เอไอเอสยังคงเดินหน้ามอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชัน ด้วยเทคโนโลยีและบริการคุณภาพอันดับหนึ่งไปยังกลุ่มลูกค้าในทุกภูมิภาค โดยหลังจากส่งมอบความสุขให้กับพี่น้องชาวภาคอีสาน ผ่านแคมเปญ “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแฮงสุดทั่วภาคอีสาน” http://bit.ly/2ZcuO7d กันไปแล้ว คราวนี้มาถึงคิวของพี่น้องชาวปักษ์ใต้ แดนดินถิ่นมโนราห์กันบ้าง ซึ่งในการลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่การเปิดตัวเฉพาะแคมเปญเพียงอย่างเดียว แต่เอไอเอสยังได้มีการนำเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลแห่งยุคเข้าไปเสริมแกร่งให้กับภาคใต้อีกด้วย โดยเป็นการเปิดตัวและสาธิตนวัตกรรมต้นแบบจากเทคโนโลยี 5G บนสภาพแวดล้อมจริง ด้วยการโชว์ไลฟ์สด ครั้งแรกของโลกกับการสาธิต บังคับรถไร้คนขับทางไกล ข้ามภูมิภาค ระหว่างกรุงเทพฯ และสงขลา ด้วยระยะทางถึง 950 กิโลเมตร ผ่านระบบ 5G (1st 5G Remote Control Vehicle)
และล่าสุดเอไอเอสได้ร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ-ม.อ.และกสทช. โชว์ไลฟ์สด ครั้งแรกของโลกกับการสาธิต บังคับรถไร้คนขับทางไกล ข้ามภูมิภาค ระหว่างกรุงเทพฯ และสงขลา ด้วยระยะทางถึง 950 กิโลเมตร ผ่านระบบ 5G (1st 5G Remote Control Vehicle)
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://bit.ly/2Zf38dY
นอกเหนือจากการทดลอง ทดสอบ เทคโนโลยี 5G บนสภาพแวดล้อมจริง เพื่อสร้างโมเดล Smart City ต้นแบบการพัฒนาเมืองเพื่อความปลอดภัยแล้ว ในพื้นที่ภาคใต้ยังได้มีการนำเทคโนโลยี Internet of Things มาใช้งาน ผ่านทางแพลตฟอร์ม Narrowband Internet of Things (NBiot) และ eMTC ซึ่งมีการนำมาใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น iFarm ที่ผสานเทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเทคโนโลยี IoT มาผสานเข้ากับบริการโครงข่ายจากเอไอเอส เพื่อยกระดับเกษตรกรไทยให้สามารถก้าวทันโลกในยุคดิจิทัล
สำหรับโคงการต่าง ๆ ที่มีการนำ Internet of Things มาทดสอบ ทดลองใช้ในพื้นที่ภาคใต้นั้น เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้ง AIS หน่วยงานภาครัฐและบรรดาพาร์ทเนอร์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยในปัจจุบันแพลตฟอร์ม Narrowband Internet of Things (NBiot) และ eMTC มีพันธมิตรกว่า 1,335 บริษัท และได้มีการทดลองนำแพลตฟอร์มนี้มาใช้งานในจังหวัดสงขลา อาทิเช่น ที่จอดรถอัจฉริยะ การวัดสภาพอากาศ ยานยนต์ไร้คนขับและการควบคุมจากระยะไกล เป็นต้น
ทำให้การที่เอไอเอส ลงพื้นที่ภาคใต้ในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นแค่การมาเปิดตัวแคมเปญใหม่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการนำเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลแห่งยุคเข้าไปเสริมแกร่งให้กับภาคใต้ เพื่อพัฒนานวัตกรรมและนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการใช้ชีวิตของชุมชนและประชาชนในแบบยั่งยืนอีกด้วย อาทิ
AIS DigitALL Shop ช้อป ร้านค้าที่เปิดตัวภายใต้คอนเซปต์ “The Unmanned Store” แห่งแรกในไทย ที่ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องมีเคาน์เตอร์บริการ และไม่ต้องใช้เงินสด http://bit.ly/30ebsMx
AIS School Van Clever ที่เอไอเอสนำเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับโครงข่าย ก่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรมเพื่อคนในพื้นที่ โดย AIS School Van Clever จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลความปลอดภัยของบุตรหลานได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอดเวลา
แคมเปญ “เอไอเอสที่ 1 ตัวจริง เร็วแรงสุดทั่วภาคใต้”
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับแคมเปญที่หนึ่งตัวจริงเพื่อพี่น้องชาวภาคอีสานไปแล้ว ลงมาภาคใต้ทั้งที่เอไอเอสก็จัดหนัก จัดเต็มเช่นเคย ด้วยการเปิดตัวแคมเปญล่าสุด “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแรงสุดทั่วภาคใต้” ที่มาพร้อมกลยุทธ์ที่เข้าถึงและเข้าใจผู้ใช้งานในภูมิภาคนั้นๆ ด้วยการออกแบบแพ็กเกจและโปรโมชั่นมือถือ รวมถึงคัดสรรคอนเทนท์ความบันเทิงและสิทธิพิเศษที่สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้
พร้อมดึง “เอกชัย ศรีวิชัย” นักร้องชื่อดัง ที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวใต้ เป็นตัวแทนสื่อสารแคมเปญไปยังพี่น้องชาวปักษ์ใต้ เพื่อให้สามารถรับรู้ถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพในทุก ๆ ด้านจากเอไอเอส
ในด้านคุณภาพโครงข่าย เอไอเอสยังคงยืนหนึ่งตัวจริงของภาคใต้ ด้วยฐานลูกค้ากว่า 5.7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14 ของฐานลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาโครงข่าย 3G และ 4G ให้ครอบคลุมแล้วกว่า 1,083 ตำบล ทั่วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้
ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีความหลากหลายของทางภาคใต้ โดยมีทั้งภูเขา ทะเลรวมถึงหมู่เกาะต่าง ๆ จึงทำให้เอไอเอสโฟกัสและให้ความสำคัญกับการขยายโครงข่ายสัญญาณให้สามารถครอบคลุมในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบนบกหรือในทะเล เพื่อให้พี่น้องชาวภาคใต้อุ่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่ดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่บนพื้นที่ไหน ๆ ก็ตาม
โดยที่ผ่านมา เอไอเอสก็ได้พิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการที่ได้รับรางวัลเครือข่ายมือถือที่เร็วที่สุดในไทยถึง 4 ปีซ้อนจาก Ookla® Speedtest® จึงเป็นการการันตีด้านโครงข่ายคุณภาพที่เป็นเบอร์หนึ่งของไทยได้เป็นอย่างดี
นอกจากโครงข่าย 3G และ 4G ที่มีการให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งภาคใต้แล้ว ในส่วนของ AIS WiFi และบริการเน็ตบ้าน Fibre ก็มีความพร้อมให้บริการในอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย AIS WiFi พร้อมรองรับการใช้งานกว่า 10,000 โลเคชั่น และเตรียมขยายจุดให้บริการเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือหน่วยงานภาครัฐ ส่วนเน็ตบ้าน AIS Fibre มีการให้บริการครอบคลุมแล้วใน 10 จังหวัด 55 อำเภอ และพร้อมขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับ กลยุทธ์ด้านการขยายฐานลูกค้า และการออกแบบเซอร์วิสเพื่อพี่น้องชาวใต้นั้น คำนึงจากสภาพทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และบริบทต่างๆ ในพื้นที่ ที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมประมงที่มีผู้ใช้งานเป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก เอไอเอสจึงออกแบบแพ็กเกจให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานได้ครบทุกเซ็กเมนต์ โดยมีแพ็กเกจพร้อมสิทธิพิเศษให้เลือกใช้งานหลากหลายและครอบคลุม ตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่ได้มากที่สุด ประกอบไปด้วย
- The One SIM ซิมความบันเทิง ให้ดูYouTube และ AIS PLAY พร้อมฟังเพลงฟรีตลอดปี
- Super Social SIM ซิมโซเชียลไม่อั้น
- ZEED SIM ซิมเล่นเกมและโซเชียลเพื่อคนวัยเรียน ใช้ได้คุ้มๆ
- AIS Lucky SIM ซิมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ให้เล่นเน็ตและโทรกลับบ้านราคาพิเศษขณะท่องเที่ยวในภาคใต้
- ซิมพม่า เพื่อคนพม่าที่อาศัยในพื้นที่ภาคใต้ ให้เล่นโซเชียลฟรี พร้อมโทรกลับพม่าในราคาประหยัด
- แพ็กเกจเสริมพิเศษ ให้เล่นเน็ตได้เต็มสปีด และโทรฟรีทุกเครือข่ายในราคาประหยัด สำหรับ 6 จังหวัดที่โฟกัสเป็นพิเศษในภาคใต้ ได้แก่ สงขลา, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สตูล และระนอง
นอกจากนี้ เอไอเอสยังเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งอาจจะมีผู้ใช้งานบางกลุ่ม ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตด้วยข้อจำกัดบางประการ เพราะฉะนั้นเอไอเอสจึงได้ออกแบบทางเลือกที่เปิดให้ผู้ใช้งานในพื้นที่ได้สามารถจับจองเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟมพร้อมเพ็กเกจในราคาที่จับต้องได้ง่าย ๆ โดยเปิดวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน AIS Super Smart Gen 1 ราคาเพียง 1,590 บาท ให้เล่นเน็ตสูงสุด 120 GB มูลค่า 1,400 บาท เมื่อใช้ซิมใหม่ที่มาพร้อมเครื่อง
รายละเอียดเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่>>> https://bit.ly/2YcKiYH
รวมถึงกลุ่มผู้ใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงวัย ที่ไม่เน้นด้านเดต้า แต่ยังนิยมการโทรเป็นหลัก ซึ่งเอไอเอสก็มีฟีเจอร์โฟนเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่เน้นด้านการโทร ด้วยมือถือฟีเจอร์โฟน AIS Super Talk T1 ในราคาเพียง 890 บาทเท่านั้น พร้อมโทร AIS ไม่อั้น 24 ชั่วโมงฟรีอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่>>>https://bit.ly/2Yj1trs
ส่วนในด้านการเข้าถึงบริการจากเอไอเอสในพื้นที่ภาคใต้ ทางเอไอเอสเล็งเห็นความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าด้านคุณภาพโครงข่าย โดยลูกค้าชาวปักษ์ใต้ สามารถเข้าถึงสินค้ากลุ่ม Handset, แพ็กเกจมือถือ และบริการอื่น ๆ อีกมากมายได้อย่างสะดวกและรวดเร็วกว่า 4,000 จุด พร้อมจัดรถ Mobile Service Car ซึ่งเปรียบเสมือน AIS Shop เคลื่อนที่ไว้บริการลงไปให้บริการในระดับหมู่บ้านทั่วภาคใต้ ทั้งในงานประเพณีท้องถิ่นและงานกิจกรรมระดับตำบล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เอไอเอสเป็นที่หนึ่งครองใจพี่น้องชาวภาคใต้มาโดยตลอด
คราวนี้มาดูกันต่อที่สิทธิพิเศษ และคอนเทนต์ที่คัดสรรมาเพื่อไลฟ์สไตล์ชาวใต้ โดยพร้อมจัดเต็มให้พี่น้องชาวภาคใต้ได้รับสิทธิพิเศษแบบ 360 องศา จากร้านอาหาร เครื่องดื่ม และแหล่งช้อปปิ้งดังทั่วภาคใต้มากกว่า 300 ร้าน พร้อมกิจกรรมมื้อนี้ฟิน วันนี้ฟรี ทั่วภาคใต้ ซึ่งมียอดลูกค้าใช้สิทธิ์กว่า 150,000 เลขหมายต่อปี
และยังสามารถรับชมคอนเทนท์ความบันเทิงบน AIS PLAY ที่ตอบโจทย์ความชื่นชอบของพี่น้องชาวภาตใต้เป็นพิเศษ เช่น หนังตะลุง น้องเดี่ยว ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยสืบสานวัฒนธรรมภาคใต้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ เอไอเอส ยังเอาใจพี่น้องชาวใต้สุด ๆ กับกิจกรรมคอนเสิร์ต เอกชัย ศรีวิจัย ที่จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ ถึง 15 รอบการแสดง โดยเฉพาะวันที่ 23 สิงหาคม จังหวัดสงขลา, 30 สิงหาคม จังหวัดตรัง, 31 สิงหาคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ 11 กันยายน จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ลูกค้าเอไอเอสเข้าชมฟรีตลอดงาน
สรุปส่งท้าย มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม การจัดแคมเปญ เอไอเอสที่หนึ่งตัวจริงทั่วทุกภูมิภาคมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกจัดที่ภาคอีสาน และครั้งล่าสุดคือภาคใต้ โดยจุดประสงค์ของตัวแคมเปญต้องบอกว่าเดินไปในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ เป็นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก ทั้งเครือข่าย AIS 4.5G และ AIS 4G ADVANCED ที่รองรับเทคโนโลยีขั้นสูง และ AIS NEXT G ที่เร็ว แรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ AIS Super WiFi, AIS Fibre , มาผสานกับการออกแบบตัวแพ็กเกจและโปรโมชั่นมือถือ รวมถึงคัดสรรคอนเทนท์ความบันเทิงและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมเกิดความสอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในพื้นที่แต่ละภาคได้อย่างลงตัวนั่นเอง ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 ภาคต่างก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวแพ็กเกจ โปรโมชั่นมือถือ หรือกิจกรรมคอนเสิร์ตต่อเนื่องจากพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นขวัญใจของคนในภาคนั้น ๆ
สำหรับภูมิภาคอื่น ๆ เตรียมพบกับแคมเปญสุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้งานในแต่ละภูมิภาคกันได้ในเร็ว ๆ นี้ครับ