pop Up ต่างๆ ขณะที่กำลังเล่นเกม และล็อกระดับความสว่างของหน้าจอได้
โดยใน Game Space ยังมี Graphics Acceleration สำหรับรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด รวมไปถึง Network Protection สำหรับจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลดอาการแลคขณะเล่นเกมออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme 5 ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme 5 ผ่านแอป GeekBench
แบตเตอรี่
realme 5 ใช้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 5,000 mAh นอกจากแบตจะอึดแล้วด้วยชิปเซ็ทที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 11nm รวมถึงมีฟีเจอร์ AI freezer ที่จะปิดแอปพลิเคชั่นเมื่อไม่มีการใช้งาน ช่วยให้ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น และมีฟังก์ชั่น Screen power saving ปรับลดแสงหน้าจอลง ช่วยให้แบตเตอรีทนขึ้น 10% อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยพิเศษที่มากถึง 3 ชั้น ที่ป้องกันแบตเตอรี่ร้อน แบตละลาย และแบตระเบิดตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่ ใช้งานได้อย่างหายห่วงไม่ต้องกังวลกันเลย เท่าที่ลองทดสอบใช้งานทั่วไป เล่นเกม ดูหนัง และฟังเพลง ก็สามารถใช้งานได้เกิน 1 วันแบบสบายๆ ส่วนการชาร์จนั้นรองรับการชาร์จ 10W 5V/2A
บทสรุป
realme 5 คือสมาร์ทโฟนในตระกูล realme 5 Series รุ่นใหม่ทีี่มาพร้อมจุดเด่นกล้องหลัง 4 เลนส์รุ่นแรกของ realme และแบตสุดอึดสมกับสโลแกน “4 เลนส์ พลังแบตเกินพิกัด” และโดดเด่นด้วยดีไซน์ฝาหลัง Diamond Cut แบบ Holographic Diamond สวยหรู พร้อมความเป็นประกายของสีสันที่สดใสในระดับนาโน โดยมีการเคลือบกว่า 133 ครั้งเพื่อให้ได้สีที่สวยงาม
นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอทรงหยดน้ำขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว แสดงผลได้อย่างเต็มตา รวมทั้งใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 665 AIE สุดแรง บนสถาปัตยกรรม 11 nm ที่ช่วยลดการใช้พลังงานลง 20% และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6 เวอร์ชั่นล่าสุดมาตั้งแต่แกะกล่องอีกด้วย
ในส่วนการถ่ายภาพติดตั้งกล้องหลัง 4 เลนส์รุ่นแรกในเรทราคาเดียวกัน ที่รองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW และคุณภาพเทียบเท่ารุ่นระดับเรือธงในการถ่ายภาพกลางคืน ด้วยค่ารูรับแสง f/1.8 ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty ถ่ายเซลฟี่ได้สวยเนียนสดใสไม่แพ้รุ่นเรือธง ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่ใช้ได้นานเป็นวัน ไม่ต้องพกแบตเตอรี่สำรอง ถูกใจสายเกมเมอร์แน่นอน
ทั้งนี้ realme 5 มีให้เลือก 2 สีคือ Sparking Blue และ Crystal Green ในราคาเริ่มต้นที่ 4,599 บาทสำหรับรุ่นความจุ 3+64GB และราคา 5,999 บาทสำหรับรุ่นความจุ 4+128GB
พิเศษ!! สำหรับรุ่นความจุ 3+64GB จะวางจำหน่ายแบบ Flash Sale ในราคา 4,299 บาทผ่านทาง Lazada ในวันที่ 19 กันยายนนี้วันเดียวเท่านั้น และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายนนี้เป็นต้นไปที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ