สัมผัส 6 จุดเด่น ที่ชวนให้ตกหลุมรัก realme 3 สมาร์ทโฟนสุดคุ้มของชั่วโมงนี้ !

โดย J.wasan
0 ความเห็น 773 views

รับชมรีวิวกันไปแล้ว วันนี้พามาสัมผัสบทสรุป 6 จุดเด่นของ realme 3 ที่จะชวนให้คุณตกหลุมรัก สมาร์ทโฟนที่ครบครัน ครบเครื่องรอบด้าน ทั้งชิปเซ็ตตัวแรงล่าสุด Mediatek Helio P60 มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู จอแสดงผลใหญ่เต็มตา แบตความจุสูง ใช้งานได้ยาวนานข้ามวัน กล้องหน้า/หลังทำงานผลงานได้เกินราคา ซึ่งเมื่อมองในภาพรวม ๆ แล้วต้องบอกเลยว่า realme 3 จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้มของชั่วโมงนี้อย่างแท้จริง

สำหรับไฮไลท์เด่นที่เป็นจุดขายหลักของ realme 3 จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

1.  ดีไซน์เหนือระดับ ด้วยหน้าจอแสดงผล “Dewdrop screen Dynamic” 

realme 3 มีความโดดเด่นด้วยดีไซน์พรีเมี่ยม แต่เรียบหรูบนบอดี้แบบไล่โทนเฉดสี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ โดยมีถึง 3 โทนเฉดสีให้เลือกใช้งาน ประกอบไปด้วย Dynamic Black, Radiant Blue, Black ที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

ยกตัวอย่างสี Dynamic Black เป็นการไล่โทนสีดำผสานน้ำเงิน เสมือนดาราจักรทางช้างเผือก ซึ่งสะท้อนความงามออกมาด้วยประกายแสงระยิบระยับดุจดังกลุ่มดาวในยามราตรี

Radiant Blue – การผสมผสานระหว่างสีฟ้าและสีเขียวที่ถูกขนานนามว่าเป็นที่สุดแห่งสีสันของชีวิต ให้ผู้ใช้งานสนุกไปกับไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบแบบ NCVM ที่รังสรรค์ให้เกิดเฉดสีที่น่าหลงใหล

Classic Black – สีดำสุดคลาสสิค มีสไตล์ ขรึมเรียบหรู

ในภาพรวมการออกแบบตัวเครื่องมีความโค้งมนในแบบ 3D ที่มีความสมมาตร สอดคล้องกับหลัก Ergonomics แถมมีน้ำหนักเบาเพียง 175 กรัม ส่งผลให้จับถือได้ถนัดกระชับ สามารถสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี

หน้าจอแสดงผลผลแบบหยดน้ำ (Dewdrop screen) ซึ่งมีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.22 นิ้ว แต่อยู่ในบอดี้ที่ไม่ได้ใหญ่ตามไปด้วย เพราะ realme 3 มีอัตราส่วนของหน้าจอแสดงผลต่อบอดี้สูงถึง 88.30% เลยทีเดียว เมื่อผสานกับขอบจอที่บางเฉียบเพียง 2.05mm และการออกแบบให้ลำโพงสนทนาสามารถจัดวางอยู่ในขอบจอได้ จึงส่งผลให้ realme 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบอย่างแท้จริง

หน้าจอแสดงผลของ realme 3 นอกจากมีขนาดใหญ่แล้ว ตัวจอยังมีคุณภาพที่น่าประทับใจ ทั้งเรื่องความคมชัดใสเคลียร์, Respond การตอบสนองที่ฉับไว พร้อมมุมกว้างด้วยพาแนล IPS และการที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา ในอัตราส่วน 19:9 จึงส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง Youtube หรือ Netflix รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยสัมผัสในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ

 

2. ชิปเซ็ตตัวแรง Mediatek Helio P60 ที่มาพร้อมความ “เร็ว แรง ประหยัดพลังงาน” และฉลาดล้ำด้วยแพลตฟอร์ม AI 

Mediatek Helio P60 เป็นชิปเซ็ตตัวใหม่จากค่าย MediaTek ที่ต้องบอกว่าแรงไม่ด้อยไปกว่า Snapdragon 660 จากค่าย Qualcomm แต่อย่างใด โดยจุดเด่นของ Mediatek Helio P60 นั้นถูกพัฒนาบนสถาปัตยกรรม 12nm ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 70% และประหยัดพลังงานได้ดีขึ้นอีก 12% และถือว่าเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ P ที่นำซีพียู Cortex A73 มาใช้งาน พร้อมเสริมความเทพด้วยแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) อีกด้วย

 

การเลือกใช้ชิปเซ็ต Mediatek Helio P60 จึงส่งผลให้ realme 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง สามารถตอบทุกโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือการเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ก็ยังลื่นไหล ด้วยชิปเซ็ตที่โดดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน รวมถึงการเชื่อมต่อใช้งานด้านเน็ตเวิร์คและกล้องถ่ายภาพที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก CPU รุ่นใหม่ที่มาพร้อมความชาญฉลาดจาก AI นั่นเอง 

 

3. แบตความจุสูง ใช้งานได้ยาวนาน โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี AI Power Master ที่ช่วยให้แบตสุดอึดมากยิ่งขึ้น

ในด้านการจัดสรรพลังงาน realme 3 นั้นมาพร้อมความโดดเด่นตั้งแต่ระดับ Hardware ด้วยแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ถึง 4,230mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานต่อเนื่อง เมื่อผสานเข้ากับโหมด AI Power Master และฟีเจอร์ใหม่ Screen Battery Optimiztion ที่สามารถเพิ่มระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับลดความละเอียดหน้าจอลงมาตามความเหมาะสม ทำให้ realme 3 สามารถใช้งานได้ครบวันแบบสบาย ๆ ไม่ต้องร้องหา Power bank กันเลยที่เดียว

ทดสอบด้วยการชาร์จแบตจนเต็ม 100% จากนั้นลองเปิด YouTube และเล่นต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

สรุปใช้พลังงานไปเพียง 5% เท่านั้น ถือว่าจัดสรรพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ ครับ

 

4. ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บน Android P

realme 3 เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 ที่ครอบทับด้วย Color OS 6 เวอร์ชั่นล่าสุด มีการออกแบบ UI ในรูปแบบ Boundless design ที่สวยงาม สะอาดตา อีกทั้งยังปรับตั้งค่ารูปแบบการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่เข้ากับสไตล์ของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว พร้อมรองรับการอัพเกรด Firmware ในอนาคต

สำหรับ Color OS 6 เวอร์ชั่นล่าสุดนอกจากออกแบบ UI ได้สวยงามแล้ว ยังมาพร้อมฟีเจอร์อันอัดแน่น ทั้งด้านการเชื่อมต่อที่รองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับ Dual VoLTE  และฟีเจอร์ยอดนิยมของสมาร์ทโฟนในยุคนี้ ด้วยการแบ่งหน้าต่าง เพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นไปพร้อม ๆ กัน  แถมบน realme 3 ยังสามารถเรียกใช้งานการแบ่งหน้าจอได้ง่าย ๆ เพียงลาก 3 นิ้วจากด้านล่างขึ้นไปยังด้านบนของหน้าจอแสดงผล ก็พร้อมใช้งาน 2 แอปฯ ในหนึ่งหน้าจอได้ในทันที

และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมายที่อัดแน่นอยู่ภายใน realme 3 เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องทั้งด้านประสิทธิภาพ Hardware ที่ผสานเข้ากับ Firmware ได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว

 

5. กล้องจัดเต็ม “เซลฟี่สวย พอร์ทเทรตเด่น” ด้วยขุม Helio P60 และ AI อันชาญฉลาด 

realme 3 มาพร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera กล้องตัวแรกความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงกว้าง f/1.8 ซึ่งช่วยในเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี ส่วนกล้องตัวที่สองมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซลเป็น depth sensor ทำหน้าที่ตรวจจับระยะความลึกเพื่อใช้ในการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอและโบเก้ของภาพให้ออกมาสมจริงเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ตัวกล้องหลังยังมาพร้อม Hardware ในแบบ 5 ชิ้นเลนส์

Software กล้องขับเคลื่อนด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์อันชาญฉลาด โดยมี AI “scene recognition” ที่สามารถวิเคราะห์ พร้อมปรับแต่งภาพถ่ายให้สมบูรณ์ที่สุดไม่ว่าจะเป็นภาพชนิดใดก็ตาม ทั้งอาหาร, ภาพวิว, สัตว์เลี้ยง ฯลฯ โดยเมื่อเรายกกล้องไปยังวัตถุ หรือซับเจคที่อยู่หลังกล้อง ก็จะมีไอคอนแสดงประเภทหรือลักษณะของรูปแบบนั้น ๆ ขึ้นมาตามประเภทซีนที่เรากำลังจะถ่ายนั่นเอง

 

กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3″, ขนาดพิกเซลไซส์ 1.12µm มีโหมด Portrait ที่ละลายฉากหลังได้สวยงาม และ AI บิวตี้ที่สามารถเลือกให้ AI จัดการในแบบอัตโนมัติ หรือเลือกที่จะปรับแต่งในแบบกำหนดเองก็ย่อมได้

UI หรือเมนูกล้องถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่ายดูสะอาดตา ด้านบนจะมีไอคอนทางลัดในการเปิด/ปิดแฟลช และเปิ่าด/ปิดโหมด Chrome Boost , ฟิลเตอร์ และเมนูการตั้งค่าของกล้อง

โหมดการถ่ายภาพหลัก ๆ จะมีด้วยกัน 3 โหมด คือ วีดีโอ (VIDEO) รูปถ่าย (PHOTO) และรูปคน (PORTRAIT) และเมื่อแตะที่ปุ่ม3 ขีดที่ด้านซ้าย จะเข้าสู่เมนูย่อย ประกอบไปด้วยโหมด NIGHTSCAPE,  PANO, EXPERT, TIME-LAPSE, SLO-MO

 

ทดสอบกล้องหน้า realme 3

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto ที่ยังไม่ปรับแต่งใด ๆ ภาพที่ออกมามีสกินโทนและสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา ส่วนเรื่องความคมชัดนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ

เปรียบเทียบในโหมด Auto และ โหมด Portrait

การละลายฉากหลังทำออกมาได้ละมุน มีความเป็นธรรมชาติพร้อมกับเก็บดีเทลในส่วนขอบได้ค่อนข้างดี

ทดสอบในการถ่าย Out-door ไปแล้ว ลองมาดูแบบ In-door สภาพแสงภายในอาคารกันบ้าง ซึ่ง realme 3 นั้นไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะถึงแม้จะเป็นในที่แสงน้อยหรือมีความหลากหลาย แต่ก็ยังให้ที่คมชัดและจัดการไวท์บาลานซ์ได้อย่างน่าประทับใจ

 

โหมด AI บิวตี้สามารถเลือกให้ AI จัดการในแบบอัตโนมัติ หรือเลือกที่จะปรับแต่งในแบบกำหนดเองก็ย่อมได้ เช่นในรูปตัวอย่างทางขวามือ มีการปรับแต่งให้ใบหน้าของน้องนางแบบเรียวและดวงตากลมโตขึ้นมาอีกนิด

 

ทดสอบกล้องหลังกันต่อ ด้วยโหมด Auto และโหมด Portrait ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ น่าประทับใจไม่แพ้กล้องหน้าเลยครับ

Auto mode

Chrome Boost

สำหรับโหมด Chrome Boost เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มคอนทราสต์ ทำให้ภาพมีสีสันที่สดใสขึ้น พร้อมจัดการด้าน ไดนามิค เรนจ์ ช่วยให้ภาพที่ถ่ายออกมาสามารถเก็บดีเทลและมีมิติที่สมจริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 


Auto mode

 


NIGHTSCAPE mode

ส่วน NIGHTSCAPE เป็นโหมดที่ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนหรือในที่แสงน้อย ให้ออกมาสวยงามสว่างสดใส และลดนอยส์โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องเข้ามาช่วยแต่อย่างใด

 

Auto mode

 


NIGHTSCAPE mode

 

Auto mode

NIGHTSCAPE mode

ความแตกต่างระหว่างโหมด Auto และ NIGHTSCAPE mode ให้สังเกตที่ป้ายไฟทางฝั่งซ้ายมือจะมีความคมชัดเห็นรายละเอียดของตัวโครงสร้างเพิ่มขึ้น และแสงไฟจากหน้ารถจะดูไม่ฟุ้งกระจายเมื่อเทียบกับภาพที่ถ่ายจากโหมด Auto

 

สรุป

กล้องหน้า realme 3 ทำผลงานได้น่าประทับ ทั้งเรื่องของการเซลฟี่, โหมด PORTRAIT และโหมดบิวตี้ ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ปรับแต่งภาพถ่ายให้ออกมาสวยสมจริงเป็นธรรมชาติ และได้ผลลัพธ์อันน่าประทับใจในทุก ๆ สถานการณ์ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับชิปเซ็ต Mediatek Helio P60 และ AI อันชาญฉลาด

ส่วนกล้องหลังคู่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งโหมด  PORTRAIT ที่ละลายฉากหลังได้ละมุนละไม ให้ฟิลลิ่งเหมือนใช้กล้องมือโปรถ่ายออกมา นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ “Chrome Boost” ที่ช่วยเพิ่มคอนทราสต์ ทำให้ภาพมีสีสันที่สดใสขึ้น พร้อมจัดการด้านไดนามิค เรนจ์ ช่วยให้ภาพที่ถ่ายออกมาสามารถเก็บดีเทลและมีมิติที่สมจริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ปิดท้ายกันไปด้วย NIGHTSCAPE mode ที่ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนหรือในที่แสงน้อย ให้ออกมาสวยงามสว่างสดใส และลดนอยส์โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องเข้ามาช่วยแต่อย่างใด ต้องบอกเลยว่า realme 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปกกลางคืนได้สวยงามโดดเด่นเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวและคู่แข่งในระดับเดียวกัน

 

6. สเปคต่อราคา และความคุ้มค่าที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ 

มาถึงบทส่งท้ายสำหรับ 6 จุดเด่นที่ชวนให้ตกหลุมรัก realme 3 กันแล้วนะครับ ซึ่งจากจุดเด่นในหัวข้อ 1 -5 ก็คงจะมองเห็นภาพรวมกันแล้วว่า realme 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความคุ้มค่ามาก ๆ ด้วยสเปคจัดเต็มแต่ทำราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย ๆ ซึ่งในราคาปรกติ 5,990 บาท แต่ได้ชิปเซ็ตตัวแรง Mediatek Helio P60 ที่ตอบทุกโจทย์การใช้งาน ทั้งการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม และกล้องหน้า/หลังที่ทำผลงานได้ดีและเหนือกว่าคู่แข่ง เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวที่เคาะออกมา ซึ่งถ้าให้นิยามสั้น ๆ realme 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่ “เครื่องเร็ว แรง เล่นเกมลื่นไหล แบตความจุสูง ใช้งานได้ยาวนานข้ามวัน การเชื่อมต่อครบครัน กล้องหน้าหลังจัดเต็ม ดีไซส์สวยงาม ในราคามิตรภาพ”

 

รายละเอียดการวางจำหน่าย realme 3 

สำหรับ realme 3 รุ่นความจุ 4GB + 64GB สี dynamic black, radiant blue ราคาปกติ 5990 วางจำหน่าย *ผ่านทางดีลเลอร์ (ร้านค้าจัดจำหน่าย) ทั่วประเทศ

 


สำหรับ realme 3 4+64GB สี classic black จะจัดจำหน่ายแบบ exclusive ผ่านทางทรูช้อปเท่านั้น เริ่มต้นที่ราคา 2490 บาท (จากปกติ 5990 บาท)โดยจะต้องสมัครแพคเกจตามกำหนด พร้อมชำระค่าแพคล่วงหน้า (ลูกค้าเก่าใช้งานนานกว่า 18 เดือน ไม่ต้องชำระล่วงหน้า) เริ่มจำหน่าย 29 มีนาคม 2562

 

สี dynamic black กับ radiant blue ขนาด 3+32 GB จำหน่ายผ่านทางลาซาด้าในราคา 4590 บาท

Facebook Comments

Related Posts