Preview : Hands On แกะกล่องพร้อมแรกจับลองสัมผัส Vivo V15 กล้องหน้าป็อบอัพ 32 ล้านพิกเซล ในราคาจับต้องได้!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 1.2K views

รับชมรีวิว Vivo V15Pro  http://รีวิว Vivo V15Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Vivo ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำด้วยกล้องหน้าสไลด์ POP Up แถมยังพกความละเอียดมาสูงถึง 32 ล้านพิกเซลเป็นรุ่นแรกของโลกกันไปแล้ว วันนี้มารับชมพรีวิว V15 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นน้องที่พกนวัตกรรมอันล้ำสมัยมาไม่แพ้รุ่นพี่ แต่ทำราคาที่สามารถเข้าถึงและจับต้องได้ง่าย โดยเคาะราคาเพียง 10,990 บาทเท่านั้น

สเปคเบื้องต้น  VIVO V15

ขนาด 161.97 × 75.93 × 8.54 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 189.5 กรัม
หน้าจอ Ultra FullView Display แบบ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.53 นิ้ว, กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
หน่วยประมวลผล Octa-core 2.1GHz, ชิปเซ็ท Mediatek Helio P70 (12nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G72 MP3
RAM 6GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหน้าเซลฟี่แบบ POP Up ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.0 รองรับฟีเจอร์ AI Face Shaping, AI Portrait Lighting และ AR Sticker, กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera โดยกล้องตัวแรกความละเอียด 24 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.25 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel Sensor โดยมีขนาด 1.6 ไมครอน และรูรับแสง f/1.8 สำหรับกล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้างพิเศษ AI Super Wide-Angle 120 องศาความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และกล้องตัวที่สามสำหรับทำ Bokeh ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับฟีเจอร์ Live Photos, Bokeh, AI Portrait Lighting, AI Face Beauty, AI Body Shaping และ AI Scene Recognition รวมถึง Super Night Mode สำหรับถ่ายภาพกลางคืน
ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, microUSB 2.0, USB On-The-Go
รองรับระบบ 4G LTE 800/900/1800/2100/2300/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging
ราคา 10,990 บาท

 

PACKAGING & ACCESSORIES

กล่องแพคเกจของ Vivo V15  แทบไม่แตกต่างต่างไปจาก V15Pro โดยใช้โทนสีขาวเป็นหลัก สำหรับด้านหน้ากล่องมีรูปตัวเครื่อง  V15 ขนาดใหญ่  พร้อมกำกับขนาดความจุ RAM และ ROM อยู่มุมขวาด้านบน ส่วนด้านหลังมีไอคอนสเปคและฟีเจอร์เด่น รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

  1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ / ใบรับประกันสินค้า
  2. เข็มจิ้มสำหรับเปิดถาดซิมการ์ด
  3. อแดปเตอร์ชาร์จ Output 5V – 2A / 9V – 2A รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว  Dual-Engine Fast
  4. สายดาต้าลิงค์แบบ microUSB
  5. ชุดหูฟังแบบ in-ear ขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
  6. เคสซิลิโคนแบบใสขอบดำ

Vivo V15 โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉมใหม่ Spectrum Ripple Design 

โดยสี Ruby Red จะมีการไล่เฉดสีแดง/ดำ พร้อมประกายระยิบระยับเสมือนหมู่ดาวในยามค่ำคืน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ  ส่วนโทนเฉดสี Topaz Blue จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างการไล่เฉดสี ที่มีลวดลายริ้วคลื่น ผสานด้วยตารางสวยสะดุดตา และตัวเครื่องถูกออกแบบในลักษณะของ 3D ที่มีความโค้งมนสมดุล พร้อมสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้อย่างลงตัว

สำหรับหน้าจอแสดงผล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์หลัก ด้วยหน้าจอแสดงผล Ultra FullView Display ขนาดใหญ่เต็มตาถึง ไร้ติ่งหรือรอยบาก ส่งผลให้เป็นจอแสดงผลแบบไร้ขอบที่แท้จริง โดยมีขนาด  6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9  ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D มีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 90.95% ผสานความแข็งแกร่งด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นด้วยการฝังเซ็นเซอร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์แสง จับระยะห่างไว้ในจอแสดงผลอีกด้วย

 

สี Ruby Red ที่ได้มาพรีวิวในวันนี้ จะมีการไล่เฉดสีแดง/ดำ พร้อมประกายระยิบระยับเสมือนหมู่ดาวในยามค่ำคืน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ในภาพรวมการออกแบบดีไซน์มีความโดดเด่น และสัมผัสได้ถึงความพรีเมี่ยมจาก Vivo V15

 

สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่เป็นแบบ Pop Up เหมือนรุ่นพี่ V15Pro (เลื่อนอัตโนมัติ เมื่อเข้าฟังก์ชั่นกล้อง) ทำงานด้วยระบบ Electric Motor ที่มีสปริงช่วยผ่อนแรงเลื่อนขึ้น-ลงด้วยความเบาในระยะเวลา 0.46 วินาที มีการทดสอบเลื่อนขึ้นลงมากกว่า 300,000 ครั้ง และ 1,000 ครั้งต่อวัน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับตั้งค่าเสียงเมื่อกล้องเลื่อนขึ้น-ลงได้ 3 เสียง

ด้านหลังเครื่องโดยมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิทัล 3 ตัว AI Triple Camera ความละเอียด 24+8+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ในแนวตั้ง ขับเคลื่อนด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ถัดลงมาจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและใช้ในการบันทึกเสียง, และช่องเลื่อนสไลด์ของกล้องหน้าเซลฟี่แบบ POP Up

ด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ไมค์สนทนา, พอร์ต Micro USB และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดและหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ถัดลงมาคือปุ่มผู้ช่วยอัจฉริยะ “vivo Jovi” ซึ่งสามารถเรียกด้วยการกดปุ่ม Smart button สองครั้ง หรือเรียก Google Assistant ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว

ตัวถาดซิมการ์ดเป็นแบบ Triple slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 256GB

 

Vivo V15 รันบนระบบปฏิบัตการ FunTouch OS 9 บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie มาตั้งแต่แกะกล่อง ฟังก์ชั่นและการทำงานในภาพรวมจะไม่แตกต่างจากรุ่นพี่ V15Pro มากนัก ยังไงรอติดตามอ่านในภาค Full Review ที่จะติดตามมาในเร็ว ๆ นี้ครับ

Vivo V15 มาพร้อมกล้องหลังแบบ Triple camera มีจุดเด่นด้วยกล้องตัวแรกมีความละเอียดสูงถึง 24 พิกเซล กล้องตัวที่สองความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเป็นเลนส์ Ultrawide ใช้ในการถ่ายภาพมุมกว้าง และปิดท้ายด้วยกล้องตัวที่สาม ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เป็น depth sensor ที่ช่วยในเรื่องการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอและโบเก้ของภาพ สำหรับเมนูอินเตอร์เฟซของกล้องถูกออกแบบให้มีความเรียบง่าย สามารถเข้าถึงโหมดการถ่ายและฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายรูปเป็นเรื่องง่ายแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดี แม้จะไม่มีความรู้ ความชำนาญในด้านการถ่ายรูปมาก่อนก็ตาม  เช่นฟีเจอร์ AI Scene Recognition ที่สามารถตรวจจับวัตถุหรือสภาพแวดล้อมที่อยู่หลังกล้องให้แบบอัตโนมัติ จากนั้นจะทำการแยกประเภทพร้อมปรับตั้งค่าการถ่ายให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ  เช่นเราส่องกล้องไปที่อาหาร ก็จะมีไอค่อนรูปอาหารแสดงขึ้นมาในมุมล่างซ้ายของจอแสดงผล จากนั้นตัว AI ก็จะทำการประมวลผลพร้อมปรับแต่งให้ภาพที่ถ่ายออกมาแล้วมีความสมบูรณ์ที่สุด

ฟีเจอร์เด่นที่มีให้ใช้งานบนรุ่นพี่ V15Pro ก็ยังคงให้มาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น AR Stickers, Bokeh, Portrait mode, พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาให้ใช้งานอีกด้วย เช่น AI Night Mode ที่เป็นการถ่ายภาพซ้อน 12 ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง และโหมด AI Body Shaping ที่หลาย ๆ คนต้องชื่นชอบ เพราะสามารถปรับแต่งรูปร่างของเราให้ดูเพรียวบางสมส่วน เช่น ปรับให้แขน ขา หรือเอวดูเล็กลงเป็นต้น

ภาพตัวอย่างจากกล้อง

Normal

เปิดใช้งาน AI Super Wide-Angle Camera มุมมองกว้างพิเศษ

 

Normal

เปิดใช้งาน AI Super Wide-Angle Camera มุมมองกว้างพิเศษ

 

สำหรับการทดสอบการใช้งานฟีเจอร์เด่น ไฮไลท์หลักรวมถึงโหมดการถ่ายภาพต่าง ๆ บน Vivo V15 ที่ยังไม่ได้ลงในพรีวิวครั้งนี้ สามารถติดตามอ่าน Full Review จาก ibelieveit กันได้ในเร็ว ๆ นี้ครับ

 

 

สำหรับผู้ที่สนใจ Vivo V15 สามารรถพรีออเดอร์กันได้ ทั้งช่องทาง Vivo Brand Shop

https://www.ibelieveit.net/vivo-v15-pre-order/ 

• ลูกค้าที่ทำการจอง Vivo V15 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขาและร้านตัวแทนจำหน่าย  รับสิทธิ์ได้เครื่องก่อนใครพร้อมทั้งได้รับสิทธิพิเศษอื่น  มากมาย :
1. ลูกค้าจะได้รับ Vivo VIP Card ( เพิ่มรับประกันเครื่อง 24 เดือน , รัประกันเปลี่ยนหน้าจอไม่จำกัดจำนวน 1 ปี )
2. ลูกค้าจะได้รับ Vivo V15 Series Executive Gift Set มูลค่า 1,099 บาท
3. ลูกค้าจะได้รับ Songkran Gift Set มูลค่า 1,199 บาท
4. ลูกค้าจ่ายค่ามัดจำในการจองเพียง 500 บาท พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดการจองและตรวจสอบการจองให้ครบถ้วน หากเกิดข้อผิดพลาดจากตัวผู้จองเอง ทางบริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทยจำกัด จะไม่รับผิดชอบใด  ทั้งสิ้น ในทุกรณี
5. ต้องนำใบการจอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมารับสินค้า พร้อมทั้งชำระค่าส่วนต่างในวันรับเครื่อ
•  ลูกค้าสามารถรับเครื่อง Vivo V15 ในสาขาที่ทำการจองเท่านั้น มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ในการรับของแถม พร้อมทั้งสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำในทุกกรณี
•  ระยะเวลาเปิดรับการจองเริ่มตั้งแต่วันที่ 16– 27 กุมภาพันธ์  2562  เท่านั้น Vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเท
•  บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
•  หากมีข้อสงสัยในการสั่งจองสามารถติดต่อได้ที่ : บริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทยจำกัด เลขที่729/117-121 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทร. 02-284-0333 Fax. 02-2943988 Call Center. 02-294-3111-2  หรือที่  www.vivo.co.th
•  สำหรับผู้ที่ทำการจอง Vivo V15Pro สามารถรับเครื่องพร้อมของแถมในวันที่ 28  มีนาคม 2562 เป็นต้นไป

 

และช่องทางออนไลน์ ผ่านทาง LAZADA https://www.ibelieveit.net/vivo-v15-lazada/

รับทันที In –Ear แบรนด์ Marshall มูลค่า 3,590 บาท พร้อมทั้ง  Vivo Exclusive Gift box  มูลค่า 1,099 บาท ,    Vivo Songkarn Festival Gift Set มูลค่า  1,199 บาท และ Privilege card รวมมูลค่ากว่า 5,870 บาท เฉพาะผู้ที่สั่งจองตั้งแต่วันที่  16 – 27  มีนาคม 2562  โดย LAZADA เปิดให้จอง Vivo V15 สี Topaz Blue  ( สีน้ำเงิน ) และ สี Glamour Red ( สีแดง)

 

Facebook Comments

Related Posts