Unboxing พรีวิวแกะกล่อง OPPO A53 สมาร์ตโฟนจอ 90Hz พร้อมชิปเซ็ท Snapdragon 460 และชาร์จเร็ว 18W

โดย K.ibelieveit
0 ความเห็น 4.5K views

หลังจากเปิดตัวที่อินเดียไปเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสำหรับ OPPO A53 สมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ในตระกูล A Series ที่ยังคงชูจุดเด่นในด้านสเปคครบ สนุกทุกฟังก์ชัน ภายใต้สโลแกน “เร็วยิ่งขึ้น สนุกยิ่งกว่า”

โดดเด่นด้วยหน้าจอ 90Hz ดีไซน์กล้องหน้าแบบ Neo แบตเตอรี่สุดอึด 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จไว ให้สนุกได้นานขึ้น รวมไปถึง CPU Snapdragon และกล้องหน้าที่เป็นที่สุดของการเซลฟี่

ล่าสุด OPPO A53 กำลังจะเปิดตัวในบ้านเราเร็วๆ นี้ ก่อนจะไปชมรีวิวเต็ม มาขมพรีวิวแกะกล่องกันก่อนนะครับ

 

 

 
 

สเปคเบื้องต้น  OPPO A53

ขนาด 163.9 x 75,1 x 8,4  มิลลิเมตร
น้ำหนัก 186 กรัม
หน้าจอ หน้าจอแสดงผล Neo-Display IPS LCD ความละเอียด HD+ 1600 x 720 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อมอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 120Hz Dual และมีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 89.2%
หน่วยประมวลผล Octa Core ความเร็ว 1.8GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 460 SoC, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610
RAM 4GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 3 ตัว (AI-Powered Triple Camera) พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
– กล้องหลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Color OS 7.2
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB Type-C reversible connector, USB On-The-Go
รองรับระบบ 4G LTE 850/900/1800/2100/2300/2500/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W
ราคา X,XXX บาท

PACKAGING & ACCESSORIES

กล่องแพ็คเกจจิ้งของ OPPO A53 เป็นกล่องกระดาษแข็ง 2 ชั้น โดยชั้นแรกมาพร้อมรูปตัวเครื่องกับชื่อรุ่น โดยมีโลโก้ OPPO อยู่มุมซ้ายด้านบน และขนาดหน่วยความจำ RAM 4GB/64GB อยู่มุมขวา ขณะที่ชั้นที่ 2 เป็นกล่องสีขาว
ด้านหลังกล่องแสดงข้อมูลสเปกเด่น ข้อมูลสินค้า สีเครื่อง เลขอีมี่ หน่วยความจำ และเครือข่ายที่รองรับ

 

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

 
  1. ตัวเครื่อง OPPO A53
  2. อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 18W
  3. สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
  4. เข็มจิ้มสำหรับเปิดถาดซิมการ์ด
  5. เคสซิลิโคนแบบใส
  6. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ / ใบรับประกันสินค้า

รูปลักษณ์ดีไซน์

 

 

ตัวเครื่อง OPPO A53 มาในดีไซน์ขอบโค้งมนแบบ 3 มิติ พร้อมกรอบเคลือบเมทัลลิกสีเงิน ด้วยความบาง 8.4 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 186 กรัม แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh แต่ยังสามารถถือจับใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือเดียว

ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผล Neo-Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 1600 x 720 พิกเซล (269 PPI) ขนาด 6.5 นิ้ว (A-Si) ที่มีขอบหน้าจอแคบลงเหลือเพียง 2.01 มม. ในอัตราส่วน 20:9 และสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 89.2% และเจาะรูสำหรับฝังกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่มุมซ้ายด้านบน
นอกจากนี้ยังมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อมอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 120Hz ที่มอบประสบการณ์การใช้งานเทียบเท่าสมาร์ตโฟนระดับเรือธง รวมถึงรองรับ AI Brightness ระบบปรับแสงอัจฉริยะ ปกป้องดวงตา โดยปรับความสว่างของหน้าจอได้อัตโนมัตติ ตามสภาพแวดล้อม และการใช้งานตามความต้องการ
พลิกมาด้านหลังเครื่องมาในดีไซน์สวยหรู โดยนำเทคนิคการแกะสลักและการเคลือบแบบใหม่มาใช้ทำให้ฝาหลังสะท้อนแสดง และเล่นสีไล่ระดับสายตามากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่โปร่งใสสะท้อนแรงบันดาลใจจากสีและแสง โดยมี 2 สีให้เลือกคือ สีน้ำเงิน Fancy Blue และสีดำ Electric Black ซึ่งสีเป็นที่ทางทีมงานได้มาพรีวิวครับ
โดยมุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว  (AI-Powered Triple Camera) เรียงในแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถัดลงมาตรงกลางมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และมีโลโก้ OPPO อยู่มุมขวาด้านล่าง
 
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่องแบบ microSD Card รองรับสูงสุด 256GB กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่องหรือปุ่มกดใดๆ
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ทั้งนี้ OPPO A53 ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับการต่อยอดจาก OPPO A Series โดยยังคงคอนเซ็ปต์ สเปคแรงสุดในสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็น OPPO A5 2020, OPPO A31 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และได้รับกระแสตอบรับจากผู้ใช้งานอย่างล้นหลาม การันตีจากยอดจำหน่ายที่พุ่งขึ้นสูงเป็นอันดับต้นๆ ติดตามรีวิวฉบับเต็มได้เร็วๆ นี้ครับ
Facebook Comments

Related Posts