หายเคยประทับใจ Motorola Verve Buds 110 ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนจะตกหลุมรัก Verve Buds 100 ยิ่งกว่า เพราะ Verve Buds 100 นั้นมาพร้อมคุณภาพเสียงที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ส่วนฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ยังคงให้มาแบบอัดแน่นเหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นระบบการควบคุมผ่านระบบสัมผัสบนตัวหูฟัง, ฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นที่อัพเกรดเป็น IPX5, รองรับแฮนด์ฟรีแบบสเตอริโอ, รองรับคำสั่งเสียง Smart Voice Assistant และแบตสุดอึดถึง 14 ชั่วโมง ส่วนความน่าสนใจอื่น ๆ ก็ยังมีอีกมากมาย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาติดตามรับชมรีวิว Verve Buds 100 ไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
คุณสมบัติเบื้องต้น
- หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ in ear
- เทคโนโลยี Bluetooth® 5.0
- มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ IPX5
- รองรับการทำงานร่วมกับผู้ช่วยอัฉริยะ Amazon, Alexa, Siri และ Google Assistant
- ไมโครโฟนในตัว ใช้สนทนาสาย เรียกเข้า – โทรออกได้
- สามารถฟังเพลงต่อเนื่องนานถึง 5 ชม. พร้อมเคสชาร์จอีก 9 ชม. รวมเป็น 14 ชม.
- ขนาดเล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา ใส่กระชับ ซิลิโคนนิ่มเบาสบายหู
- มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอคุณภาพเยี่ยม
- รองรับระบบสัมผัสที่ตัวหูฟัง
- สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อัตโนมัติ
- รองรับการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
- สีที่วางจำหน่ายในไทย ขาวและดำ
- ราคา 1,290 บาท
- ช่องทางจำหน่าย : Com7, Banana IT
- ช่องทาง / online : gadgetthai.com, Lazada, shopee, mercular, ThisShop, WeMall
Unboxing
ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งของ Motorola Verve Buds 100 มาในสไตล์เดียวกับรุ่น Verve Buds 110 เกือบทุกประการ โดยตัวกล่องมีรูปทรงขนาดกะทัดรัด และให้ความพรีเมี่ยมด้วยแถบเปิด/ปิดแบบแม่เหล็ก สำหรับด้านหน้าจะโชว์รูปตัวหูฟังและเคสชาร์จขนาดใหญ่เห็นได้ชัดสะดุดตา พร้อมกำกับฟีเจอร์เด่นที่เป็นจุดขาย ทั้งในส่วนของการควบคุมผ่านระบบสัมผัสบนตัวหูฟัง, ฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IPX5 และรองรับคำสั่งเสียง Smart Voice Assistant ได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น Amazon Alexa, Siri® และ Google Assistant™
ส่วนด้านข้างกล่องพิมพ์บอกไฮไลท์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งประกอบไปด้วย
แบตเตอรี่สุดอึดที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมง (หูฟัง 5 ชั่วโมง + เคสชาร์จ 9 ชั่วโมง) มาพร้อมกับระบบเสียงคุณภาพเยี่ยม Superior sound quality, มีแฮนด์ฟรีภายในตัว มาพร้อมเทคโนโลยี Blutooth 5.0, และรองรับ Bluetooth headset แบบโมโน
อุปกรณ์ภายในกล่อง Motorola Verve Buds 100
- หูฟัง Motorola Verve Buds 100 หนึ่งคู่
- กล่องเคสชาร์จ
- จุกยางสำรอง 2 ขนาด
- สายชาร์จ ชนิด Micro USB
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
ตัวเคสชาร์จมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักหนักเบา พกพาสะดวก ผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตคุณภาพดี ด้านบนตัวกล่องเคสชาร์จจะมีโลโก้แบรนด์ Motorola โดดเด่นสะดุดตา ส่วนด้านหน้ามีการบากตัวกล่องเข้าไปเล็กน้อย เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานได้อย่างสะดวกคล่องตัวนั่นเอง
ถัดลงมาจะเป็นไฟแจ้งเตือนสถานะ LED Notification ในขณะที่ชาร์จหูฟังและชาร์จไฟให้กับเคสชาร์จ สำหรับด้านหลังจะมีพอร์ต Micro USB สำหรับการชาร์จไฟให้กับตัวเคส
โดยหูฟังแต่ละข้างได้ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้พอดีเหมาะกับสรีระของหูแต่ละข้าง ส่วนตัวชาร์จจะเป็นแบบ Pogo pin แบบ 2 Dot พร้อมระบบยึดแบบแม่เหล็ก โดยเมื่อทำการชาร์จหูฟังจากตัวกล่องเคสชาร์จ ไฟแจ้งเตือนจะเป็นสีฟ้าอ่อน และจะดับไปเมื่อชาร์จเต็ม
เมื่อชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตัวหูฟังจะใช้งานได้ประมาณ 5 ชั่วโมง ส่วนเคสชาร์จจะใช้งานได้ราว ๆ 9 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน
รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ
Motorola Verve Buds 100 มีดีไซน์สวยงามทันสมัย และออกแบบตามหลัก Ergonomic จึงส่งผลให้สวมใส่สบาย มีความกระชับเข้ากับสรีระของใบหูได้อย่างกลมกลืน โดยในการสวมใส่หลังจากสอดเข้าไปในใบหูแล้วให้หมุนตัวหูฟังลงมาเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยให้ตัวหูฟังนั้นอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและเพิ่มความกระชับให้การสวมใส่ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ Motorola Verve Buds 100 ยังมาพร้อมฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IPX5 สามารถป้องกันน้ำที่ฉีดด้วยแรงดันต่ำอย่างน้อยเป็นเวลา 3 นาที ซึ่งในกรณีที่ฝนตกปรอย ๆ ก็ยังสามารถใช้งานได้ สามารถใส่ลุยฝนโดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะเข้าตัวหูฟังแต่อย่างใด
จากการทดสอบใช้งานจริงของผู้เขียน เมื่อสวมใส่ในขณะออกกำลังกาย ตัวหูฟังมีความกระชับไม่ลื่นหลุดออกมาในขณะวิ่งแต่อย่างใด ซึ่งต้องบอกเลยว่าการออกแบบดีไซน์ของ Motorola Verve Buds 100 นั้นทำออกมาได้ดีมาก ๆ สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ทั้งการใช้งานทั่ว ๆ ไป เช่นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม รวมถึงการออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย
ในส่วนของตัวท่อเสียงจะมีขนาดใกล้เคียงกับ Verve Buds 110 แต่จะแตกต่างกันตรงที่ใช้เป็นตะแกรงไนลอน เพราะไม่ได้ใช้การชาร์จผ่านตัวตะแกรงเหมือน Verve Buds 110 นั่นเอง
ด้านบนของตัวหูฟังจะมีโลโก้ของ Motorola และไฟแจ้งเตือนสถานะ ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของหูฟัง Motorola รุ่น Verve Buds 100 ก็คือการที่รองรับระบบสัมผัส Touch Control on Both Earbuds โดยรองรับการสั่งงานผ่านระบบสัมผัสได้ทั้ง 2 ข้าง ทำให้เกิดความสะดวกคล่องตัวที่ดีมาก ๆ ทั้งการฟังเพลงและใช้สายสนทนา โดยพื้นที่ตรงนี้ทางโมโตใช้ชื่อเรียกว่า MFB
รูปแบบการใช้งานบนพื้นที่ MFB
แตะค้าง 2 วินาที จะเป็น Power On เปิดใช้งานตัวหูฟัง
แตะค้าง 4 วินาที จะเป็น Power Off ปิดใช้งานตัวหูฟัง
แตะ 1 ครั้ง เล่นเพลง/หยุดเพลง/ รับสายโทรศัพท์
แตะ 2 ครั้ง เล่นเพลงถัดไป / ปฏิเสธสายเรียกเข้า
แตะ 3 ครั้ง / เล่นเพลงก่อนหน้านี้
แตะค้าง 2 วินาที (ในกรณีที่ Power On) จะเป็นการเรียกใช้งาน ผู้ช่วยอัจฉริยะ Smart Voice Assistant ทั้ง Amazon Alexa, Siri® และ Google Assistant™
การเชื่อมต่อ
การ Pairing หรือวิธีการจับคู่หูฟัง Bluetooth เข้ากับสมาร์ตโฟนนั้นมีขั้นตอนที่ง่ายมาก ๆ หากเป็นการเชื่อมต่อครั้งแรก ให้นำหูฟังใส่ลงไปในกล่องเคสชาร์จ เมื่อไฟแจ้งเตือนสถานะกระพริบให้นำหูฟังออกมา จากนั้นเปิดบลูทูธที่สมาร์ตโฟน มองหาชื่อ “Verve Buds 100” ในเมนูการตั้งค่า และแตะที่สมาร์ตโฟนเพื่อทำการเชื่อมต่อได้เลย ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำแค่ครั้งแรกในการจับคู่ หลังจากนั้นหูฟังจะเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีการใช้งาน
นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานในแบบ Mono อิสระทั้ง 2 ข้าง โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกการ Pairing หูฟังข้างซ้ายหรือขวาเพื่อเลือกใช้งานในโหมด Mono ได้แบบอิสระ
LED Notification
Pairing: ไฟสีแดง สีฟ้ากระพริบ
Standby: ไฟสีฟ้ากระพริบ
Charging: ไฟสีแดงติดตอลดเวลา
Full Charged: ไม่มีไฟ
Battery low: ไฟสีแดงกระพริบ
ทดสอบคุณภาพเสียง Motorola Verve Buds 100
หลังจากเบิร์นตัวหูฟังมาได้ราว 100 ชั่วโมง จนการทำงานของตัวไดรเวอร์และคุณภาพเสียงนั้นเข้าที่เข้าทางเป็นที่เรียบร้อย ก็มาถึงภาคทดสอบใช้งานจริง โดยยังคงใช้เพลงประจำที่เคยทดสอบมาแล้วกับหูฟังและลำโพงหลาย ๆ รุ่น
คาแรคเตอร์เสียงของหูฟังและลำโพงจากค่าย Motorola ในภาพรวมจะมีความเป็นโอเวอร์ออลที่พร้อมตอบโจทย์การฟังเพลงได้หลากหลายแนว ส่วนความพิเศษของ Verve Buds 100 คือการที่มาพร้อมระบบเสียง Superior sound quality ที่รองรับคุณภาพเสียงระดับ HiFi พร้อมระบบลดเสียงรบกวนอันชาญฉลาด ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ และเบสอันทรงพลัง
สำหรับย่านเสียงต่ำ ทดสอบด้วยเพลง Boom Boom Pow ของ The Black Eyed Peas สัมผัสได้ถึงมวลเบสที่มีพลัง แต่ไม่กระแทกกระทั้นจนไปกลบย่านเสียงอื่น เป็นเบสที่ลงได้ค่อนข้างลึก มีอิมแพคที่ดี เก็บตัวกระชับ เหมาะกับการฟังเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานได้อย่างลงตัว
เมื่อลองทดสอบย่านเสียงกลางด้วยเพลง Ready for the Times to get better เวอร์ชั่น Crystal Gayle เสียงนักร้องให้ความหวานอิ่ม หัวโน๊ตคมชัด สามารถถ่ายทอดเนื้อเสียงออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ถ้าเพลงไหนที่เน้นในส่วนของ Voice เราจะสัมผัสได้ถึงพลังเสียงของนักร้อง ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีพลัง อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจนครบถ้วน แม้กระทั้งเสียงดึงอากาศก่อนที่จะเปลี่ยนท่อนร้องของตัวนักร้องก็ยังให้ดีเทลที่แจ่มชัดมาก ๆ
ส่วนย่านเสียงสูง ทดสอบด้วยเพลง Sweet Talks in The Dream ที่ขับร้องโดย Tong Li ในเพลงนี้จะมีทั้งเครื่องสาย และเสียงนักร้องที่มีปลายเสียงสูง พบว่าปลายเสียงนั้น มีความพริ้ว ใสกระจ่าง พร้อมควบคุมโทนได้ค่อนข้างดี ทำให้ไม่แหลมบาดระคายหู จึงฟังนาน ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกล้าหูแต่อย่างใด
สรุปในภาพรวม ตัวไดร์เวอร์และระบบเสียง “Superior sound quality” ของ Verve Buds 100 คือความลงตัวของคนรักเสียงเพลงอย่างแท้จริง เพราะคุณภาพเสียงนั้นกลมกล่อมมาก ๆ สามารถตอบโจทย์คอเพลงได้ทุกแนวอย่างแน่นอน และไม่ต้องเปรียบเทียบกับหูฟังในระดับเดียวกัน เพราะ Verve Buds 100 สามารถสู้หูฟังรุ่นที่มีราคาสูงกว่าบางรุ่นได้แบบสบาย ๆ เลยทีเดียว
ไม่ได้เด่นเฉพาะการฟังเพลงเพียงอย่างเดียว Verve Buds 100 ยังตอบโจทย์ด้านการรับชมวีดีโอได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยการทดสอบครั้งนี้ เป็นการรับชม American Sniper บน Netflix ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้รับรางวัล Best Sound Editing จาก Academy Award มีการบันทึกเสียงที่ยอดเยี่ยม ทำให้สามารถทดสอบคุณภาพหูฟังได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของการถ่ายทอดเอฟเฟกต์ การแยกทิศทางเสียง ความคมชัดของเสียงพูด และดนตรีประกอบในภาพยนตร์ ซึ่ง Verve Buds 100 ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยจุดเด่นในเรื่องของเสียงกลางและพลังเบส รวมถึง ระบบเสียง Superior sound quality และเทคโนโลยี Bluetooth® 5.0 ทำให้การรับชมภาพยนตร์ผ่านทาง Verve Buds 100 นั้นครบทุกอรรถรส และไม่พบอาการดีเลย์อีกด้วย (ทดสอบร่วมกับดีไวซ์ที่รองรับ Bluetooth® 5.0 )
ส่วนการนำมาใช้งานร่วมกับการเล่นเกม ทดสอบร่วมกับเกม ROV, PUBG, Asphalt 9 ไม่พบอาการดีเลย์ (ทดสอบร่วมกับดีไวซ์ที่รองรับ Bluetooth® 5.0 ) พบว่าการถ่ายทอดเสียง เอฟเฟกต์ต่าง ๆ นั้นให้ความสมจริง แยกมิติซ้ายขวาได้ค่อนข้างดี ส่วนเสียงต่าง ๆ ภายในเกมมีความคมชัด ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาภายในเกม เสียงลม เสียงจากการเดิน การยิงปืนเป็นต้น สรุป Verve Buds 100 สามารถตอบโจทย์คอเกมได้เป็นอย่างดี
ทดสอบการใช้งาน Bluetooth headset
Motorola Verve Buds 100 มาพร้อมไมโครโฟนในตัว สามารถใช้แฮนด์ฟรีในแบบสเตอริโอ และสามารถใช้งานในรูปแบบ Mono ด้วยหูฟังเพียงข้างเดียวได้อีกด้วย
สำหรับในด้านความคมชัดนั้น อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ หากเป็นการใช้งานในสภาพแวดล้อมปรกติ ปลายสายทั้งสองฝั่งได้ยินเสียงสนทนาที่ชัดเจน และไม่มีอาการดีเลย์ให้เห็น เมื่อลองทดสอบใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเสียงดังก็จะมีเสียงรบกวนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ส่งผลในแง่ของการได้ยิน เรียกว่าทำผลงานได้ดีสมราคาค่าตัวเลยทีเดียว
สรุป Motorola Verve Buds 100
กระแสตอบรับ Verve Buds 100 ในต่างประเทศจากผู้ใช้งานจริง ค่อนข้างดีมาก ๆ เพราะ Verve Buds 100 ไม่ได้โดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าเพียงอย่างเดียว แต่คุณภาพเสียงนั้นทำได้ดีเกินราคาค่าตัว สามารถกระทบไหล่หูฟังที่มีราคาสูงกว่าบางรุ่นได้แบบสบาย ๆ
ในส่วนของฟีเจอร์ก็ยังคงจัดเต็มเหมือนเช่นเคย ทั้งเรื่องการสวมใส่ที่ให้ความกระชับ ไม่ระคายหู แถมยังสามารถใส่อออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IPX5, สามารถคอนโทรลผ่านระบบสัมผัสบนตัวหูฟังได้ทั้ง 2 ข้าง มีระบบแฮนด์ฟรีแบบสเตอริโอ และรองรับการทำงานร่วมกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Smart Voice Assistant ทั้ง Amazon Alexa, Siri® และ Google Assistant™ ส่วนเรื่องความอึดของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมงตามที่เคลมไว้ (หูฟัง 5 ชั่วโมง + เคสชาร์จ 9 ชั่วโมง)
สุดท้ายคือเรื่องบริการหลังการขายอันโดดเด่น ด้วยการรับประกันถึง 1 ปีเต็ม จาก RTB Technology บริษัทผู้นำเข้าชั้นนำของเมืองไทย จึงมั่นใจและอุ่นใจได้เต็มร้อย ทั้งคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขายที่เหนือกว่าหูฟัง True Wireles โนเนมที่ในปัจจุบันมีวางขายเกลื่อนกลาดอยู่ในตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในบ้านเราอย่างแน่นอน
และในช่วง Work from Home ที่หลาย ๆ คน ทำงาน หรือเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน หากกำลังมองหาหูฟัง True Wireles เสียงดี ฟีเจอร์แน่น ราคาน่าคบ มีบริการหลังการขายให้อุ่นใจ Motorola Verve Buds 100 สามารถตอบทุกโจทย์การใช้งาน ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้เต็มอรรถรสอย่างแน่นอนครับ
Motorola Verve Buds 100 วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ มี 2 สี ขาวและดำ ในราคา 1,290 บาท
ช่องทางจำหน่าย : Com7, Banana IT
ช่องทาง / online : gadgetthai.com, Lazada, shopee, mercular, ThisShop, WeMall