รีวิว : realme 3 Pro สมาร์ทโฟนดีไซน์หรู พร้อมสเปกแรง เร็วเหนือระดับ ในราคาสุดคุ้ม

โดย K.ibelieveit
0 ความเห็น 807 views

 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราแล้วสำหรับ realme 3 Pro สมาร์ทโฟนตัวท๊อปรุ่นใหม่จาก realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมสโลแกน “Speed Awakens ปลุกความเร็วเหนือระดับ” โดยเป็นรุ่นอัปเกรดของ realme 3 และรุ่นภาคต่อของ realme 2 Pro ที่จะมาตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ในราคาสุดคุ้มเหมือนเดิม 

realme 3 Pro มีความโดดเด่นตั้งแต่รูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกที่สวยหรู โดยเฉพาะสีของฝาหลังแบบไล่เฉดสีใหม่ที่ดูสะดุดตาเมื่อแรกเห็น ไปจนถึงสเปกภายในที่มีการอัปเกรดจากรุ่น realme 3 ให้แรง และเร็วขึ้น รวมไปถึงกล้องที่ถ่ายได้สวยและดีขึ้นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และมาพร้อมแบตเตอรี่สุดอึดที่รองรับการชาร์จเร็วแบบ VOOC 3.0 เป็นเครื่องแรกของ realme อีกด้วย

ถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากเห็นแล้วว่า realme 3 Pro รุ่นนี้ดีอย่างที่กล่าวไว้หรือไม่ ไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าครับ

อุปกรณ์ในกล่อง

กล่องแพคเกจจิ้งของ realme 3 Pro มาพร้อมโทนสีแบบทูโทน โดยฝากล่องเป็นสีเทา ส่วนตัวกล่องสีเหลืองซึ่งเป็นสีของโลโก้ realme ด้านหน้ากล่องและด้านข้างมีชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนด้านหลังมีรายละเอียดรหัสรุ่นพร้อมชื่อสี, หน่วยความจำ RAM+ROM, เครือข่ายที่รองรับ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

  1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ / ใบรับประกันสินค้า
  2. เข็มจิ้มสำหรับเปิดถาดซิมการ์ด
  3. อแดปเตอร์ชาร์จ 20W VOOC
  4. สายดาต้าลิงค์แบบ microUSB
  5. เคสซิลิโคนแบบใส

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง realme 3 Pro มีดีไซน์สวยหรูดูพรีเมี่ยม ด้านหน้ามาพร้อมจอไร้ขอบพร้อมรอยบากทรงหยดน้ำ Dewdrop Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.8% ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5

ในรอยบากทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนมีเลนส์กล้องเซลฟี่ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.8 ไมครอน รองรับโหมดถ่ายภาพ AI Beautification, รองรับเทคโนโลยีถ่ายภาพแบบ HDR และสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (AI Facial Unlock) ได้อีกด้วย

พลิกมาด้านหลังเครื่องมาในดีไซน์แบบไล่เฉดสีสวยงามโดยใช้วัสดุเคลือบสัมผัสที่มีความเงางามสะท้อนเล่นกับเอฟเฟกต์แสงเป็นรูปตัว S ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากโค้ง Chicane ในสนามแข่งรถ Le Mans track หรือเส้นทางของรถแข่งจากรายการแข่งรถยนต์ในฝรั่งเศสที่เป็นการแข่งขันที่ทดสอบความทนทานของรถและนักแข่ง โดยต้องขับรถด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง สมกับคำนิยามของรุ่นว่า “Speed Awakens”

มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์คู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ในแนวตั้ง โดยกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX519, ขนาดพิกเซล 1.22µm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.6″, รูรับแสง f/1.7, ระบบกันสั่น EIS ส่วนกล้องรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ชัดลึก, รูรับแสง  f/2.4 พร้อมโหมด Super Slo-mo ความละเอียด 720p @960fps, โหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบ Nightscape, ฟีเจอร์ Chroma Boost สำหรับเติมสีสันให้แก่ภาพถ่าย รวมถึงฟีเจอร์การถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอผ่านโหมด Portrait

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่อง กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง

ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง

ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต microUSB 2.0 และช่องลำโพงเสียง

สเปก realme 3 Pro

ขนาด 156.8 x 74.2 × 8.3 มม.
น้ำหนัก 172 กรัม
หน้าจอ Dewdrop notch แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.8% และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
หน่วยประมวลผล Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 710 SoC, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 616
RAM 6GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหน้าแบบ AI Front Camera ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.8 ไมครอน พร้อมรองรับเทคโนโลยีการถ่ายภาพหน้าสวยแบบ AI Beautification, เทคโนโลยีการรวมเม็ดพิกเซลแบบ 4-in-1 Pixels และฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบ HDR ส่วนกล้องหลังแบบคู่ Dual Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7 พร้อมเทคโนโลยีการโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel Fast Focusing, ฟังก์ชันการถ่ายภาพกลางคืนแบบ Nightscape, ฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบ Chroma Boost, ฟังก์ชันการถ่ายภาพความละเอียดสูงแบบ Ultra HD และฟังก์ชันการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ Portrait Mode
ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Color OS 6
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, microUSB 2.0, USB On-The-Go
รองรับระบบ 4G LTE 800/900/1800/2100/2300/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 4045mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ VOOC 3.0 (5V/4A)
ราคา 6,999 บาท รุ่น RAM 4GB+ROM 64GB
8,999 บาท รุ่น RAM 6GB+ROM 128GB

 

คุณสมบัติการใช้งาน

realme 3 Pro รันบนระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6 ที่มีอินเทอร์เฟสดูสบายตา ใช้งานง่าย รวมถึงฟีเจอร์ภายในที่ใส่มาให้แบบจัดเต็ม และมีประสิทธิภาพการทำงานมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของหน้าจอหลักนั้น มีหน้าจอเริ่มต้นให้ใช้ทั้งหมด 2 หน้าหลักด้วยกัน โดยด้านซ้ายเป็นหน้า Smart Assistant หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับใข้งานฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยโดยการแตะครั้งเดียว และดูข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็วในขั้นตอนเดียว

นอกจากนี้ถ้าแตะที่ด้านบนแล้วลากลงมาจะเป็นหน้าจอแจ้งเตือน Notifications Center พร้อมฟีเจอร์สำหรับเปิด/ปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต, WiFi รวมทั้งปรับความสว่าง มีฟังก์ชันถนอมสายตา (Eye protection) เป็นต้น และตั้งค่าใช้งานต่างๆ

รวมทั้งสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอได้โดยกดค้างที่ตรงกลางของหน้าจอ

รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE with VoLTE และรองรับการใช้ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง รองรับการตั้งค่าได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ โดยก่อนใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือพร้องตั้งรหัสแบบ PIN หรือแบบอื่นๆ ก่อน

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้

มาพร้อมแอป Phone Manager เครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่องโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์ไฟล์แคช (Cache File), จัดการความเป็นส่วนตัว หรือการสแกนไวรัส ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัย และใช้งานได้รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา

มีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน รวมทั้งรองรับแอปโคลน ผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Messenge นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 บัญชี

คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน

ด้านการถ่ายภาพ

realme 3 Pro มาพร้อมกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED โดยกล้องหลักเซ็นเซอร์ Sony IMX519 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 เซ็นเซอร์ขนาด  1/2.6 นิ้ว กล้องรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ซูมดิจิทัล 10 เท่า และระบบออโต้โฟกัส

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Protrait, โหมดวิดีโอ, โหมด  Super Night Scape, โหมด Panorama, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมด Time-Lapse และโหมด Slow-motion

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30FPS

โดยด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมด Super Chroma Boost หรือการเพิ่มสี, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ

นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชัน AI Scene Recognition ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของกล้องถ่ายรูปให้สามารถจดจำฉาก หรือซีนต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี AIจากทั้งหมด 16 หมวดหมู่ เพื่อนำมาปรับสีสันของภาพถ่ายให้ออกมาดูสวยงาม และสมจริงขึ้น

ทดสอบภาพจากกล้องหลัง realme 3 Pro

ภาพจากกล้องหลัง โหมดปกติ

ภาพจากกล้องหลัง โหมด Portrait

ปิดเปิดโหมด Super Chroma Boost

เปิดโหมด Super Chroma Boost

ปืดโหมด Super Night Scape

เปืดโหมด Super Night Scape

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.8 นิ้ว สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมด Panorama และโหมด  Time-Lapse พร้อมแสดงไอคอนเมนูทั้งการเปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR และฟีลเตอร์ ที่ด้านบนสำหรับใช้งานได้ทันที

รองรับเทคโนโลยี AI Beautification ที่สามารถวิเคราะห์ใบหน้าผู้ใช้งานให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ผ่านการวิเคราะห์โดยปัญญาประดิษฐ์ โดยสามารถปรับโครงหน้าได้อย่างอิสระ

โดยภาพนิ่งเซลฟี่ถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 2448 x 3264 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p

ทดสอบภาพจากกล้องหน้า realme 3 Pro

ภาพเซลฟี่จากกล้องหน้าโหมดปกติ

ภาพเซลฟี่จากกล้องหน้า เปิด AI

ภาพเซลฟี่จากกล้องหน้า โหมด Portrait ปกติ

ภาพเซลฟี่จากกล้องหน้า โหมด Portrait เปิด AI

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

 

 

 

ประสิทธิภาพ

realme 3 Pro ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 710 AIE, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 616, RAM 4GB/6GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB/128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV และ PUBG Mobile ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น แต่เล่นนานๆ เครื่องอาจจะร้อนบ้าง แต่ก็ไม่ร้อนมากเกินไป เพราะมีการติดตั้งแผ่นฟิล์ม Graphite ที่ช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากตัวเครื่องเพิ่มเติม โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Game Space ที่ผู้ใช้สามารถบล็อกการแจ้งเตือน Pop Up ต่างๆ ขณะที่กำลังเล่นเกม และล็อกระดับความสว่างของหน้าจอได้

โดยใน Game Space ยังมี Graphics Acceleration สำหรับรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด รวมไปถึง Network Protection สำหรับจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลดอาการแลคขณะเล่นเกมออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme 3 Pro ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme 3 Pro ผ่านแอป GeekBench

แบตเตอรี่

 

realme 3 Pro ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 4,045 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไวแบบ VOOC Flash Charge 3.0 (5V/4A) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มจาก 0-100% โดยใช้เวลาเพียง 80 นาทีเท่านั้น

รวมทั้งมีโหมด CABC (Content Adaptive Backlist Control) ที่ช่วยจัดการพลังงานให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้ยาวนาน พร้อมทั้งประหยัดเวลาในการชาร์จอีกด้วย

บทสรุป

realme 3 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่จัดเต็มทั้งดีไซน์และสเปกในราคาสุดคุ้ม ด้วยดีไซน์ด้านหลังเครื่องที่โดดเด่นแบบ 3D Speedway เคลือบเงาสวยหรู พร้อมไล่เฉดสี และมีการแกะสลักเป็นขนาดไมครอนลากยาวเป็นเอฟเฟกต์แสงรูปตัว S ที่เป็นเอกลักษณ์โดยใช้การสะท้อนแสงและการหักเหของแสง ซึ่งลวดลายรูปตัว S นั้นคล้ายกับ Chicane ของสนามแข่งรถ 

realme 3 Pro มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบแบบ DewDrop Full Screen ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และมีสัดส่วนระหว่างตัวเครื่องกับหน้าจอที่ 90.8% พร้อมความคมชัดระดับ Full HD+ สามารถชมคอนเทนต์และเล่นเกมที่ความละเอียด Full HD ได้อย่างคมชัด เต็มตาเต็มอารมณ์

รวมทั้งติดตั้งกล้องหลังคู่ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI, ฟีเจอร์ ChromaฺBoost ที่ทำให้ภาพมีสีสันโดดเด่น และฟีเจอร์ Super Nightscape สำหรับถ่ายกลางคืนได้ดีขึ้น ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล มาพร้อมเทคโนโลยี AI เหมือนกล้องหน้า และเทคโนโลยี 4-in-1 Pixel 

นอกจากนี้ยังใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 710 AIE ที่เร็ว และแรง บวกกับเทคโนโลยี Hyper Boost 2.0 ที่ช่วยเร่งประสิทธิภาพของการทำงานทั้งแอปพลิเคชัน (AppBoost), ระบบ (SystemBoost) และเกม (GameBoost 2.0) ให้ดีขึ้น ทำให้เล่มเกมได้ไหลลื่น ไม่มีสะดุด และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ realme ที่รองรับการชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 อีกด้วย

ทั้งนี้ realme 3 Pro มีให้เลือก 3 สีคือ Lightning Purple, Nitro Blue และ Carbon Grey โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 6,999 บาท สำหรับรุ่น RAM 4GB+ROM 64GB และ 8,999 บาท สำหรับรุ่น RAM 6GB+ROM 128GB วางจำหน่ายแล้ววันนี้

 

Facebook Comments

Related Posts