สัมผัสไฮไลท์เด่น Xiaomi 14 Series เรือธงกล้องเทพ โดดเด่นด้วยเลนส์ Leica Summilux มาพร้อมสเปคและฟีเจอร์ครบครัน !!!

โดย J.wasan
0 ความเห็น 10.8K views

หลังจากเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Mobile World Congress 2024 แฟน ๆ Xiaomi ในไทยต่างก็ตั้งตารอคอยการมาถึงอย่างเป็นทางการของ Xiaomi 14 Series อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน Xiaomi ประเทศไทยก็ได้เปิดตัว Xiaomi 14 Series ในบ้านเราในช่วงเดือน มีนาคม 67 ที่ผ่านมา ซึ่งกระแสตอบรับถือว่าดีมาก ๆ เพราะ Xiaomi 14 Series ได้ยกระดับการถ่ายภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยคุณสมบัติทางด้าน Hardware ที่ได้มีการพัฒนาคุณภาพกล้องในระดับ Co-Engineer ร่วมกับ Leica จนก้าวขึ้นไปสู่ความเป็นเรือธงที่โดดเด่นในด้าน Camera โดยสามารถตอบโจทย์การถ่ายภาพในระดับมืออาชีพได้เหนือกว่าทุกคู่แข่งในท้องตลาด และนอกจากจะโดดเด่นในด้านการถ่ายภาพแล้ว Xiaomi 14 Series ยังมาพร้อมสเปคและฟีเจอร์แบบอัดแน่น โดยทาง IbelieveIT จะมาสรุปไฮไลท์เด่น ๆ ของ Xiaomi 14 Series ทั้ง 2 รุ่น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์โดนใจผู้ใช้งานที่มองหาสมาร์ตโฟน “กล้องเทพ สเปคแรง ฟีเจอร์ครบครัน” ได้อย่างแน่นอน 

ยกระดับการถ่ายภาพขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบกล้อง 4 ตัวจาก Leica ซึ่งได้มีอัปเกรดจากเลนส์ Leica Summicron ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้ามาเป็นเลนส์ Leica Summilux ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพด้านออปติคที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงคุณสมบัติอันโดดเด่นจากรุ่นก่อนไว้อย่างครบครัน อาทิเช่น เลนส์ Aspherical แบบ 8 ชิ้นเลนส์ ฟิลเตอร์แสงอินฟราเรดเคลือบแบบหมุนเหวี่ยง, เทคโนโลยีการเคลือบหมึกที่ขอบเลนส์, การเคลือบเลนส์กันแสงสะท้อน, วัสดุไซคลิกโอเลฟินโคโพลิเมอร์ จึงมั่นใจได้ว่า เลนส์ชุดนี้สามารถเก็บรายละเอียดที่สวยงามในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังถ่ายทอดสีสัน คอนทราสต์ และความละเอียดออกมาได้อย่างโดดเด่นสมจริงอีกด้วย 

สำหรับ Xiaomi 14 Ultra จะมาพร้อมกล้อง 4 ตัว ซึ่งเป็นเลนส์ Leica ทั้งหมด โดยมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซลเท่ากันทุกเลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก, กล้อง Telephoto แบบ Floating, กล้อง Telephoto แบบ Periscope และกล้องมุมกว้าง Ultra Wide ในส่วนของกล้อง Telephoto จะครอบคลุมทางยาวโฟกัสในระยะ 12 มม. ถึง 120 มม. และมีจุดเด่นด้วยเทคโนโลยี In-Sensor Zoom ของ Xiaomi จึงได้ทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้นอีก 2 ระยะ คือ 46 มม. และ 240 มม. ช่วยการถ่ายภาพมีความหลากหลายยิ่งขึ้น  

  • กล้องหลัก ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 รูรับแสงแบบปรับได้ f/1.63 ถึง f/4.0 ทางยาวโฟกัส 23 มม. ระบบกันสั่น HyperOIS
  • กล้อง Telephoto แบบ Floating ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 รูรับแสง f/1.8 ทางยาวโฟกัส 75 มม. ระบบกันสั่น OIS
  • กล้อง Telephoto แบบ Periscope ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 รูรับแสง f/2.5 ทางยาวโฟกัส 120 มม. ระบบกันสั่น OIS
  • กล้อง Ultra Wide ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 รูรับแสง f/1.8 ทางยาวโฟกัส 12 มม.v

จุดเด่นของกล้องหลังทั้ง 4 เลนส์  

กล้องหลักของ Xiaomi 14 Ultra ใช้เซ็นเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว มีขนาดพิกเซลใหญ่ถึง 3.2µm มาพร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 ซึ่งช่วยเพิ่มความไวแสงขึ้น 25% เมื่อทำงานร่วมกับ Dual Native ISO Fusion Max ผลที่ได้คือช่วงไดนามิกที่สูงเป็นพิเศษ ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยรวมถึงสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างได้ดียิ่งขึ้น  นอกจากนี้ตัวกล้องหลักยังใช้กลไกรูรับแสงแบบปรับได้แบบ Stepless ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับกล้องมืออาชีพ โดยสามารถปรับรูรับแสงแบบอัตโนมัติ รวมถึงปรับค่ารูรับแสงแบบ manual ได้อย่างราบรื่นระหว่าง f/1.63 ถึง f/4.0 พร้อมตอบโจทย์การถ่ายได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานทั่วไปหรือในระดับมืออาชีพ 

สำหรับกล้อง Telephoto แบบ Floating ของ Xiaomi 14 Ultra สามารถถ่ายภาพ Macro ในระยะ 10 ซม. ถึงระยะ infinity ซึ่งเป็นการยกระดับขีดความสามารถของตัวกล้อง Telephoto ที่เหนือกว่าทุกคู่แข่งในท้องตลาด ส่วนกล้อง Telephoto แบบ Periscope จะมีจุดเด่นด้วยเทคโนโลยี In-Sensor Zoom ส่งผลให้สามารถขยายทางยาวโฟกัสเพิ่มเติมเป็น 240 มม. และยังช่วยให้การซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพอีกด้วย

ปิดท้ายกันที่ตัวกล้องมุมกว้างพิเศษ Ultra Wide ทาง Xiaomi ได้พัฒนาตัวเลนส์ให้มี distortion หรือความบิดเบี้ยวที่ต่ำ ให้ภาพที่ดูมีความเป็นธรรมชาติ และยังรองรับการถ่ายภาพโหมด Macro ได้ใกล้ถึง 5 ซม. 

ตัวอย่างภาพถ่ายของ Xiaomi 14 Ultra 

 

 

สำหรับ Xiaomi 14 Ultra ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับถ่ายภาพโดยเฉพาะ (Photography kit) โดยเป็นอุปกรณ์เสริมที่วางจำหน่ายแยกต่างหาก ประกอบด้วย กริปหรือด้ามจับ, เคส, อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์ 67 มม., วงแหวนตกแต่งเลนส์ 2 อัน และสายคล้องมือ

ตัวกริปจะมีปุ่มชัตเตอร์แบบ 2 สเต็ป พร้อมคันโยกสำหรับการซูม ด้านข้างจะเป็นปุ่มบันทึกวิดีโอ และแป้นหมุนไดอัล ซึ่งในภาพรวมจะให้ฟิลลิ่งคล้าย ๆ กับกล้องคอมแพคหรือกล้องโปร ส่งผลให้การถ่ายภาพและวิดีโอมีความถนัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานมือเดียวได้สะดวกคล่องตัว และตัวกริปยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองขนาด 1500mAh ช่วยให้การถ่ายรูปได้ต่อเนื่องยาวนานอีกด้วย

Xiaomi 14   

Xiaomi 14 มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว จาก Leica โดยประกอบด้วย กล้องหลักที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 900 มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.31”, กล้อง Telephoto แบบ Floating รองรับการโฟกัสใกล้สุดที่ 10 ซม. และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล

  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Light Fusion 900 รูรับแสง f/1.6 ทางยาวโฟกัส 23 มม.
  • กล้อง Telephoto แบบ Floating รูรับแสง f/2.0 ทางยาวโฟกัส 75 มม.
  • กล้อง Ultra Wide 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ทางยาวโฟกัส 14 มม

ตัวอย่างภาพถ่าย Xiaomi 14

กล้องหน้า

Xiaomi 14 มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่แบบ punch hole  ความละเอียด 32MP รูรับแสงกว้าง f/2.0 ขนาดพิกเซล 0.7μm เลนส์มุมกว้าง 89.6° FOV เลนส์ 5P

รองรับการบันทึกวิดีโอด้วยกล้องหน้า

การบันทึกวิดีโอ HDR ด้วย Dolby Vision สูงสุด 1080p ที่ 30 fps

การบันทึกวิดีโอ 4K (3840×2160) ที่ 30 fps หรือ 60 fps

การบันทึกวิดีโอ HD 1080p (1920×1080) ที่ 30 fps หรือ 60 fps

การบันทึกวิดีโอ HD 720p (1280×720) ที่ 30 fps

สำหรับ Xiaomi 14 Ultra ให้กล้องเซลฟี่บนหน้าจอความละเอียด 32MP รูรับแสงกว้าง f/2.0 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.14” เลนส์มุมกว้าง 90° FOV

การบันทึกวิดีโอด้วยกล้องหน้า

การบันทึกวิดีโอ HDR ด้วย Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 30 fps

การบันทึกวิดีโอ 4K (3840×2160) ที่ 30 fps หรือ 60 fps

การบันทึกวิดีโอ HD 1080p (1920×1080) ที่ 30 fps หรือ 60 fps

การบันทึกวิดีโอ HD 720p (1280×720) ที่ 30 fps

 

ชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon® 8 Gen 3

Xiaomi 14 Series ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 3 บนสถาปัตยกรรม 4nm อันล้ำสมัย พร้อมด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ CPU ที่สูงขึ้นถึง 32% ประสิทธิภาพของ AI สูงขึ้น 98% และลดการใช้พลังงานลง 34% ในด้านประสิทธิภาพของ GPU นั้นสูงขึ้น 34% และลดการใช้พลังงานถึง 38% ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 

นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังยกระดับขึ้นด้วย Xiaomi Dual-Channel IceLoop เพื่อการระบายความร้อนเฉพาะกล้อง ซึ่งการจับคู่อันทรงพลังนี้ช่วยให้ Xiaomi 14 Ultra สามารถใช้งานได้อย่างไม่สะดุดแม้ในสถานการณ์ที่มีความหลากหลาย 

นอกจากจะมาพร้อมชิปเซ็ตรุ่นท็อปแล้ว Xiaomi 14 Series ยังให้สเปค Hardware ระดับเรือธงมาด้วยเช่นกัน ประกอบด้วย USB-C 3.2 Gen 2  สัมผัสความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้เร็วยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะถ่ายโอนไฟล์หรือกำลังใช้สมาร์ตโฟนเป็นฮาร์ดไดรฟ์แบบพกพา

ในส่วนของ RAM จะเป็น LPDDR5X โดยให้ความเร็วบัสมาที่ 5833Mbps พร้อม ROM ชนิด UFS 4.0 เมื่อทำงานร่วมกับตัวชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 3 ที่ทรงพลังจึงพร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งานได้ลื่นไหลแบบไร้รอยต่อ สามารถอ่าน/เขียนและเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น รวมถึงเปิดแอปพลิเคชันได้รวดเร็วทันใจ พร้อมใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไร้อาการสะดุดให้หงุดหงิดใจ

อีกหนึ่งจุดแข็งของค่าย Xiaomi ก็คือการพัฒนาตัวระบบปฏิบัติการ (operating system) หรือโอเอส (OS) นั่นเอง โดย Xiaomi 14 Series มาพร้อม Xiaomi HyperosOS บนพื้นฐานของ Android 14 บนแนวคิด “Human x Car x Home” ที่มุ่งเน้นในการเพิ่มขีดความสามารถของ Hardware เข้ากับตัว Software เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด โดยมีคุณสมบัติในการจัดการทรัพยากรฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังรองรับการใช้งานที่ยืดหยุ่นของโมเดลอัลกอริทึมอันหลากหลายบนสถาปัตยกรรมระบบ AI ที่ล้ำสมัยที่สุดอีกด้วย

เมื่อผสานรวมกับ Hardware ระดับเรือธง ส่งผลให้การใช้งานในภาพรวม ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ถ่ายรูป/วิดีโอ หรือด้านความบันเทิงอย่างดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เป็นไปอย่างสมูท ไหลลื่น ไร้การสะดุด สมกับความสมาร์ตโฟนเรือธงของยุคนี้อย่างแท้จริง 

เครือข่ายและการเชื่อมต่อของ Xiaomi 14 Series

Xiaomi 14 Series รองรับซิมคู่ (นาโนซิม + นาโนซิม) รองรับ DSDA (Dual SIM Dual Active)

แบนด์เครือข่ายที่รองรับการใช้งาน

5G NR: n1/2/3/5/7/8/20/28/38/40/41/48/66*/77/78/79

4G: LTE FDD: 1/2/3/4/5/7/8/18/19/20/26/28/66*

4G: LTE TDD: 38/40/41/42/48

3G: WCDMA: 1/2/4/5/6/8/19

2G: GSM: 2/3/5/8

และยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Wi-Fi 7 ซึ่งรองรับความเร็วสูงพิเศษพร้อมการประหยัดพลังงาน สามารถเร่งความเร็วในแบบไร้รอยต่อ โดยมีอัตราความเร็วสูงสุดในเชิงทฤษฎีที่ 5.8Gbps รองรับการใช้งานทั้งดาวน์โหลดและอัปโหลดที่รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ Wi-Fi 6

หน้าจอเรือธง มอบภาพที่งดงาม พร้อมฟีเจอร์ที่ให้มาแบบอัดแน่น 

Xiaomi 14 Series มาพร้อมเทคโนโลยีจอแสดงผลใหม่ล่าสุด นั่นก็คือแผงจอ C8 ที่ปรับแต่งโดย Xiaomi โดยมีจุดเด่นเป็นหน้าจอที่ให้ความคมชัดเป็นพิเศษ มอบประสิทธิภาพแสงที่สูงขึ้นในขณะที่ใช้พลังงานต่ำลง ผลที่ได้ก็คือประสบการณ์รับชมที่ยอดเยี่ยมเพื่อการใช้งานในทุกวัน

สำหรับตัวแผงกระจกหน้าจอบน Xiaomi 14 Series จะประกอบขึ้นจาก Xiaomi Shield Glass ซึ่งเป็นกระจกที่ใช้วัสดุแบบใหม่เพื่อสร้างโครงสร้างที่เชื่อมประสานกันผ่านกระบวนการเผาผนึกที่อุณหภูมิสูง กระจกชนิดนี้มีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่ากระจกทั่วไป ซึ่งโดดเด่นในด้านความทนทานต่อการตกกระแทกที่เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า โดยที่ยังคงไว้ซึ่งความโปร่งใส จึงมั่นใจได้ว่ากระจกหน้าจอจะยังคงมีความชัดเจน โปร่งใส่ แข็งแกร่ง และทนทานต่อการสึกหรอ มอบความมั่นใจในการใช้งานได้ตลอดเวลา

Xiaomi 14 Ultra มาพร้อมจอแสดงผล All Around Liquid Display พาเนล AMOLED ขนาด 6.73″ ความละเอียด WQHD+ (3200 x 1440)  , ความหนาแน่นพิคเซล 522 ppi รองรับเทคโนโลยี LTPO, AdaptiveSync Pro อัตรารีเฟรชแบบไดนามิกตั้งแต่ 1-120Hz มีความไวตอบสนองการสัมผัสสูงสุด 240Hz 

หน้าจอ TrueColor 6.8 หมื่นล้านสี ให้ความสว่าง HBM 1000 nits (typ), ความสว่างสูงสุด 3000 nits หน้าจอ Pro HDR รองรับ UltraHDR Dolby Vision®HDR10+  ช่วงสี DCI-P3 

 

หน้าจอถนอมสายตาระดับโปร
Xiaomi 14 Ultra รังสรรค์ดีไซน์หน้าจอแสดงผลที่มีแสงสีฟ้าต่ำในระดับฮาร์ดแวร์ ซึ่งสามารถลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายให้ต่ำลงถึง 50% นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบทิศทางและรองรับการหรี่ไฟ DC แบบไดนามิกและการหรี่ไฟ PWM 1920Hz สามารถปรับความสว่างหลายระดับ เพื่อดูแลปกป้องดวงตาอย่างชาญฉลาดในแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังได้ใบรับรองการถนอมสายตาจาก TÜV Rheinland อีกด้วย

ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)

ได้รับใบรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบจาก TÜV Rheinland

ได้รับใบรับรองความเป็นมิตรกับนาฬิกาชีวภาพจาก TÜV RheinlandXiaomi Shield Glass

Xiaomi 14 ให้จอแสดงผลพาเนล AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว 1.5K CrystalRes ความละเอียด (2670 x 1200) , ความหนาแน่นพิคเซล 460 ppi รองรับเทคโนโลยี LTPO, AdaptiveSync Pro อัตรารีเฟรชแบบไดนามิกตั้งแต่ 1-120Hz มีความไวตอบสนองการสัมผัสสูงสุด 240Hz 

หน้าจอ TrueColor 6.8 หมื่นล้านสี ให้ความสว่าง HBM 1000 nits (typ), ความสว่างสูงสุด 3000 nits หน้าจอ Pro HDR รองรับ UltraHDR Dolby Vision®HDR10+  ช่วงสี DCI-P3 

 

ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)

 

ได้รับใบรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบจาก TÜV Rheinland

ได้รับใบรับรองความเป็นมิตรกับนาฬิกาชีวภาพจาก TÜV RheinlandXiaomi Shield Glass

นอกจากนี้ Xiaomi 14 Series ยังรองรับการปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งอัตรารีเฟรช, พื้นผิวขั้นสูง (Adanced textures), โทนสี, โหมดการอ่าน, ความละเอียดจอแสดงผล, เครื่องมือภาพ AI เป็นต้น 

แบตเตอรี่ซิลิคอนความหนาแน่นพลังงานสูง มอบประสบการณ์อายุแบตเตอรี่ระดับแนวหน้าของ Xiaomi

Xiaomi 14 Ultra มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ส่วน Xiaomi 14 ให้ความจุแบตเตอรี่ที่ 4610mAh ซึ่งถือว่าให้แบตความจุสูงมากเมื่อเทียบกับขนาดและความบางของตัวเครื่อง 

โดยทั้ง 2 รุ่น รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 90W HyperCharge ส่วนการชาร์จแบบไร้สาย Xiaomi 14 Ultra รองรับชาร์จเร็วไร้สาย 80W HyperCharge ในขณะที่ Xiaomi 14 จะรองรับชาร์จเร็วไร้สาย 50W HyperCharge 

Xiaomi 14 Ultra  รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย (ไฮเปอร์ชาร์จ 90W) โดยสามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 46 นาที ส่วนชาร์จแบบไร้สาย (ไฮเปอร์ชาร์จไร้สาย 80W) ใช้เวลา 33 นาที จะชาร์จเต็มได้ 100%

สำหรับ Xiaomi 14 รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย (ไฮเปอร์ชาร์จ 90W) โดยสามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 31 นาที ส่วนชาร์จแบบไร้สาย (ไฮเปอร์ชาร์จไร้สาย 80W) จะชาร์จเต็มได้ 100% ในเวลา 46 นาที 

นอกจากจะมีแบตใหญ่สุดอึดแล้ว Xiaomi 14 Series ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Reverse wireless Charging ที่แปลงร่างให้ Xiaomi 14 Series กลายเป็นพาวเวอร์แบงค์แบบไร้สายเพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือสมาร์ตวอทช์ (ที่รองรับการชาร์จไร้สาย) เรียกว่านอกจากแบตอึดแล้วยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองที่สามารถพกพาติดตัวไปได้ตลอดเวลาอีกด้วย

บทสรุป

Xiaomi 14 Series เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่มาพร้อมความโดดเด่นรอบด้าน โดยชูจุดขายหลักในด้านการถ่ายภาพ ซึ่ง Xiaomi 14 Ultra จะตอบโจทย์ผู้ใช้งานกลุ่ม Professional ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นพิเศษ โดยมีจุดเด่นด้วยการอัปเกรดกล้องหลังทั้งหมดจากเลนส์ Leica ทั้งออปติคอล Leica Summilux รุ่นล่าสุด, Telephoto Leica 75 มม. , Leica 12 มม., Periscope Leica 120 มม. พร้อมฟีเจอร์ที่ให้มาแบบอัดแน่น ซึ่งสามารถตอบโจทย์การถ่ายภาพในระดับโปร รวมถึงช่างภาพที่ต้องการคุณภาพของภาพนิ่งและวิดีโอในระดับที่เหนือกว่าสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไป นอกจากนี้ Xiaomi 14 Ultra นี้ยังมาพร้อมสเปคระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล ชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 8 Gen 3 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และรองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย (ไฮเปอร์ชาร์จ 90W) และไร้สาย 80W 

ส่วน Xiaomi 14 จะมีสเปคที่ลดหลั่นลงไปเล็กน้อย แต่ก็ยังได้คุณสมบัติระดับเรือธงหลายอย่างแบบเดียวกับรุ่น Ultra ในด้าน Camera ก็ถือว่าให้มาแบบไม่มีกั๊ก ด้วยสามเลนส์ระดับโปรจาก Leica โดยมีกล้อง Telephoto แบบ Floating เหมือนรุ่น Ultra มาให้ด้วย เรียกว่าเป็น Camera Phone ที่เหนือกว่าคู่แข่งในเรทราคาเดียวกัน 

 

ราคาและช่องทางวางจำหน่าย 

Xiaomi 14 Ultra มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ White ในรุ่นความจุ 16GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 40,990 บาท สามารถจับจงเป็นเจ้าของได้ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

Xiaomi 14 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, White และ Jade Green ในรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม


New Promotion 



Xiaomi 14 Ultra ราคา 40,990.- รับโปรฯ สุดคุ้มเมื่อช้อปผ่าน mi.com/th

ตั้งแต่ 25-31 พ.ค. 67 เวลา 09:00 น. เป็นต้นไป

รับฟรี Xiaomi 14 Ultra Photography Kit มูลค่า 6,999.-

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/Xiaomi-14-Ultra-Promotion

 

โปรโมชันพิเศษ! เฉพาะที่ Xiaomi Store เท่านั้น

 Xiaomi 14 ความจุ 12GB+512GB ราคาปกติ 29,990.- เหลือเพียง 27,990.- 

ตั้งแต่ 25 พ.ค. 67-13 มิ.ย. 67 เท่านั้น

รับฟรีทันที
Xiaomi Smart Band 7 Pro
120W Charger Adapter Kit
Coffee Cup ดีไซน์พิเศษ มูลค่ารวม 5,588.-

Facebook Comments

Related Posts