รีวิว OnePlus 8T 5G สมาร์ตโฟนจอลื่น 120Hz แรงด้วยชิป Snapdragon 865 และเชื่อมต่อเร็วผ่าน 5G

โดย K.ibelieveit
0 ความเห็น 3.2K views

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์

OnePlus 8T 5G รันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ใหม่ล่าสุด ครอบทับด้วย OxygenOS 11 ที่ Pure การใช้งานที่เรียบง่าย เร็วแรงลื่นไหลมากกว่าเดิม เพื่อให้ทุกการปัดและแตะราบลื่น และง่ายดาย โดยมีโฮสต์ของการปรับแต่งใหม่ ทั้งภาพเคลื่อนไหว Gesture ตลอดจนการปรับแต่งมากมาย ซึ่ง OxygenOS 11 ใหม่นี้จะช่วยให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้คล่องตัวขึ้น และเพลิดเพลินกับประสบการณ์การใช้งานที่แสนรู้

 

สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนภาพพื้นหลัง หรือนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และตั้งค่าต่างๆ เช่น เพิ่มไอคอนในหน้าจอหลัก, ปัดนิ้วลงเพื่อรับสาย เป็นต้น

 

OxygenOS 11 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Always On Display ซึ่งทาง OnePlus ได้จับมือกับ Parsons School of Design ร่วมกันพัฒนาหน้าจอ Always On Display ที่มีชื่อว่า Insight โดยมาพร้อมกับจุดเด่นด้านแถบสีพาดตรงกลางตัวเครื่อง ซึ่งเมื่อผู้ใช้ปลดล็อก หรือเปิดใช้งานสมาร์ตโฟนแต่ละครั้ง ระบบจะทำสัญลักษณ์ขีดเอาไว้บนแถบสี เพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงปริมาณการใช้งานสมาร์ตโฟนแต่ละวัน และสามารถนำไปบริหารเวลาใช้งานสมาร์ทโฟตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

มาพร้อม Dark Mode หรือโหมดกลางคืน สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ และยังทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยลงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ด้วย พร้อมกับโหมดการมองเห็นแบบสบายตา และปรับอุณหภูมิสีหน้าจอได้ โดยการเพิ่มอุณหภูมิสีเพื่อลดรังสีแสงสีฟ้า เพื่อป้องกันอาการปวดตา และสามารถตั้งเวลา เปิด-ปิด อัตโนมัติ

 

นอกจากนี้ยังมีโหมดการอ่าน  สำหรับปรับสีสัน และอุณหภูมิสีของหน้าจอให้เหมาะสมกับการอ่านหนังสือ โดยสามารถเลือกปรับได้ทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ Mono Effect สำหรับปรับหน้าจอให้แสดงผลแบบขาว-ดำ และ Chromatic Effect ซึ่งปรับหน้าจอแสดงผลให้อยู่ในโทนอุ่นในขณะที่ยังคงสีสันของภาพเอาไว้ และสามารถปรับสีสันให้ความจัดจ้านมากขึ้นได้อย่าง ง่ายๆ ผ่านโหมดเอฟเฟกต์สีสันสดใส (Vibrant Color Effect)

 

รองรับ 2 SIM และ 4G LTE With VoLTE พร้อมรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ในบ้านเรา โดยเฉพาะเครือข่าย AIS 5G สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อใส่ซิมการ์ด ส่วนเครือข่าย True 5G อาจจะต้องรออัปเดตซอฟต์แวร์เพิ่มเติมเร็วๆ นี้

 

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้

 

รองรับการปลดล็อคหน้าจอ ล็อคแอป และเก็บข้อมูลส่วนตัวด้วยการสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultra-fast โดยติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ

 

มาพร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos สามารถปรับรูปแบบการเล่นเสียงได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Dynamic สำหรับปรับการเล่นเสียงให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่กำลังเล่นอยู่แบบอัตโนมัติ, Movie สำหรับปรับการเล่นเสียงให้สมจริง เน้นเสียงพูดที่มีความชัดเจน และ Music สำหรับปรับแต่งการเล่นเสียงให้อยู่ในระดับกลาง ไม่หนักไปด้านใดด้านหนึ่ง รวมทั้งสามารถปรับแต่งเสียงอึควอไลเซอร์อัจฉริยะได้เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง

 

ประสิทธิภาพ

OnePlus 8T 5G ใช้ชิปเซ็ท  Qualcomm SM8250 Snapdragon 865 บนสถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 7 nm+ แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.84GHz พร้อมชิป X55 5G และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 650 โดยใช้หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB แบบ LPDDR4x / 12GB แบบ LPDDR5 หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB/256GB แบบ UFS 3.1

 

ผลทดสอบประสิทธิภาพ OnePlus 8T 5G บนแอป AnTuTu

 

ผลทดสอบประสิทธิภาพ OnePlus 8T 5G บนแอป GeekBench

 

สำหรับเซ็นเซอร์ต่างๆ ให้มาอย่างครบถ้วน ส่วนในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของความเร็วและความแม่นยำ

 

มัลติมีเดียและความบันเทิง

Music Player หรือเครื่องเล่นเพลงบน OnePlus 8T 5G ไม่มีมาให้ในเครื่อง แต่สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งเองได้ โดยสิ่งที่มีความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือในด้านกำลังขับและเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง อีควอไลเซอร์ได้ยืดหยุ่นตรงกับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การรับชมคอนเทนต์เต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน

 

ส่วน Video Player บน OnePlus 8T 5G ก็ไม่มีมาให้ในเครื่องเช่นกัน สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งเองได้ โดยรองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ได้อย่างสมูทไหลลื่น

 

ทดสอบการเล่นเกม

Asphalt 9 เลือกปรับคุณภาพภาพแบบคุณภาพสูง สามารถเล่นได้อย่างคมชัด และไหลลื่น ไม่มีอาการแลคให้หงุดหงิดใจ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับชิปเซ็ตและพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 3.0 รวมถึง RAM ที่จัดเต็มสูงสุดถึง 12GB

 

ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา เมื่อลองเล่นที่บนเฟรมเรทสูง ก็ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่สมูทลื่นไหล แถมเฟรมเรทไม่ตกอีกด้วย โดยสามารถรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 58- 60fps แบบต่อเนื่อง

 

สำหรับ PUBG Mobile เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องการทรัพยากรขั้นสูง โดยเลือกโหมดกราฟิกในระดับ Ultra HD และเฟรมเรทระดับสูงสุด ซึ่งไม่มีปัญหากับ OnePlus 8T 5G แต่อย่างใด สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น ผสานกับหน้าจอที่มี Refresh Rate ระดับ 120Hz ซึ่งช่วยให้เกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

Facebook Comments

Related Posts