รีวิว realme 11 Pro Series 5G ดีไซน์หนังวีแกนสุดพรีเมี่ยม พร้อมพลังกล้อง 200MP ซูมเหนือระดับ !!!

โดย K.ibelieveit
0 ความเห็น 5.7K views

realme Number Series เป็นหนึ่งในไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกของ realme ที่มียอดจัดส่งถึง 50 ล้านครั้งในอุปกรณ์ Android และถือเป็นตัวแปรหลักที่ส่งผลให้ realme บรรลุเป้าหมายในการขาย 100 ล้านเครื่องในระยะเวลาอันสั้น ล่าสุดเดินทางมาถึงเจน 11 กับ “realme 11 Pro Series 5G”

สำหรับ realme 11 Pro Series 5G ประกอบด้วย realme 11 Pro+ 5G และ realme 11 Pro 5G ซึ่งรุ่น realme 11 Pro+ 5G ก็เตรียมสร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการอีกครั้ง ด้วยการจับมือร่วมกับ Samsung พัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพสู่ Samsung ISOCELL HP3 ชูนวัตกรรมกล้อง SuperZoom 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลกที่มอบพลังการซูมสูงสุดในเซกเมนต์ที่ 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด 

อยากดูกันแล้วใช่ไหมว่า realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นจะมีดีไซน์พรีเมี่ยม รวมถึงกล้องจะถ่ายออกมาสวยงามแค่ไหน และมีฟีเจอร์เด่นๆ อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ไปติดตามรีวิวเต็มกันได้เลยครับ

 

 

สเปกเบื้องต้น realme 11 Pro 5G

ขนาด สี Sunrise Beige: 161.6 x 73.9 x 8.7 มม.
สี Astral Black: 163.7 x 74.2 x 8.2 มม.
น้ำหนัก สี Sunrise Beige: 191 กรัม
สี Astral Black: 185 กรัม
หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display แบบ OLED 1.07 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65%  โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz, ความถี่การลดแสง 2160Hz PWM, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+, กระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.65 มม. และขอบล่างบาง 2.33 มม.
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 7050 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68
RAM 8GB/12GB รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 8GB 
หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB/512GB
microSD Card
ระบบปฏิบัติการ realmu UI 4.0 based on Android 13
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band
Bluetooth 5.2, A2DP, LE, aptX HD
GPS, GALILEO, GLONASS, BDS, QZSS
NFC
พอร์ต USB Type-C 2.0
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหลักความละเอียด 100 ล้านพิกเซล OIS Prolight Camera, เลนส์ 6P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

พร้อมโหมด 100MP Mode, Auto-zoom, Street Photography Mode, Super NightScape, Pano, Professional Mode, Portrait Mode, Bokeh, HDR, AI Scene Recognition, AI Beauty, Filters, Tilt-Shift, Text Scanner, Portrait Distortion Correction, One Take, Super Group Portrait

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45, 25mm (wide)

พร้อมโหมด Portrait Mode, Pano, AI Beauty Mode, Face Recognition, Filters, Super Nightscape, AI Scene Recognition
รองรับระบบ Dual Slot  แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม
GSM: 850/900/1800MHz
WCDMA: Bands 1/5/8
LTE FDD: Bands 1/3/5/7/8/28A
LTE TDD: Bands 40/41
5G NR: n1/n3/n5/n8/n28A/n40/n41/n77/n78
แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC Charge
สี Sunrise Beige และ Astral Black
ราคา RAM 8GB+256GB ราคา 12,999 บาท

 

 

สเปกเบื้องต้น realme 11 Pro+ 5G

ขนาด 161.6 x 73.9 x 8.7 มม.

น้ำหนัก 189 กรัม
หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display แบบ OLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล 1.7 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65%  โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz, ความถี่การลดแสง 2160Hz PWM, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+, กระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.65 มม. และขอบล่างบาง 2.33 มม.
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ทMediaTek Dimensity 7050 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G6
RAM 8GB/12GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB/512GB
microSD Card
ระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 based on Android 13
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, hotspot
Bluetooth 5.2, A2DP, LE, aptX HD
GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS, NavIC
NFC
พอร์ต USB Type-C 2.0, USB On-The-Go
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom Camera, เลนส์ 7P, รูรับแสง f/1.69, 22.9mm (wide), 1/1.4″, 0.56µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

พร้อมโหมด 200MP Mode, Auto-zoom, Street Photography Mode, Moon Mode, Starry Mode Pro, Super NightScape, Pano, Professional Mode, Portrait Mode, HDR, AI Scene Recognition, AI Beauty, Filters, Text Scanner, Portrait Distortion Correction, One Take, Super Group Portrait

กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Sony Selfie Camera รูรับแสง f/2.45
รองรับระบบ Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม
GSM: 850/900/1800MHz
WCDMA: Bands 1/5/8
LTE FDD: Bands 1/3/5/8/28A
LTE TDD:Bands 40/41
5G NR: n1/n3/n5/n8/n28A/n40/n41/n77/n78
แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC Charge
สี Sunrise Beige และ Oasis Green 
ราคา RAM 12GB+512GB ราคา 16,999 บาท

 

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

 


กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 11 Pro 5G และ realme 11 Pro+ 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งมาโดยมาในโทนสีเหลืองพร้อมลายเส้นตัดขอบสีดำด้านล่าง ด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน โดยมุมขวาด้านบนมีข้อความระบุว่ารองรับ 5G ส่วนมุมซ้ายติดสติ๊กเกอร์ระบุว่าเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรป และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme ขณะที่ด้านขวาข้างกล่องก็มีขื่อรุ่นระบุไว้ด้วย

ด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกัน เริ่มจาก realme 11 Pro 5G หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Dimensity 7050 5G, กล้องความละเอียด 100 ล้านพิกเซล OIS ProLight Camera และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 67W

ส่วน realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมกล้องความละเอียด 200 ล้านพิกเซล OIS SuperZoom Camera, แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 100W, หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Dimensity 7050 5G

 

ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

 

 

 

 

  • ตัวเครื่อง realme 11 Pro 5G, realme 11 Pro+ 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC (realme 11 Pro 5G) และ 100W SuperVOOC (realme 11 Pro+ 5G)
  • สายดาต้าลิงค์แบบ USC Type-C
  • เคสพลาสติกใส
  • คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน

อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 11 Pro 5G

อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 100W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 11 Pro+ 5G

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

 

 

 

 


realme 11 Pro Series 5G 
ทั้ง 2 รุ่นมาในดีไซน์ฝาหลังด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม พร้อมพื้นผิวที่หรูหรา โดยทาง realme Studio ได้ร่วมกับ Matteo Menotto (อดีตนักออกแบบลายพิมพ์และสิ่งทอของ GUCCI) ได้นำการออกแบบ และงานฝีมือระดับไฮเอนด์ของแบรนด์หรูชั้นนำมาสู่คนรุ่นใหม่

Matteo Menotto ได้สร้างสรรค์งานพิมพ์ ที่ผสมผสานความสวยงามของแฟชั่นที่หลากหลายใน
เมืองเข้ากับการออกแบบภายนอกของ realme 11 Pro Series 5G โดยมีให้เลือก 3 สีคือ Sunrise Beige, Oasis Green และ Astral Black

ซึ่งสี Sunrise Beige ได้รับแรงบันดาลใจจากถนนในกรุงมิลานยามพระอาทิตย์ขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น อาคารบนสองฝั่งถนนที่ทอดยาวจึงถูกปลกคุมด้วยแสงสีเหลืองอ่อน นำมาสู่ความงดงามของฝาหลังของ realme 11 Pro Series 5G

ฝาหลังของ realme 11 Pro Series 5G หุ้มด้วย Premium Lychee Vegan Leather ให้สัมผัสเหมือนหนัง ป้องกันรอยเปื้อน และความทนทาน ออกแบบด้วยการเย็บแบบ 3 มิติทำมือ แสดงโครงร่าง 3 มิติและเอฟเฟ็กต์ที่สมจริงมากขึ้น พร้อมด้วยสิ่งทอ 3D Woven Texture ของเสื้อผ้าแฟชั่น แสดงให้เห็นถึงสีสันที่สวยงาม ประณีต และทันสมัย

ด้านหน้าของ realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับหน้าจอโค้งระดับเรือธง 2160Hz พร้อมความถี่การลดแสงสูงสุดในอุตสาหกรรม และนำเสนอหน้าจอโค้งระดับเรือธงที่คุ้มค่ากว่าในช่วงราคาเดียวกัน โดยเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ OLED 1.7 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 2412 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65%

พร้อมอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz, ความถี่การลดแสง 2160Hz PWM, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+, กระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.65 มม. และขอบล่างบาง 2.33 มม.

ด้วยหน้าจอที่ลดแสงความถี่สูงพิเศษ 2160Hz PWM เมื่อเทียบกับความถี่ 480Hz แบบเดิม ความถี่ในการหรี่แสงจะเพิ่มขึ้น 4.5 เท่า ซึ่งสามารถรักษาความถูกต้องของสีในที่มืดและแก้ปัญหา การสั่นไหวภายใต้ความสว่างต่ำได้ โดยปกติแล้วยิ่งความถี่ PWM สูงเท่าไหร่ ดวงตาของมนุษย์ก็จะรู้สึกถึงการสั่นไหวได้ยากขึ้นและรู้สึกเหนื่อยล้าน้อยลง

ดังนั้น เมื่อความสว่างของหน้าจอลดลงเหลือ 90nits หรือต่ำกว่า โหมดลดแสง DC ดั้งเดิมจะเปลี่ยนเป็นโหมดลดแสง PWM UHF โดยยังคงแสดงสีที่แม่นยำ ในขณะเดียวกันก็มอบประสบการณ์การมองที่สบายตาให้กับผู้ใช้ ซึ่งเป็นมิตรกับผู้ใช้งานบางคนที่ชอบปิดไฟก่อนเข้านอน

หน้าจอแสดงผลของ realme 11 Pro Series 5G ยังสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติ 20,000 ระดับแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งจะขยายระดับแสงพื้นหลังดั้งเดิมของหน้าจอให้เหมาะสม รวมทั้งมี AI ปรับความสว่าง โดยการปรับแสงพื้นหลังส่วนบุคคลได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาผู้ใช้งานที่ใช้งานภายใต้ความสว่างต่ำ และมีการเรียนรู้นิสัยของผู้ใช้งาน เพื่อปรับสมาร์ตโฟนให้เหมาะกับผู้ใช้งาน

รวมทั้งผ่านการรับรองการป้องกันดวงตาสองชั้นโดย TÜV Rheinland ทำให้ realme 11 Pro Series 5G สามารถลดความเมื่อยล้าทางสายตาของผู้ใช้จากการกะพริบของหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสบายตาในการใช้งาน ด้วยการรับรองการป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้าต่ า จึงสามารถดูแลดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยอัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz ทำให้มีความเร็วในการตอบสนองไวกว่า เพื่อคว้าโอกาสและนำหน้าคู่แข่งหนึ่งก้าวในเกม รวมถึงมีความละเอียดในการสัมผัส 16 เท่า ซึ่งเป็นความละเอียดการสัมผัสสูงสุดในอุตสาหกรรม สามารถตรวจจับตำแหน่งนิ้วของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ได้การถ่ายภาพที่มั่นคงและ
แม่นยำ

นอกจากนี้ยังอัปเกรดอัลกอริทึม X-touch anti-mistouch 2.0 ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ anti-mistouch ได้ 20% จากรุ่นก่อนหน้า และสามารถจดจำเทคนิคการจับได้ถึง 11 ชนิด

ด้วยกระบวนการบรรจุภัณฑ์ COP Ultra รุ่นเรือธง ซึ่งอิงตามการปรับให้เหมาะสมของกระบวนการ COP แบบดั้งเดิม ทำให้ส่วนโค้งของ realme 11 Pro Series 5G แคบลงเหลือ 2.33 มม. และด้วยความโค้งที่มีความแม่นยำแบบกำหนดเอง 61° มอบเอฟเฟกต์ภาพแบบไร้ขอบ มอบประสบการณ์การยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมตลอดจนการป้องกันการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ การบิดเบือน และอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ

และหน้าจอกระจกนิรภัยที่หนา 0.65 มม. ทำให้มีความสามารถในการป้องกันการตกหล่นได้ผ่านการทดสอบการตกจากที่สูง 1 เมตร

ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.45 (realme 11 Pro 5G) และความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Sony Selfie Camera รูรับแสง f/2.45 (realme 11 Pro+ 5G)

พลิกมาด้านหลังเครื่อง realme 11 Pro 5G ตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์คู่ Dual Camera เรียงในแนวนอน พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 100MP OIS CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมขนาดใหญ่ ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมาเป็นพื้นผิวถักทอแบบ 3D และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme

ส่วนด้านหลังเครื่อง realme 11 Pro+ 5G ตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว Triple Camera เรียงในแนวนอนพร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 200MP OIS CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมขนาดใหญ่ ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมาเป็นพื้นผิวถักทอแบบ 3D และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme

โดยกล้องหลังเลนส์คู่ Dual Camera ของ realme 11 Pro 5G ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 100 ล้านพิกเซล OIS Prolight Camera, เลนส์ 6P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ขณะที่กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ของ realme 11 Pro+ 5G ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom Camera, เลนส์ 7P, รูรับแสง f/1.69, 22.9mm (wide), 1/1.4″, 0.56µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ด้านซ้ายข้างเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ

ด้านขวาข้างเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง กับช่องลำโพงเสียง

ด้านท้ายเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่น จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกมาให้

อ่านต่อ… คลิ๊กที่นี่ >>> Pages 2

realme Number Series เป็นหนึ่งในไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกของ realme ที่มียอดจัดส่งถึง 50 ล้านครั้งในอุปกรณ์ Android และถือเป็นตัวแปรหลักที่ส่งผลให้ realme บรรลุเป้าหมายในการขาย 100 ล้านเครื่องในระยะเวลาอันสั้น ล่าสุดเดินทางมาถึงเจน 11 กับ “realme 11 Pro Series 5G”

สำหรับ realme 11 Pro Series 5G ประกอบด้วย realme 11 Pro+ 5G และ realme 11 Pro 5G ซึ่งรุ่น realme 11 Pro+ 5G ก็เตรียมสร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการอีกครั้ง ด้วยการจับมือร่วมกับ Samsung พัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพสู่ Samsung ISOCELL HP3 ชูนวัตกรรมกล้อง SuperZoom 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลกที่มอบพลังการซูมสูงสุดในเซกเมนต์ที่ 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด 

อยากดูกันแล้วใช่ไหมว่า realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นจะมีดีไซน์พรีเมี่ยม รวมถึงกล้องจะถ่ายออกมาสวยงามแค่ไหน และมีฟีเจอร์เด่นๆ อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ไปติดตามรีวิวเต็มกันได้เลยครับ

 

 

สเปกเบื้องต้น realme 11 Pro 5G

ขนาด สี Sunrise Beige: 161.6 x 73.9 x 8.7 มม.
สี Astral Black: 163.7 x 74.2 x 8.2 มม.
น้ำหนัก สี Sunrise Beige: 191 กรัม
สี Astral Black: 185 กรัม
หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display แบบ OLED 1.07 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65%  โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz, ความถี่การลดแสง 2160Hz PWM, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+, กระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.65 มม. และขอบล่างบาง 2.33 มม.
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 7050 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68
RAM 8GB/12GB รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 8GB 
หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB/512GB
microSD Card
ระบบปฏิบัติการ realmu UI 4.0 based on Android 13
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band
Bluetooth 5.2, A2DP, LE, aptX HD
GPS, GALILEO, GLONASS, BDS, QZSS
NFC
พอร์ต USB Type-C 2.0
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหลักความละเอียด 100 ล้านพิกเซล OIS Prolight Camera, เลนส์ 6P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

พร้อมโหมด 100MP Mode, Auto-zoom, Street Photography Mode, Super NightScape, Pano, Professional Mode, Portrait Mode, Bokeh, HDR, AI Scene Recognition, AI Beauty, Filters, Tilt-Shift, Text Scanner, Portrait Distortion Correction, One Take, Super Group Portrait

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45, 25mm (wide)

พร้อมโหมด Portrait Mode, Pano, AI Beauty Mode, Face Recognition, Filters, Super Nightscape, AI Scene Recognition
รองรับระบบ Dual Slot  แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม
GSM: 850/900/1800MHz
WCDMA: Bands 1/5/8
LTE FDD: Bands 1/3/5/7/8/28A
LTE TDD: Bands 40/41
5G NR: n1/n3/n5/n8/n28A/n40/n41/n77/n78
แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC Charge
สี Sunrise Beige และ Astral Black
ราคา RAM 8GB+256GB ราคา 12,999 บาท

 

 

สเปกเบื้องต้น realme 11 Pro+ 5G

ขนาด 161.6 x 73.9 x 8.7 มม.

น้ำหนัก 189 กรัม
หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display แบบ OLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล 1.7 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65%  โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz, ความถี่การลดแสง 2160Hz PWM, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+, กระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.65 มม. และขอบล่างบาง 2.33 มม.
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ทMediaTek Dimensity 7050 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G6
RAM 8GB/12GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB/512GB
microSD Card
ระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 based on Android 13
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, hotspot
Bluetooth 5.2, A2DP, LE, aptX HD
GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS, NavIC
NFC
พอร์ต USB Type-C 2.0, USB On-The-Go
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom Camera, เลนส์ 7P, รูรับแสง f/1.69, 22.9mm (wide), 1/1.4″, 0.56µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

พร้อมโหมด 200MP Mode, Auto-zoom, Street Photography Mode, Moon Mode, Starry Mode Pro, Super NightScape, Pano, Professional Mode, Portrait Mode, HDR, AI Scene Recognition, AI Beauty, Filters, Text Scanner, Portrait Distortion Correction, One Take, Super Group Portrait

กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Sony Selfie Camera รูรับแสง f/2.45
รองรับระบบ Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม
GSM: 850/900/1800MHz
WCDMA: Bands 1/5/8
LTE FDD: Bands 1/3/5/8/28A
LTE TDD:Bands 40/41
5G NR: n1/n3/n5/n8/n28A/n40/n41/n77/n78
แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC Charge
สี Sunrise Beige และ Oasis Green 
ราคา RAM 12GB+512GB ราคา 16,999 บาท

 

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

 


กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 11 Pro 5G และ realme 11 Pro+ 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งมาโดยมาในโทนสีเหลืองพร้อมลายเส้นตัดขอบสีดำด้านล่าง ด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน โดยมุมขวาด้านบนมีข้อความระบุว่ารองรับ 5G ส่วนมุมซ้ายติดสติ๊กเกอร์ระบุว่าเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรป และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme ขณะที่ด้านขวาข้างกล่องก็มีขื่อรุ่นระบุไว้ด้วย

ด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกัน เริ่มจาก realme 11 Pro 5G หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Dimensity 7050 5G, กล้องความละเอียด 100 ล้านพิกเซล OIS ProLight Camera และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 67W

ส่วน realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมกล้องความละเอียด 200 ล้านพิกเซล OIS SuperZoom Camera, แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 100W, หน้าจอ 120Hz Curved Vision Display, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Dimensity 7050 5G

 

ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

 

 

 

 

  • ตัวเครื่อง realme 11 Pro 5G, realme 11 Pro+ 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC (realme 11 Pro 5G) และ 100W SuperVOOC (realme 11 Pro+ 5G)
  • สายดาต้าลิงค์แบบ USC Type-C
  • เคสพลาสติกใส
  • คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน

อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 11 Pro 5G

อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 100W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 11 Pro+ 5G

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

 

 

 

 


realme 11 Pro Series 5G 
ทั้ง 2 รุ่นมาในดีไซน์ฝาหลังด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม พร้อมพื้นผิวที่หรูหรา โดยทาง realme Studio ได้ร่วมกับ Matteo Menotto (อดีตนักออกแบบลายพิมพ์และสิ่งทอของ GUCCI) ได้นำการออกแบบ และงานฝีมือระดับไฮเอนด์ของแบรนด์หรูชั้นนำมาสู่คนรุ่นใหม่

Matteo Menotto ได้สร้างสรรค์งานพิมพ์ ที่ผสมผสานความสวยงามของแฟชั่นที่หลากหลายใน
เมืองเข้ากับการออกแบบภายนอกของ realme 11 Pro Series 5G โดยมีให้เลือก 3 สีคือ Sunrise Beige, Oasis Green และ Astral Black

ซึ่งสี Sunrise Beige ได้รับแรงบันดาลใจจากถนนในกรุงมิลานยามพระอาทิตย์ขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น อาคารบนสองฝั่งถนนที่ทอดยาวจึงถูกปลกคุมด้วยแสงสีเหลืองอ่อน นำมาสู่ความงดงามของฝาหลังของ realme 11 Pro Series 5G

ฝาหลังของ realme 11 Pro Series 5G หุ้มด้วย Premium Lychee Vegan Leather ให้สัมผัสเหมือนหนัง ป้องกันรอยเปื้อน และความทนทาน ออกแบบด้วยการเย็บแบบ 3 มิติทำมือ แสดงโครงร่าง 3 มิติและเอฟเฟ็กต์ที่สมจริงมากขึ้น พร้อมด้วยสิ่งทอ 3D Woven Texture ของเสื้อผ้าแฟชั่น แสดงให้เห็นถึงสีสันที่สวยงาม ประณีต และทันสมัย

ด้านหน้าของ realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับหน้าจอโค้งระดับเรือธง 2160Hz พร้อมความถี่การลดแสงสูงสุดในอุตสาหกรรม และนำเสนอหน้าจอโค้งระดับเรือธงที่คุ้มค่ากว่าในช่วงราคาเดียวกัน โดยเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ OLED 1.7 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 2412 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93.65%

พร้อมอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz, ความถี่การลดแสง 2160Hz PWM, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+, กระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.65 มม. และขอบล่างบาง 2.33 มม.

ด้วยหน้าจอที่ลดแสงความถี่สูงพิเศษ 2160Hz PWM เมื่อเทียบกับความถี่ 480Hz แบบเดิม ความถี่ในการหรี่แสงจะเพิ่มขึ้น 4.5 เท่า ซึ่งสามารถรักษาความถูกต้องของสีในที่มืดและแก้ปัญหา การสั่นไหวภายใต้ความสว่างต่ำได้ โดยปกติแล้วยิ่งความถี่ PWM สูงเท่าไหร่ ดวงตาของมนุษย์ก็จะรู้สึกถึงการสั่นไหวได้ยากขึ้นและรู้สึกเหนื่อยล้าน้อยลง

ดังนั้น เมื่อความสว่างของหน้าจอลดลงเหลือ 90nits หรือต่ำกว่า โหมดลดแสง DC ดั้งเดิมจะเปลี่ยนเป็นโหมดลดแสง PWM UHF โดยยังคงแสดงสีที่แม่นยำ ในขณะเดียวกันก็มอบประสบการณ์การมองที่สบายตาให้กับผู้ใช้ ซึ่งเป็นมิตรกับผู้ใช้งานบางคนที่ชอบปิดไฟก่อนเข้านอน

หน้าจอแสดงผลของ realme 11 Pro Series 5G ยังสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติ 20,000 ระดับแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งจะขยายระดับแสงพื้นหลังดั้งเดิมของหน้าจอให้เหมาะสม รวมทั้งมี AI ปรับความสว่าง โดยการปรับแสงพื้นหลังส่วนบุคคลได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาผู้ใช้งานที่ใช้งานภายใต้ความสว่างต่ำ และมีการเรียนรู้นิสัยของผู้ใช้งาน เพื่อปรับสมาร์ตโฟนให้เหมาะกับผู้ใช้งาน

รวมทั้งผ่านการรับรองการป้องกันดวงตาสองชั้นโดย TÜV Rheinland ทำให้ realme 11 Pro Series 5G สามารถลดความเมื่อยล้าทางสายตาของผู้ใช้จากการกะพริบของหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสบายตาในการใช้งาน ด้วยการรับรองการป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้าต่ า จึงสามารถดูแลดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยอัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 1260Hz ทำให้มีความเร็วในการตอบสนองไวกว่า เพื่อคว้าโอกาสและนำหน้าคู่แข่งหนึ่งก้าวในเกม รวมถึงมีความละเอียดในการสัมผัส 16 เท่า ซึ่งเป็นความละเอียดการสัมผัสสูงสุดในอุตสาหกรรม สามารถตรวจจับตำแหน่งนิ้วของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ได้การถ่ายภาพที่มั่นคงและ
แม่นยำ

นอกจากนี้ยังอัปเกรดอัลกอริทึม X-touch anti-mistouch 2.0 ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ anti-mistouch ได้ 20% จากรุ่นก่อนหน้า และสามารถจดจำเทคนิคการจับได้ถึง 11 ชนิด

ด้วยกระบวนการบรรจุภัณฑ์ COP Ultra รุ่นเรือธง ซึ่งอิงตามการปรับให้เหมาะสมของกระบวนการ COP แบบดั้งเดิม ทำให้ส่วนโค้งของ realme 11 Pro Series 5G แคบลงเหลือ 2.33 มม. และด้วยความโค้งที่มีความแม่นยำแบบกำหนดเอง 61° มอบเอฟเฟกต์ภาพแบบไร้ขอบ มอบประสบการณ์การยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมตลอดจนการป้องกันการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ การบิดเบือน และอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ

และหน้าจอกระจกนิรภัยที่หนา 0.65 มม. ทำให้มีความสามารถในการป้องกันการตกหล่นได้ผ่านการทดสอบการตกจากที่สูง 1 เมตร

ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.45 (realme 11 Pro 5G) และความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Sony Selfie Camera รูรับแสง f/2.45 (realme 11 Pro+ 5G)

พลิกมาด้านหลังเครื่อง realme 11 Pro 5G ตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์คู่ Dual Camera เรียงในแนวนอน พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 100MP OIS CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมขนาดใหญ่ ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมาเป็นพื้นผิวถักทอแบบ 3D และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme

ส่วนด้านหลังเครื่อง realme 11 Pro+ 5G ตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว Triple Camera เรียงในแนวนอนพร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 200MP OIS CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมขนาดใหญ่ ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมาเป็นพื้นผิวถักทอแบบ 3D และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ realme

โดยกล้องหลังเลนส์คู่ Dual Camera ของ realme 11 Pro 5G ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 100 ล้านพิกเซล OIS Prolight Camera, เลนส์ 6P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ขณะที่กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ของ realme 11 Pro+ 5G ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom Camera, เลนส์ 7P, รูรับแสง f/1.69, 22.9mm (wide), 1/1.4″, 0.56µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ด้านซ้ายข้างเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ

ด้านขวาข้างเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง กับช่องลำโพงเสียง

ด้านท้ายเครื่อง realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่น จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกมาให้

อ่านต่อ… คลิ๊กที่นี่ >>> Pages 2

Facebook Comments

Related Posts