เปิดตัวอย่างต่อเนื่องสำหรับค่าย Vivo โดยล่าสุดส่ง Y50 มาลงตลาดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนครบครัน ครบเครื่องในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ๆ สำหรับ Vivo Y50 ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกของซีรีส์ Y ที่มาพร้อมหน้าจอ Ultra O Screen และกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่มีความหรูหราพรีเมี่ยม และกล้องหน้าหลังที่ถ่ายสวยชัดในทุกระยะ พร้อมขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Octa-core ที่รองรับการทำงานทั่วไปและเล่นเกมได้ดีเยี่ยม แถมยังมีแบตสุดอึดความจุสูงถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะ ดีไซน์สวย แบตอึด กล้องแจ่มแล้ว จะมีทีเด็ดอะไรที่ซ่อนอยู่อีกบ้าง ต้องมาติดตามรับชมรีวิวไปพร้อม ๆ กันครับ
สเปคเบื้องต้น Vivo Y50
ขนาด | 162.04 × 76.46 × 9.11 มม. | |
น้ำหนัก | 197 กรัม | |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ Ultra O Screen ชนิด IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 × 2340 (FHD+) อัตราส่วน 19.5: 9 | |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Qualcomm SM6125 Snapdragon 665 (11 nm) ประมวลผล Octa-core (4×2.0 GHz Kryo 260 Gold & 4×1.8 GHz Kryo 260 Silver) หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 | |
RAM | 8GB | |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB | |
หน่วยความจำเสริม | microSD, up to 256GB | |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง: 4 เลนส์ AI Quad Camera
——————————————————- กล้องหน้า 16 MP, รูรับแสง f/2.0 ——————————————————- โหมดการถ่าย Super night camera, PRO, PDAF, AR Stickers,Palm Capture, Voice Control, SLO-MO, Selfie softlight, Live Photos, HDR, Panorama, Bokeh, Portrait, Bokeh Portrait (front), AI Face Beauty for video calls , Watermark, Video Face Beauty, Portrait light effects, Filters, Ultra Stable Video |
|
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 10 บนพื้นฐานของ Android 10 | |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz บลูทูธ 5.0 support A2DP, LE GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo |
|
รองรับระบบ | รองรับการทำงาน Dual-SIM 2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby
|
|
แบตเตอรี่ | 5,000mAh | |
สี/ราคาวางจำหน่าย | สีที่วางจำหน่ายในไทย Starry Black/Iris Blue ราคาเปิดตัว 7,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งของ Vivo Y50 มาในขนาดกะทัดรัดพร้อมใช้โทนสีขาวสะอาดตา และยังเลือกใช้สไตล์ของซีรีส์ Y รุ่นใหม่ ๆ ที่ไม่ได้โชว์รูปตัวเครื่องที่ด้านหน้ากล่องอีกต่อไป โดยจะมีเพียงชื่อรุ่นขนาดใหญ่และขนาดความจุ ROM/RAM พิมพ์กำกับไว้ที่ด้านหน้าเท่านั้น ส่วนด้านหลังขับเน้นไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของ Vivo Y50 ทั้งหน้าจอแสดงผล Ultra O Screen ใหญ่เต็มตาถึง 6.53 นิ้ว, แบตเตอรี่ความจุสูง 5,000mAh, กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera และขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 665
อุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้า
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- เคสซิลิโคนแบบใส
- สายดาต้าลิงค์ USB – C
- อแดปเตอร์ชาร์จ OUTPUT 5V-2A
สำหรับฟิลม์กันรอยมีการติดตั้งมาให้เรียบร้อยตั้งแต่โรงงาน
การออกแบบสมาร์ตโฟนของค่ายวีโว่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาอย่างยาวนาน โดย Vivo Y50 มาพร้อมดีไซน์ Dazzling 3D Colors ให้สีสันที่สง่างามพร้อมแฝงไว้ด้วยความพรีเมี่ยม โดยได้รับแรงบันดาลใจมากจากธรรมชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนแสงของดวงดาวที่ส่องประกาย ด้วยแสงและเงาที่กระทบบนตัวเครื่อง ทำให้มีมุมมองสีสันที่แตกต่างกัน และดูมีมิติมากยิ่งขึ้น สำหรับ Y50 มาพร้อมกับ 2 สีที่สวยงามมีเสน่ห์ โดยสี Starry Black เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และสี Iris Blue เปรียบเหมือนดั่งผืนน้ำที่ระยิบระยับบนพื้นผิวมหาสมุทร
สำหรับตัววัสดุเป็นโพลีคาร์บอเนต ที่มีความบางเบา และออกแบบตามหลัก Ergonomics ที่มีความโค้งแบบ 3D Micro Arc จึงจับถือพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว
“หน้าจอใหญ่เต็มตา รับชมคอนเทนต์สะใจ มอบประสบการณ์การรับชมที่ดียิ่งขึ้น ”
Vivo Y50 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Ultra O Screen Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 × 2340 (FHD+) ในอัตราส่วน 19.5: 9 มีความคมชัดสว่างสดใส ให้มุมมองกว้างตามสไตล์พาเนล IPS แถมยังโดดเด่นด้วยสัดส่วนระหว่างหน้าจอต่อตัวเครื่องที่สูงถึง 90.77% เลยทีเดียว
กล้องหน้าเซลฟี่เจาะรูที่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้มุมซ้ายบนได้อย่างลงตัว โดยจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม และถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังคงความโดดเด่นด้วยความละเอียดที่สูงถึง 16 ล้านพิกเซล แถมยังรองรับการถ่ายเซลฟีในโหมด Super Night Selfie ได้อีกด้วย ทำให้ Vivo Y50 สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ยามค่ำคืนได้อย่างประทับใจ
กล้องหลังจัดเต็มสุดคมชัดด้วย AI Quad Camera 13 ล้านพิกเซล โดยมีรายละเอียดดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- เลนส์ Super Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
ด้านบนจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ สำหรับด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. จัดวางอยู่อยู่ทางฝั่งซ้าย ตามด้วยไมค์สนทนา / พอร์ต USB -C / และลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ ซึ่งตัวปุ่มพาวเวอร์ จัดวางตำแหน่งได้ค่อนข้างดี เพราะไม่อยู่สูงหรือต่ำเกินไป ทำให้ใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวกคล่องตัว
ฝั่งซ้ายด้านบนจะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ด
ตัวถาดซิมของ Vivo Y50 เป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน Vivo Y50
Vivo Y50 จัดเต็มด้านความปลอดภัยด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือและ Face Unlock ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า โดยทั้ง 2 ระบบทำงานได้รวดเร็ว มีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจมาก ในส่วนของระบบปลดล็อคด้วยใบหน้ามีเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวให้เลือกใช้งาน 5 รูปแบบ
และนอกจากจะใช้ในการปลดล็อคหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นได้อีกทางหนึ่งด้วย
Ultra O Screen มอบประสบการณ์การรับชมที่ดียิ่งขึ้น
Vivo Y50 โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล Ultra O Screen Display ชนิด IPS LCD ให้สีสันสว่างสดใส มีความคมชัด สามารถแสดงขอบเขตสีได้สมจริงแม่นยำ มี Respond การตอบสนองที่อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ และมี Software ที่ช่วยปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น อีกทั้งยังมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6.53 นิ้ว โดยมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่สูงถึง 90.77% เลยทีเดียว และยังมาพร้อมกล้องเจาะรูที่มีขนาดเล็ก เมื่อผสานกับขอบจอที่บางเฉียบ จึงส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
Multi-Turbo 3.0
Multi-Turbo 3.0 บน Vivo Y50 จะพาผู้ใช้งานไปสัมผัสประสบการณ์ความรวดเร็วด้วย ART++ Turbo เพื่อเพิ่มความเร็วในการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่น โดยฟีเจอร์ Center Turbo จะช่วยให้การเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ AI Turbo ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถวิเคราะห์ปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปพลิเคชั่นได้ล่วงหน้า ทำให้แก้ไขปัญหาได้ถึง 75% และสำหรับแอปพลิเคชั่นเฉพาะ (third-party apps) สามารถลดปัญหาได้มากถึง 80% นอกจากนี้ AI Turbo ยังช่วยเพิ่มความเร็วในการการเปิดใช้งาน และการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น และสามารถเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ใช้บ่อยได้เร็วขึ้นถึง 20%
Ultra-Game Mode ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด สามารถเล่น E-sports ได้อย่างมืออาชีพโดยใช้ Competition Mode เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น และ นอกจากนี้ยังมี AI Turbo ที่มีความฉลาดในการสั่งงาน ซึ่งช่วยให้สามารถเรียกใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยให้เร็วยิ่งขึ้น รวมถึงฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่าง บันทึกหน้าจอ Screen Recording และจับภาพหน้าจออย่างรวดเร็ว Fast Screen Capture ก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ยังอัพเกรดฟีเจอร์เด่น ๆ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Killer Countdown ที่สามารถเตือนถึงเวลาที่เหลือก่อนที่เกมจะเริ่ม เพื่อช่วยให้เราเตรียมตัวหรือสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นในขณะรอเกมจะรันขึ้นนั่นเอง
และโหมดล่าสุด Game Vibration ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์สั่นสะเทือน ส่งผลให้การเล่นเกมต่อสู้ได้ดุเดือด มีความสมจริง เช่นการสั่นตอบสนองในเวลาที่ยิงปืน หรือการชน การกระแทกเป็นต้น
Voice Changer ฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงในเกม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกเอฟเฟกต์เสียงตัวละครที่หลากหลายระหว่างเล่นเกมกับเพื่อนร่วมทีม โดยเปลี่ยนเป็นเสียงย่านต่ำ หรือเสียงที่ให้ความตลกขบขัน ทำให้การสนทนาระหว่างการเล่นเกมนั้นสนุกสนาน และมีสีสันมากยิ่งขึ้น
Game Center
Game Center เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ โดยเป็นศูนย์รวมของเกมที่น่าสนใจ มีการแบ่งหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการค้นหาและดาวน์โหลด นอกจากนี้ Game Space ยังมาพร้อมความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญในระหว่างการเล่นเกม เช่น ดูข้อมูล CPU อุณหภูมิ และปริมาณข้อมูลการใช้งาน โดยทำงานร่วมกับ Ultra Game Mode ที่สามารถปิดข้อความ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ในขณะเล่นเกม ให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่