เปิดตัวและวางจำหน่ายในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ realme Band สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นแรกของ realme ตัวช่วยออกกำลังกายให้คุณใช้ชีวิตสมาร์ทอย่างลงตัว
โดดเด่นด้วยจอสีขนาดใหญ่ พร้อมฟีเจอร์เด่นทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์, นับก้าวเดินตลอดวัน, ตรวจวัดคุณภาพการนอน, รองรับการแจ้งเตือนอัจฉริยะ และชาร์จ USB โดยตรง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม จัดเต็มขนาดนี้ บอกเลยว่าราคาสบายกระเป๋ามากๆ
อุปกรณ์ในกล่อง
- realme Band
- คู่มือการใช้งาน
สเปก realme Band
- ขนาด 19.6 x 11.9 x 240 มม. น้ำหนักประมาณ 20 กรัม (รวมสายรัดข้อมือ)
- หน้าจอแสดงผลแบบสี TFT ความละเอียด 80 x 160 พิกเซล ขนาด 0.96 นิ้ว พร้อมปุ่มสัมผัสบนหน้าจอที่สามารถสั่งการคำสั่งต่างๆหรือฟังก์ชั่นการโต้ตอบอื่นๆ ได้
- ระบบตรวจจับ ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดการเร่งความเร็ว 3-axis acceleration Sensor / ระบบเซ็นเซอร์ Infrared Wear Sensor / ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล
- รองรับทุกการแจ้งเตือนในทุกแอปพลิเคชั่น และช่วยเตือนกิจกรรมต่างๆ เช่น การนั่ง การดื่มน้ำ และแจ้งเตือนเมื่อมีอัตราการเต้นของหัวใจเกินค่ากว่าปกติในขณะออกกำลังกาย
- รองรับระบบปฎิบัติการ Android 5.o หรือสูงกว่า
- ฺBluetooth 4.2
- เชื่อมต่อผ่าน realme Link
- กันน้ำระดับ IP68 ที่สามารถปกป้องตัวเองจากฝุ่นควัน สิ่งสกปรก ฝุ่นทราย และละอองน้ำ
- แบตเตอรี่ความจุ 90mAh แสดงผลการใข้งานได้ยาวนาน 6-9 วัน สามารถชาร์จและส่งผ่านข้อมูลได้โดยไม่ต้องพึ่งตัวชาร์จ โดยชาร์จผ่าน USB จากตัว Band โดยตรง
- สีที่วางจำหน่าย Black / Green / Yellow
- ราคา 799 บาท
รูปลักษณ์ดีไซน์
realme Band เป็นสายรัดข้อมือที่มีดีไซน์ขอบโค้งพอดีกับข้อมือ สวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง และมีน้ำหนักเบาเพียง 20 กรัม ส่วนตัวสายใช้วัสดุ TPU ที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานได้นานโดยไม่เสียรูปร่างรูปทรง ไม่สกปรกง่าย แถมยังกันน้ำได้อีกด้วย โดยมีให้เลือก 3 สีคือ เหลือง เขียว และดำ
การเชื่อมต่อ
realme Band รองรับการเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth กับสมาร์ตโฟนระบบปฎิบัติการ Android ตั้งแต่เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป โดยให้ดาวน์โหลดแอป realme Link จาก Play Store มาไว้บนเครื่อง
จากนั้นทำการลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานแล้วทำการเชื่อมต่อโดยกดที่ปุ่มใต้หน้าจอของ realme Band ค้างไว้จนหน้าจอสมาร์ตโฟนขึ้นเชื่อมต่อสำเร็จ Connected Successfully
หลังจากนั้นให้ใส่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เพศ ปีเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก และกำหนด My Goal เป้าหมายการเดินในแต่ละวัน
แอป realme Link จะแสดงสถานะการเชื่อมต่อ พร้อมแสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น จำนวนก้าว คุณภาพการนอน อัตราการเต้นหัวใจ การตรวจจับการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของแต่ละวันในหน้าแรก
หน้าการตั้งค่าจะเป็นรูปเฟืองอยู่ด้านขวาบน สามารถเข้าไปตั้งค่าการทำงานบน realme Band ได้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าปัดนาฬิกา, แจ้งเตือนสายเข้า หรือข้อความ, ตั้งปลุก, เตือนดื่มน้ำ, เลือกโหมดกีฬา, สภาพอากาศ และอัปเดทอุปกรณ์ เป็นต้น
คุณสมบัติการใช้งาน
หน้าจอของ realme ประกอบด้วย
นาฬิกา สามารถเลือกเปลี่ยนหน้าตาได้ 5 แบบ โดยเปลี่ยนได้จากแอป realme Link > ตั้งค่า > Watch Face
นับก้าวการเดิน โดยเมื่อกดที่ปุ่มใต้หน้าจอค้างไว้ 1 ครั้งจะแสดงจำนวนก้าวเดินล่าสุด และจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญไป เมื่อกดที่ปุ่มเดิมอีกครั้ง จะแสดงระยะทางที่เดิน และเวลาในการเดิน
วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้
- การตรวจระดับอัตราการเต้นของหัวใจ ใช้หลักการ PPG ในการตรวจวัด เป็นเทคนิคทางแสงที่ใช้ในการตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงปริมาตรในเลือดในการไหลเวียน
- แสงจาก Band จะส่องมายังผิวหนังหลังจากนั้นจะสะท้อนกลับไปยัง Band sensor ซึ่งจะสามารถคำนวณระดับอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วยระบบดังกล่าว
- อัลกอริทึมอัตราการเต้นของหัวใจได้รับการปรับให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานในแต่ละภูมิภาค ปรับสีผิวของผู้ใช้งานในแต่ละภูมิภาคเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ
- มีระบบการเตือน TBD ช่วยเตือนเมื่อมีระดับอัตราการเต้นของหัวใจเกินระดับปกติ
- ตรวจวัดระดับอัตราการเต้นของหัวใจทุก 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง
- มีการแจ้งเตือนเมื่อมีอัตราการเต้นของหัวใจเกินกว่าค่าปกติในขณะออกกำลังกาย
โหมดสปอร์ต รองรับ 9 ประเภท คือ คริกเกต, โยคะ, การวิ่ง, การเดิน, การเดินระยะไกล, การปีนเขา, การปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานออกกำลังกาย และการเล่นฟิตเนส ซึ่งหน้าจอจะแสดงโหมดนี้ 3 ประเภทเท่านั้น โดยสามารถเลือกเปลี่ยนประเภทได้ โดยเข้าไปเปลี่ยนที่แอป realme Band > ตั้งค่า > Sport Mode
หน้าอัปเดตสภาพอากาศ
หน้าแสดงข้อมูลอุปกรณ์
ในส่วนของการวัดการนอนนั้น สามารถสวมใส่ realme Band นอนได้ โดยจะวัดว่าเราหลับไปนานกี่ชั่วโมง หลับลึกมากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลากี่โมง และยังแสดงอัตราการเต้นของหัวใจในขณะที่นอนหลับอีกด้วย
รวมถึงยังมีการเตือนให้เคลื่อนไหวหรือเดินเมื่อเรานั่งเป็นเวลานานโดยอัตโนมัติ และยังช่วยเตือนให้ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีสุขภาพดีอีกด้วย
รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าของโทรศัพท์
รวมทั้งรองรับการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Messenger, WhatsApp, Instagram, Twitter, TikTok และ SMS ซึ่งเมื่อมีข้อความเข้าสามารถยกข้อมือขึ้นมาดูได้ทันที เพราะมีเซ็นเซอร์แบบ 3-axis acceleration ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว แสดงผลได้ทันทีเมื่อพลิกข้อมือมาดู
และรองรับการกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 โดยกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที สามารถใส่ออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องกลัวเปียก และเครื่องจะพัง
ส่วนการชาร์จตัว realme Band ก็ง่ายไม่ต้องพี่งสาย โดยถอดสายที่เป็นหัวชาร์จ USB ซึ่งอยู่ฝั่งด้านบนออกมา จากนั้นนำไปเสียบกับอแดปเตอร์ ชาร์จไฟ โน้ตบุ๊ค หรือแบตเตอรี่สำรองได้ทันที ซึ่งใช้เวลาชาร์จเต็ม 1 ครั้งไม่ถึงชั่วโมง และใช้งานได้นานมากกว่า 6 วัน
บทสรุป
realme Band ถือเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นแรกของ realme ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้อย่างลงตัว โดยมาพร้อมคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ อย่างครบครันทั้งการออกกำลังกาย การวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ และการชาร์จที่สะดวกสามารถเสียบช่อง USB ได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม
ซึ่งการทำงานถือว่าค่อนข้างครอบคลุมในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญคือ รองรับภาษาไทยมาตั้งแต่แกะกล่องด้วย เรียกว่าเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี และยังมีราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายอีกด้วย
ทั้งนี้ realme Band วางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ, เหลือง และเขียว ในราคา 799 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ realme Brand Shop หรือช่องทางออนไลน์ที่ Shopee และ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ