รีวิว realme Buds Air หูฟังไร้สาย True Wireless ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นครบ ราคาสุดคุ้ม

เปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีแล้วสำหรับ realme Buds Air หูฟังไร้สาย True Wirelss รุ่นแรกของ realme ที่มาพร้อมสเปก และฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย สมกับสโลแกน ‘ตัวจริงการเชื่อมต่อแบบไร้สาย’ โดยหลังจากที่วางจำหน่าย realme Buds Air สีดำ และสีขาวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด realme Buds Air สีเหลืองที่ทุกคนรอคอย ก็พร้อมให้เป็นเจ้าของกันแล้ว

สเปก realme Buds Air

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• หูฟัง realme Buds Air
• เคสชาร์จแบบไร้สาย
• สายชาร์จแบบ USB Type-C
• คู่มือการใข้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์

realme Buds Air มาพร้อมกับเคสชาร์จแบบไร้สายที่มีตัวหูฟังอยู่ด้านใน โดยตัวเคสมีขนาด 51.3 x 45.3 x 25.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 42.3 กรัม กะทัดรัดพกพาได้สะดวก

รองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C และรองรับการชาร์จแบบไร้สายด้วยเทคโนโลยี Qi Wireless Charging สามารถชาร์จผ่านแท่นชาร์จไร้สายแบบเดียวกับชาร์จกับสมาร์ตโฟนได้เลย

ด้านหน้าเคสมีปุ่มกดสำหรับเข้าโหมดเชื่อมต่อ พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จไฟ

ด้านล่างเป็นพอร์ตแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเคส

ด้านหลังตัวเคสสกรีน “Designed by realme” และวางบนแท่นชาร์จแบบไร้สาย

ส่วนตัวหูฟัง realme Buds Air มาในดีไซน์ของหูฟัง EarBuds แบบ True Wireless โดยหูฟังแยกซ้ายขวาออกจากกัน และมีน้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4.2 กรัมเท่านั้น ซึ่งตัวหูฟังมีดีไซน์โค้งมน สวมใส่ได้อย่างสบาย ทั้งการนั่ง เดิน และวิ่งออกกำลังกาย ไม่เลื่อนหลุดง่ายขณะสวมใส่

คุณสมบัติการใช้งาน

realme Buds Air  ใช้ชิปเซ็ท R1 Headphone มาพร้อมกับไดร์เวอร์ขนาด 12 มม. ที่ให้เสียงเบสแบบไดนามิก Dynamic Bass Boost โดยรองรับการเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth 5.0 พร้อมตัวแปลงสัญญาณ AAC เพื่อประสบการณ์เสียงที่ดียิ่งขึ้น

ซึ่งจุดเด่นหลักของหูฟังคือ Game Mode ที่มีความหน่วงต่ำ low-latency ที่ให้ความมั่นใจในการลดความล่าช้าในการเล่นเกมลง 50% ด้วยชิป R1

นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนคู่เพื่อให้คุณภาพในการโทรที่ดีขึ้น และมีระบบตัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมด้วย จากที่ทดลองใช้งานคู่กับโทรศัพท์ก็ถือว่าทำได้ดี ปลายสายได้ยินเสียงชัดเจน

รวมถึงยังมี Optical Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับที่สวมใส่ซึ่งจะหยุดเสียงโดยอัตโนมัติเมื่อถอดชุดหูฟัง และจะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเคส

realme Buds Air ใช้ระบบสัมผัสที่ตัวหูฟังแทนปุ่มในการควบคุมคำสั่งต่างๆ โดยวิธีสั่งการมีรูปแบบดังนี้

• กดคลิก 2 ครั้ง คือ หยุด/เล่นเพลง หรือรับโทรศัพท์
• กดคลิก 3 ครั้ง คือ ข้ามไปเพลงถัดไป
• กดคลิกค้างไว้ข้างใดข้างหนึ่ง คือ เรียก Google Assistant หรือ วางสายโทรศัพท์
• กดคลิกค้างทั้ง 2 ข้าง คือ การเข้า/ออก Gaming Mode

แบตเตอรี่ของ realme Buds Air สามารถใช้งานต่อครั้งได้ประมาณ 4 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ จะสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุดถึง 17 ชั่วโมง เท่ากับว่าชาร์จเคสแบตเตอรี่เต็ม 100% จะสามารถชาร์จตัวหูฟังได้ประมาณ 4 ครั้ง ถือเป็นหูฟัง True Wireless ที่มีแบตเตอรี่ที่อึดใช้ได้เลยทีเดียว

วิธีเชื่อมต่อ realme Buds Air กับสมาร์ทโฟน ทำได้ 2 วิธี

 

• เชื่อมต่อแบบปกติ ใช้ได้ทั้งสมาร์ตโฟน Android และ iOS เชื่อมต่อโดยการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ตโฟน หลังจากนั้นเปิดฝาเคสชาร์จ และกดค้นหาอุปกรณ์บนสมาร์ตโฟน เมื่อเจออุปกรณ์ realme Buds Air กดเชื่อมต่อ เมื่อสำเร็จก็สามารถใช้งานได้ทันที
• เชื่อมต่อผ่าน Google Fast Pair (สำหรับสมาร์ตโฟน Android เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไป) เชื่อมต่อโดยการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ตโฟน เปิดฝาเคสชาร์จและนำเข้าใกล้สมาร์ตโฟน จะมีหน้าต่าง Pop-up ขอเชื่อมต่ออุปกรณ์เด้งขึ้นมา ให้กด Pair หลังจากนั้นสามารถใช้งานได้ทันที แต่วิธีนี้จากการทดสอบพบว่าจะเชื่อมได้บ้างไม่ได้บ้าง แนะนำว่าเชื่อมต่อแบบปกติน่าจะดีกว่าครับ

บทสรุป

realme Buds Air ถือเป็นหูฟัง True Wireless รุ่นแรกของ realme ที่อัดแน่นด้วยสเปกและฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ดีไซน์ที่สวมใส่สบาย พกพาสะดวก, มีฟีเจอร์ตรวจจับการสวมใส่อัตโนมัติ, ควบคุมการเล่นเพลงด้วยระบบสัมผัสที่ตัวหูฟัง, ไมโครโฟนที่สนทนาได้คมชัด และมี Gaming Mode เอาใจคอเกมเมอร์โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ตัวเคสชาร์จของ realme Buds Air ยังรองรับการชาร์จทั้งแบบผ่านพอร์ต USB Type-C และแบบไร้สาย Wireless Charging เรียกว่าหูฟัง True Wireless ที่มาพร้อมสเปกจัดเต็ม ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 1,999 บาทเท่านั้น โดยมีให้เลือก 3 สีคือ ขาว ดำ และเหลือง