หากเคยประทับใจกับ Huawei P20 มาก่อน เชื่อว่าผู้ที่ได้สัมผัสกับ P30 Pro จะยิ่งประทับใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะรอบนี้ Huawei ได้ยกระดับพัฒนาการสมาร์ทโฟนซีรีย์ P ขึ้นไปอีกขั้น ทั้งเรื่องดีไซน์ นวัตกรรมและฟีเจอร์ที่จัดเต็ม รวมถึงกล้องถ่ายรูปที่ต้องบอกเลยว่าครบเครื่องสุด ๆ กับกล้อง 4 เลนส์ ที่พร้อมเติมเต็มให้คนรักการถ่ายรูปได้ตกหลุมรักกับความสามารถในการถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยม จนได้รับคะแนนจาก DxOMark ยกให้เป็นเบอร์ 1 ของโลกในด้านการถ่ายภาพ แน่นอนว่า P30 Pro ไม่ได้มีดีแค่กล้อง ส่วนจะมีสิ่งใดที่น่าสนใจบ้าง มารับชมไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
ขนาด | กว้าง: 73.4 x. สูง: 58.0 x หนา: 8.41 มม. |
น้ำหนัก | 192 กรัม |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ OLED ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340×1080) อัตราส่วนการแสดงผล 19.5:9 รองรับ HDR10, DCI-P3 |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 980 (7nm) ประมวลผล Octa-core (2×2.6GHz Cortex-A76 & 2×1.92GHz Cortex-A76 & 4×1.8GHz Cortex-A55)
หน่วยประมวลผลกราฟิก GPU Mali-G76 MP10 |
RAM | 8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB (มีรุ่น 128GB ) |
หน่วยความจำเสริม | Nano Memory สูงสุด 256GB |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง: Leica Quad 4 เลนส์ 40 เมกะพิกเซล (เลนส์มุมกว้าง, รูรับแสง f/1.6, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว) + 20 เมกะพิกเซล (เลนส์มุมกว้างพิเศษ, รูรับแสง f/2.2) + 8 เมกะพิกเซล (เทเลโฟโต้, รูรับแสง f/3.4, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว) HUAWEI TOF โฟกัสระยะของวัตถุ รองรับการโฟกัสอัตโนมัติ (โฟกัสเฟส, โฟกัสคอนทราสต์) รองรับ AIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวปัญญาประดิษฐ์ของ HUAWEI) ——————————————————- กล้องหน้า:32 เมกะพิกเซล, รูรับแสง f/2.0 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย (EMUI 9.1) |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (คลื่น 2), 2.4 GHz และ 5 GHz บลูทูธ 5.0, BLE, SBC, AAC, aptX, aptX HD, LDAC และออดิโอ HWA GPS (แบนด์คู่ L1 + L5) / AGPS / Glonass / BeiDou / Galileo (แบนด์คู่ E1 + E5a) / QZSS (แบนด์คู่ L1 + L5) NFC, Infrared port Type-C,USB 3.1 GEN1* |
รองรับระบบ | รองรับการทำงาน Dual-SIM (Nano-SIM)
ซิมการ์ดหลัก: ซิมการ์ดรอง: ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 4200mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 40W , ระบบชาร์จไร้สาย 15W และฟีเจอร์ Reverse wireless charging |
สี/ราคาวางจำหน่าย | สีที่วางจำหน่ายในไทย Black, Aurora, Blue Crystal และ Amber Sunrise
ราคาเปิดตัว 31,990 บาท |
PACKAGING & ACCESSORIES
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ/ใบรับประกัน
- เคสซิลโคนแบบใส (Soft Case)
- ชุดหูฟัง สมอลทอร์ค (USB-C)
- เข็มจิ้มเปิดถาดซิม
- สายชาร์จ USB-C และอแดปเตอร์ชาร์จไฟ รองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็ว (Super Charge 40W)
DESIGN & HARDWARE
ดีไซน์ของ P30 Pro ได้พัฒนาต่อยอดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Iconic Visionary Design” ที่ผสานวิสัยทัศน์อันโดดเด่นเข้ากับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว ซึ่งรอบนี้มีการปรับโฉมจาก P20 Pro ในหลาย ๆ ด้าน เช่นการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอโค้งทั้งด้านหน้าและหลัง ซึ่งช่วยให้จับถือถนัดกระชับมือยิ่งขึ้น รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-screen FingerPrint) และ Notch ที่เป็นแบบ Dewdrop Display ส่งผลให้มีพื้นที่จอแสดงผลเพิ่มขึ้น
สำหรับสีที่วางจำหน่ายในไทยประกอบด้วย Black, Aurora กับ Breathing Crystal และ Amber Sunrise ที่จะตามมาในภายหลัง
การออกแบบตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุกระจกโค้งแบบ 3D ทั้งด้านหน้าและหลัง ผสานด้วยขอบเฟรม aluminum รองรับฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IP68 มีมิติตัวเครื่อง กว้าง: 73.4 x. สูง: 58.0 x หนา: 8.41 มม. และน้ำหนักโดยรวมที่ 189.5 กรัม
Huawei P30 Pro มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Dewdrop Display ชนิด OLED ขนาด ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FullHD+) อัตราส่วน 19.5:9 รองรับ Color Gamut DCI-P3 (ขอบเขตสี) และ HDR10 นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-screen FingerPrint) รุ่นล่าสุด ที่ปลดล็อครวดเร็วทันใจ
สำหรับคุณภาพหน้าจอของ Huawei P30 Pro นั้นยอดเยี่ยมสมกับเป็นสมาาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ทั้งความคมชัดใสเคลียร์ มีมุมมองกว้าง และ Respond การตอบสนองที่ฉับไว
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิเซล มีค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 จัดวางอยู่ในเลย์เอาท์ของ Notch รูปหยดน้ำ สำหรับลำโพงสนทนาจะเป็นแบบ ” Huawei Acoustic Display Technology” ที่ใช้การสั่นสะเทือนบนหน้าจอแสดงผลเพื่อส่งคลื่นเสียง ทำให้ P30 Pro ไม่มีช่องลำโพงสนทนา และช่วยเพิ่มพื้นที่ของหน้าจอแสดงผลได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำรวจ Hardware ภายนอกของ Huawei P30 Pro กันต่อ
ด้านบนของตัวเครื่องออกแบบดีไซน์ด้วยการตัดขอบเรียบแบน พร้อมวางเส้นเสาอากาศไว้ทั้งสองฝั่ง ตรงกลางจะเป็นที่อยู่ของไมค์ตัดเสียงรบกวนและ IR Bluster หรืออินฟาเรตพอร์ตที่สามารถใช้งานควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับอินฟาเรตนั่นเอง
ด้านล่างประกอบไปด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด, ไมค์สนทนา พอร์ต USB-C ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และเส้นเสาอากาศคู่เหมือนด้านบน
รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano-SIM) ตัวถาดซิมเป็นแบบ Hybrid Slot เลือกใช้งานแบบ 2 ซิม หรือ 1 ซิม + Nano Memory ที่รองรับได้สูงสุด 256GB
ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์ที่เสริมด้วยสีแดงดูโดดเด่นสะดุดตา
กล้องจัดเต็มเหมือนเช่นเคย โดยรอบนี้มีพัฒนาการที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นด้วยคุณสมบัติทั้งทางด้าน Hardware และฟีเจอร์ โดย P30 Pro ได้เปลี่ยนมาใช้เซ็นเซอร์แบบ RYYB SuperSpectrum (แดงเหลืองเหลืองน้ำเงิน) ส่งผลให้รับแสงพร้อมถ่ายทอดสีสันได้เป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิมถึง 40%
สำหรับกล้อง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วย
ไล่จากด้านบนลงมาคือเลนส์มุมกว้างสุด (Ultra-Wide Lens) ที่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 ถัดลงมาเลนส์ตัวที่สองความละเอียด 40 เมกะพิกเซล (Wide Lens เลนส์มุมกว้าง, รูรับแสงกว้าง f/1.6, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว) เลนส์ตัวที่ 3 ความละเอียด 8 เมกะพิกเซล (เลนส์ซูม เทเลโฟโต้, รูรับแสงกว้าง f/3.4, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว) และสุดท้าย เลนส์ TOF ช่วยในการโฟกัสระยะของวัตถุจะอยู่ถัดลงมาจากไฟแฟลช
เปรียบเทียบขนาดกับ P20 Pro
SOFTWARE & FEATURE
Huawei P30 Pro เปิดตัวมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งหลาย ๆ คน8’จะคุ้นเคยกับ UI ของค่าย Huawei กันมาบ้างแล้ว ซึ่งในปัจจุบัน EMUI มีการปรัะบดีไซน์ให้ดูโมเดิร์น เน้นประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายแค่แฝงไว้ด้วยความสะดวกคล่องตัว สำหรับฟีเจอร์ยอดนิยมก็จัดมาให้อย่างครบถ้วน เช่น Dual app screen การใช้งานแอปพลิเคชั่นพร้อม ๆ กัน 2 แอปฯ ในหนึ่งหน้าต่าง และแอปฯ โคลนที่สามารถใช้งานแอปโซเชี่ยลมีเดียยอดนิยมได้ 2 บัญชีในหนึ่งเครื่องเป็นต้น
ระบบรักษาความปลอดภัย จัดมาให้อย่างครบถ้วนทั้งระบบสแกนใบหน้าและเซ็นเซอร์ลายบนิ้วมือ ซึ่งใน P30 Pro ได้เปลี่ยนมาใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-screen FingerPrint) รุ่นล่าสุด ที่ปลดล็อครวดเร็วทันใจขึ้นกว่าเดิมถึง 30%
Huawei P30 Pro โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลที่รองรับ HDR10, และ DCI-P3 เมื่อผสานเข้ากับตัว Software ที่สามารถปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น เช่นโหมดสี & อุณหภูมิ, โหมดสบายตาที่ช่วยปกป้องสายตาจากแสงสีฟ้า และการปรับความละเอียดหน้าจอแบบอัจฉริยะที่ช่วยเสริมในด้านการประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย
Easy Projection หรือในชื่อเดิมคือ PC Mode เป็นฟีเจอร์ที่สามารถนำการแสดงผลจากมือไปยังสมาร์ททีวี หรือจอมอนิเตจอร์ โดยเลือกได้ 2 รูปแบบ คือฉายภาพไปแสดงผลแบบตรง ๆ และแสดงผลในรูปแบบของ PC ที่เสมือนเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับการพิมพ์งานหรือใช้ด้านอินเตอร์เน็ต ซึ่งฟีเจอร์ Easy Projection รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายและผ่านทางพอร์ต Type-C to HDMI
ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เราสามารถใช้ P30 Pro เป็นรีโมทคอลโทรลอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับการสั่งงานด้วยอินฟราเรดพอร์ต
AppAssistant ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังมาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกในด้านการแจ้งเตือนอีกด้วย เช่นการปฏิเสธสาย/การรับสายในแบบเบื้องหลัง / การบล็อคการแจ้งเตือน / สามารถ เพื่อให้การเล่นเกมบน P30 Pro มีความราบลื่นต่อเนื่อง โดยไม่มีอาการสะดุดติดขัดมารบกวนใจในขณะเล่นเกม
ฟีเจอร์การใช้งาน “ความช่วยเหลือแบบอัจฉริยะ” จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เช่น HiTouch เมื่อใช้สองนิ้วกดค้างที่ภาพ ก็จะแสดงรายละเอียดและสามารถเข้าถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องได้อย่างสะดวกรวดเร็ว, ฟีเจอร์การใช้ข้อนิ้วในการจับภาพหน้าจอ / แบ่งหน้าจอเป็นต้น
ฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรของ Huawei P30 Pro มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูงบนคลื่น 4G มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย
การจัดสรรพลังงานของ Huawei P30 Pro ทำได้ค่อนข้างดี ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4200mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 40W และระบบชาร์จไร้สาย 15W ใช้งานได้ยาวนาน รองรับการชาร์จไว รวมถึงฟีเจอร์ Reverse wireless charging อันโดดเด่น ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นแท่นชาร์จแบบไร้สายให้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi
BENCHMARKS & PERFORMANCE
เรื่องความแรงไม่ต้องห่วง ด้วยสเปคระดับเรือธง และชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Kirin 980 ซึ่งเมื่อเทียบกับ P20 Pro แล้วมีประสิทธิภาพทีดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น CPU ที่ดีขึ้น 75%, GPU แรงขึ้นกว่าเดิม 46% และ NPU รวมถึงการประมวลผลของ AI ก็มีความไวขึ้นถึง 226% เลยทีเดียว สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาครบถ้วนตามที่สมาร์ทโฟนระแฟลกชิปควรจะมี ในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ด้วย GPS แบบแบนด์คู่ L1 + L5 ทำให้รับสัญญาณในมุมอับได้ดีขึ้น รวมถึงความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
MULTIMEDIA & ENTERTAIN
Music Player บน Huawei P30 Pro มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน และให้สุ่มเสียงที่น่าประทับใจ มี Dolby Atmos sound ที่ช่วยอรรถรสในการฟังเพลงขึ้นไปอีกระดับ ในด้านการฟังเพลงแบบไร้สาย P30 Pro มาพร้อมกับ Bluetooth 5.0, และรองรับ A2DP, aptX HD, LE
VDO Player บน Huawei P30 Pro รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียด 4K ได้อย่างไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ลองทดสอบเกมฮิต ๆ ในช่วงนี้ดูบ้าง
ด้วยสเปคระดับเรือธง ทำให้สามารถเล่นเกมที่ต้องการการประมวลผลหนัก ๆ ได้สบายหายห่วง สามารถเลือกการแสดงผลความละเอียดสูงรวมไปถึงรองรับการเล่นเกมที่เฟรมเรตสูงได้อย่างไม่มีปัญหา
ส่วนเรื่องความลื่นไหลนั้นห่ายห่วง ในภาพรวมไม่มีอาการหน่วงสะดุดติดขัดให้หัวร้อนแต่อย่างใด ทั้ง PUBG และ asphalt 9 ส่วน ROV ลากเฟรมเรทสูง ๆ แบบยาว ๆ ไม่ว่าจะช่วงเดินเล่นชิล ๆ หรือยกพวกตะลุมบอนหมู่
สรุป Huawei P30 Pro จัดเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นในตลาด ที่สามารถตอบโจทย์คอเกมได้เป็นอย่างดีทั้งเรื่องของสเปคโดยรวม ความลื่นไหลและหน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่และให้คุณภาพที่ดีมาก ๆ
CAMERA & SAMPLE
นอกจากจัดเต็มด้วยคุณสมบัติทางด้าน Hardware ของตัวชิ้นเลนส์แล้ว ในฝั่งของ Software ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งความชาญฉลาดของ AI และฟีเจอร์ที่หาไม่ได้ในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ เช่นสามารถดัน iso ไปได้สูงกว่าสี่แสน เหนือกว่ากล้อง DSLR บางรุ่นด้วยซ้ำไป รวมถึงโหมด portrait ที่ยกระดับขึ้นมาจาก P20 Pro แบบสัมผัสได้ ในส่วนของโหมดการถ่ายก็ให้มาอย่างครบครัน เช่นโหมด ซูเปอร์มาโคร, Night Mode และ Digital Zoom ที่ซูมได้ถึงระยะ 50X เรียกว่าพก P30 Pro เครื่องเดียวเที่ยวได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องแบกกล้องแบกเลนส์ให้เหนื่อยแต่อย่างใด
ทดสอบกล้องหน้า
โหมด Auto แบบไม่เปิด AI
เปิด AI
โหมด portrait พร้อมเปิดใช้เอฟเฟตโบเก้ที่ละลายฉากหลังได้ 8 รูปแบบ
โหมดบิวตี้สามารถปรับแต่งให้ผิวเรียบเนียน ใบหน้าเรียว รวมถึงสกินโทนที่มีให้เลือกใช้ถึง 8 แบบ
กล้องหลัง
โหมด portrait พร้อมเปิดใช้เอฟเฟตโบเก้ที่ละลายฉากหลังได้ 8 รูปแบบ
ในโหมด portrait ของกล้องหลังมีความพิเศษตรงที่สามารถเลือกได้ 3 ระยะ ตั้งแต่ 1x, 2x และ 3x ซึ่งประโยชน์จากการปรับระยะได้ ทำให้เลือกถ่ายแบบครึ่งตัวหรือเต็มตัวได้อย่างวสะดวกรวดเร็วนั่นเอง
ระยะปรกติ (1x)
เปิดใช้เลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultra-Wide Lens)
ทดสอบการซูม
Normal
Optical Zoom 5X
Hybrid Zoom 10X
Digital Zoom 50X
เมื่อเปิดใช้ Digital Zoom 50X สามารถถ่ายดวงจันทร์ได้แบบสบาย ๆ
Normal
โหมดซูเปอร์มาโครเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของกล้องบน P30 Pro โดยสามารถถ่ายใกล้วัตถุได้ถึง 2.5 ซม.
Normal
Night Mode
ในที่แสงงน้อยเมื่อเปิดใช้งาน Night Mode จะให้ภาพที่สว่างไสวและยังคมชัด โดยไม่ต้องพึงพาขาตั้งกล้อง
ในที่แสงน้อยมาก ๆ P30 Pro ยังทำผลงานได้ดี แม้จะใช้แค่โหมด Auto ก็ตาม โดย AI จะทำการดัน iso ขึ้นไปในระดับสูงสุด ทำให้เรายังได้ภาพแม้ในที่แสงน้อยมาก ๆ
เปรียบเทียบกับ iPhone XZ จะเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
จากนี้ไปดูภาพรวม ๆ จากกล้องหลังของ Huawei P30 Pro กันต่อได้เลยครับ
สรุป Huawei P30 Pro
ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นเรื่องกล้องเหมือนเช่นเคย เพียงแต่รอบนี้มีพัฒนาการที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ทั้งการใส่เลนส์มุมกว้างมาให้ใช้งาน พร้อมเลนส์ TOF ที่ช่วยให้การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้เนียนตาเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมพลังการซูมถึง 50 เท่า ส่งผลให้ Huawei P30 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นครบเครื่องเรื่องการถ่ายรูป สามารถพกพาไปท่องเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมใด ๆ ก็มั่นใจได้ว่า สามารถได้รูปสวย ๆ กลับมาอย่างแน่นอน สมแล้วที่ DxOMark ยกให้เป็นเบอร์ 1 ของโลกในด้านการถ่ายภาพ ส่วนสิ่งที่จะติก็คงเป็นเรื่อง AI ที่บางครั้งให้สีที่ผิดเพี้ยนไปบ้าง รวมถึงการถ่ายวีดีโอที่ยังไม่โดดเด่นมากนัก
ในขณะที่การใช้งานในด้านอื่น ๆ ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับ Flagship แน่นอนว่าครบเครื่องจัดเต็ม ทั้งนวัตกรรมและฟีเจอร์ ที่สามารถตอบสนองผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งการใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือด้านความบันเทิง ดูหนังฟังเพลง รวมถึงเล่นเกมได้ลื่นไหล และจัดสรรพลังงานได้ดีมาก โดยส่วนตัวแล้วเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับเรือธงด้วยกัน Huawei P30 Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก อีกทั้งยังทำราคาร่วมกับค่ายโอเปอเรเตอร์ได้เร้าใจสุด ๆ สำหรับคนที่ใช้แพกเกจรายเดือนสูง ๆ อยู่แล้ว สามารถซื้อ P30 Pro ในราคาเริ่มต้นที่ 9,990 บาท จากราคาปกติที่ 31,990 บาท ถือว่าคุ้มมาก ๆ ครับ
สำหรับรีวิว Huawei P30 Pro ก็ขอฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับ