Samsung Galaxy A51 สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดในซีรีส์ A ที่มาพร้อมสโลแกน “รูปสวย เลนส์ครบ จบในเครื่องเดียว” ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับ Mid-Range ในฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะเด่นเรื่องดีไซน์ และมาพร้อมสเปคสุดร้อนแรงในราคาจับต้องได้แล้ว ในด้านคุณภาพจากกล้องหน้า/หลัง ก็ถือว่าจัดเต็มและอัพเกรดจากรุ่นพี่ Galaxy A50s ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกล้องหลัง AI Quad Camera 4 เลนส์ ที่พร้อมตอบโจทย์การถ่ายภาพได้ครบในทุกระยะและทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพทั่ว ๆ ไป หรือภาพมุมกว้างของวิวทิวทัศน์อันตระการตา รวมถึงการถ่ายภาพระยะใกล้ ที่สามารถเก็บทุกรายละเอียดได้อย่างคมชัดด้วยเลนส์มาโครความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล และสุดท้ายคือการถ่ายภาพ portrait ได้อย่างมืออาชีพ ด้วยฟีเจอร์ ไลฟ์โฟกัส ที่ให้ผลลัพธ์น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กล้องใหญ่อย่างแน่นอน แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ขอเชิญติดตามรับชมคุณภาพอันอัดแน่นจากกล้องหน้า/หลังของ Galaxy A51 ไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
กล้องหลัง 4 เลนส์ Quad Camera โดดเด่นด้วย Smart AI Technology ค้นหาช็อตที่สมดุลให้เราได้ง่าย ๆ มีเทคโนโลยี AI จดจำช็อตถ่ายภาพได้อย่างชาญฉลาด และมีฟีเจอร์ Scene Optimizer ที่เป็นระบบกล้องอัจฉริยะที่ช่วยให้ปรับระดับความสว่าง ความคมชัด ความสมจริง ตามซีนหรือสภาพแวดล้อมจริงในขณะนั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์เทพ ๆ ที่มีอยู่ในสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธง เช่น flaw detection, AR Doodle และ Super Steady ที่เป็นระบบกันสั่น โดยไม่ต้องพึงพากิมบอลหรือไม้กันสั่น ซึ่งหาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน
ไฮไลท์เด่น
กล้องหลัก Main Camera ของ Galaxy A51 มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 48MP และต้องบอกเลยว่ามีแค่ค่าย Samsung เท่านั้นที่ใช้ Sensor ขนาดใหญ่ถึง 1/2” ซึ่งประกอบกับเทคโนโลยี Tetra Cell ทำให้ขนาด pixel มีขนาดใหญ่มาก จึงสามารถเก็บแสง สี และรายละเอียดต่าง ๆ ได้ครบถ้วน จนได้ภาพคมชัดทั้งกลางคืนกลางวัน
โหมด Macro เป็นรุ่นแรกของซัมซุง ที่พร้อมเปิดมุมมองการถ่ายภาพแบบใหม่ ในระยะโฟกัสใกล้สุดเพียงแค่ 4 ซม. พร้อมเก็บความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง Ultra Wide Camera เก็บครบทุกความประทับใจ สามารถเก็บภาพมุมกว้าง ได้ถึง 123 องศากว้างเหมือนตาเห็น โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
กล้อง Depth Camera หน้าชัด หลังเบลอ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายเสร็จแล้วมาปรับทีหลังได้ มีโหมด Blur/ Spin/ Zoom/ Colour Point
กล้องหน้า ความละเอียด 32 MP Selfie สวย มี beauty mode ให้ปรับ จะเลือกปรับแบบ Auto หรือ ปรับเฉพาะส่วน filter ก็ได้
ในส่วนของ User Interface หรือเมนูกล้องบน Samsung Galaxy A51 ถูกออกแบบให้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์และโหมดการถ่ายภาพต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยด้านบนจะประกอบไปด้วย โหมดการตั้งค่า, โหมดแฟลช, ตั้งเวลาในการถ่าย, อัตราส่วนของภาพ, โหมดบิวตี้และฟิลเตอร์ต่าง ๆ
ส่วนด้านล่าง จะมีโหมดการถ่ายภาพมุมกว้าง/มุมปกติ, Scene optimizer และโหมดการถ่ายต่าง ๆ ที่สามารถจัดเรียงได้ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ
สำหรับกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงกว้าง f/2.2 จึงช่วยในการถ่ายเซลฟี่ได้ดีในทุกสภาพแสง แถมยังบันทึกวีดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้เหมือนรุ่นพี่ Galaxy A50s
ในส่วนของฟีเจอร์ไฮไลท์อย่างโหมดบิวตี้ที่ปรับแต่งได้ค่อนข้างยืดหยุ่น รวมถึงโหมดไลฟ์โฟกัสก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งเรื่องการละลายฉากหลังได้ละมุนเป็นธรรมชาติและเก็บดีเทลเส้นขอบของตัว subject หรือตัวแบบได้ดีมาก ๆ อีกด้วย
ทดสอบกล้องหน้า Galaxy A51
กล้องหน้าเซลฟี่ จัดเก็บทุกโมเมนต์ความประทับใจด้วยความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังสามารถถ่ายเซลฟี่แบบหมู่คณะ ด้วยฟีเจอร์ group selfie ทำให้เราสามารถถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ พร้อมเก็บวิวฉากหลังได้กว้างกว่าที่เคย
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto
ภาพจากกล้องหน้าให้ความคมชัดที่ดี มีสกินโทนที่ดูเป็นธรรมชาติ ส่วนไวท์บาลานซ์ถือว่าค่อนข้างแม่นยำ ในภาพรวมทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจมากครับ
บิวตี้โหมด (Beauty mode)
โหมดบิวตี้ Auto
โหมดบิวตี้ บน Galaxy A51 ให้ภาพที่ได้ดูสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ ทั้งในส่วนของโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ ซึ่งการทำงานของโหมดบิวตี้จะมีทั้งแบบอัตโนมัติ และปรับตั้งค่าเองแบบแมนวน 3 ระดับ รวมถึงการปรับตั้งค่าแบบละเอียด โดยมีทั้ง การปรับความเรียบเนียน, สีผิว, แนวกราม, ดวงตา ซึงจะช่วยให้การเซลฟี่มีความยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุดนั่นเอง
ทดสอบเปิดใช้งานโหมดบิวตี้ที่ระดับ 3
ทดสอบตั้งค่าโหมดบิวตี้เองแบบแมนวน ด้วยการปรับความเรียบเนียน, สีผิว, แนวกราม, ดวงตา โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้น จะให้ภาพที่ดูสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจขึ้น พร้อมทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งโหมดนี้ หนุ่ม ๆ สาว ๆ น่าจะชื่นชอบกันเป็นพิเศษ เพราะสามารถปรับให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น และดวงตากลมโต รวมถึงสกินโทนที่สวยสมใจได้ง่าย ๆ แค่เพียงปลายนิ้ว
นอกจากจะมีทีเด็ดด้วยโหมดบิวตี้ ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจแล้ว ในส่วนของฟิลเตอร์บน Galaxy A51 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ เพราะมีฟิลเตอร์สวย ๆ ให้ใช้งานมากมาย และยังสามารถดาวน์โหลดฟิลเตอร์ยอดนิยมที่มีให้ใช้บนแอปชื่อดังอย่าง Camera360, CandyCamera, LOLLICAM มาใช้งานบน Galaxy A51 ได้อีกด้วย
โหมดไลฟ์โฟกัสของกล้องหน้า รองรับ group selfie ด้วยเช่นกัน ทำให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบหมู่คณะ หรือจะเน้นในเรื่องของความกว้างของพื้นหลังก็ได้เช่นกัน
สำหรับโหมดไลฟ์โฟกัสสามารถปรับการเบลอได้ตั้งแต่ 0-7 ระดับ
โหมดไลฟ์โฟกัส (Live Focus)
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 3
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 5
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 7
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 5 พร้อมเปิด “ผิวเรียบเนียนระดับ 5”
ในโหมดไลฟ์โฟกัส ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มความกระจ่างใสของใบหน้า ด้วยการปรับให้ผิวเรียบเนียน โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 0- 7 ระดับ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานร่วมกันจะช่วยให้การถ่าย portrait ที่สวยงามและมีความน่าสนใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถปรับความเบลอของฉากหลังจากแอปแกลลอรี่ รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบ background effect ได้อีก 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย สปิน, ซูม, และคัลเลอร์พอยท์
ทดสอบกล้องหลังบน Galaxy A51
กล้องหลัง 4 เลนส์ Quad Camera โดดเด่นด้วย Smart AI Technology ค้นหาช็อตที่สมดุลให้เราได้ง่าย ๆ มีเทคโนโลยี AI จดจำช็อตถ่ายภาพได้อย่างชาญฉลาด และมีฟีเจอร์ Scene Optimizer ที่เป็นระบบกล้องอัจฉริยะที่ช่วยให้ปรับระดับความสว่าง ความคมชัด ความสมจริง สำหรับรายละเอียดของกล้องหลัง 4 เลนส์มีดังนี้
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- เลนส์ Ultra Wide มุมกว้างพิกเซล 123 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- เลนส์ Depth Sensor 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 สำหรับโหมด Live Focus
- เลนส์ macro 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ 4 – 5 ซม.
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto
ภาพที่ได้มีความคมชัด ให้สีสันที่อิ่มแน่นและมีสกินโทนที่เป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตาแต่อย่างใด รวมถึงสามารถเก็บดีเทลรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน
มาพร้อมโหมดบิวตี้อันชาญฉลาดและให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจไม่แพ้กล้องหน้าเลยทีเดียว
โหมดไลฟ์โฟกัสของกล้องหลัง
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 3
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 5
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 7
โหมดไลฟ์โฟกัส ปรับระดับความเบลอของฉากหลังไว้ที่ระดับ 5 พร้อมเปิด “ผิวเรียบเนียนระดับ 5”
ทดสอบกล้องหลังในโหมดไลฟ์โฟกัส ด้วยคุณสมบัติของเลนส์ Depth sensor ที่ให้ความละเอียดมาถึง 5 ล้านพิเซล ผสานกับรูรับแสงกว้าง f/2.2 จึงทำให้การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอบน Galaxy A51 นั้นทำผลงานได้ดีมาก ๆ สามารถเบลอฉากหลังได้ละมุนละไมในสไตล์กล้องมืออาชีพ ให้ลองสังเกตภาพรวมของการตัดขอบบนตัวแบบ ซึ่งยังคงดีเทลไว้ได้ ไม่ถูกกลบให้เป็นปื้น ๆ ดูแล้วไม่เนียนตาเหมือนบางแบรนด์ รวมถึงการสร้างโบเก้ของภาพก็ดูมีความเป็นธรรมชาติด้วยเช่นกัน
กล้องหลังมีโหมดบิวตี้และฟิลเตอร์ให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าทุกประการ
Normal mode ในระยะปกติ
เปิดใช้งาน Ultra Wide
สำหรับโหมด Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษ ไม่ได้เด่นแค่การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์เพียงอย่างเดียว เมื่อนำมาใช้ถ่ายภาพบุคคล ก็จะช่วยให้แบบดูเพรียว ดูขายาวขึ้นอีกนิด ซึ่งตรงนี้สาว ๆ ต้องชอบกันอย่างแน่นอน
ทดสอบการถ่ายภาพในโหมดต่าง ๆ บน Galaxy A51
โหมดมาโคร (Macro Mode)
Normal Mode
Macro Mode
Macro Mode ครั้งแรกบน Series A ที่มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าสูงที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ จะ crop จะ Zoom ก็สามารถนำไปใช้งานต่อได้อย่างยืดหยุ่น
สำหรับ Macro Mode บน Galaxy A51 สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด และยังสามารถใส่เอฟเฟกต์โบเก้ลงในพื้นหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้วัตถุของภาพโดดเด่นและดึงดูดสายตายิ่งขึ้น
โหมด มุมมองกว้างพิเศษ (Ultra Wide)
โหมด Normal ระยะปกติ
กล้องหลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กล้องหน้า โดยในสภาพแสงปกติ โทนภาพออกแนวคม ใสเคลียร์ ให้ไดนามิค เรนจ์ ที่น่าประทับใจ เรียกว่าจบหลังกล้องโดยไม่ต้องแต่งภาพได้เลย
โหมด Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษ
สำหรับโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษถึง 123 องศา ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป
ซูมที่ระยะ 5x
ซูมที่ระยะ 8x
เทียบภาพถ่ายในระยะต่าง ๆ ของ Galaxy A51
โหมด Normal ระยะปกติ
โหมด Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษ
ซูมที่ระยะ 2x
ซูมที่ระยะ 3x
ซูมที่ระยะ 4x
ซูมที่ระยะ 5x
ซูมที่ระยะ 6x
ซูมที่ระยะ 7x
ซูมที่ระยะ 8x
โหมดอาหาร (Food Mode)
Food Mode หรือโหมดอาหารบน Galaxy A51 จะมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยสามารถเลือกการเบลอแบบวงกลม พร้อมกำหนดขนาดเพื่อให้เกิดการโฟกัสเฉพาะจุด ซึ่งเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับภาพได้มากยิ่งขึ้น
โหมดอาหารพร้อมปรับโทนเย็น
โหมดอาหารพร้อมปรับโทนอุ่น
นอกจากนี้ยังสามารถปรับอุณหภูมิสีในโหมดอาหารได้ทั้งโทนอุ่นและเย็น
โหมดกลางคืน (Night Mode)
Auto Mode
Night Mode
Night Mode + Ultra-Wide
Auto Mode
Night Mode
Night Mode ที่เป็นการถ่ายภาพซ้อนหลาย ๆ ภาพ จากสภาพแสงที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนหรือในที่แสงน้อย มีความสว่างและคมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้อง และสิ่งที่ Galaxy A51 ยังทำได้ดีเหนือคู่แข่งคือสามารถใช้งาน Night Mode รวมกับโหมด Ultra Wide มุมมองกว้างพิเศษได้อีกด้วย ทำให้เก็บทิวทัศน์สวยของยามคำคืนได้ดีในทุกสถานการณ์
โหมด โปร (Pro Mode)
สำหรับโหมด Pro จะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นมีความยืดหยุ่นขึ้น เช่นการปรับค่า ไวท์บาลานซ์ได้ตรงกับความเป็นจริง สามารถชดเชยแสง และตั้งค่า ISO เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแสงในขณะนั้นเป็นต้น
Auto Mode
Pro Mode
สำหรับรูปนี้ใช้งานบน Pro Mode โดยปรับค่าไวท์บาลานซ์มาที่ 5000K + ชดเชยแสง +0.3 และตั้งค่า ISO ไว้ที่ 200 จะเห็นได้ว่าภาพมีความสว่าง คมชัด ดูมีมิติขึ้นจากโหมด Auto ขึ้นมาแบบสัมผัสได้
โหมด พาโนรามา (Panorama Mode)
โหมด Panorama ของ Galaxy A51 ใช้งานง่ายมากครับ เวลาถ่ายให้เราเคลื่อนที่ช้า ๆ พยายามบังคับให้ลูกศรวิ่งไปตามแนวเส้นนำทางอย่างต่อเนื่อง แค่นี้เราก็จะได้ภาพพาโนรามาที่สวยเนียนกริบ ไม่เกิด distortion หรือการเหลื่อมของภาพให้หงุดหงิดใจ
Panorama Mode บน Galaxy A51 ยังมีความเทพที่ไม่เหมือนใคร เพราะสามารถถ่ายบนเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide ได้อีกด้วย ซึ่งจะให้มุมมองของภาพทีดูแปลกตาและเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
โหมด สแกนเอกสาร (Document Scanner)
ถ่ายภาพด้วยโหมดปกติ
ใช้งานโหมด Document Scanner
Galaxy A51 มาพร้อมฟีเจอร์ Document Scanner สามารถสแกนเอกสารได้ง่าย ๆ ให้ตัวหนังสือคมชัดดุจเครื่องสแกน ฟีเจอร์นี้ใช้งานง่ายมาก แค่ส่งกล้องไปยังหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์ที่ต้องการสแกน จากนั้นกล้องจะทำการครอปให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติ
ทดสอบการบันทึกวีดีโอ
Galaxy A51 ไม่ได้โดดเด่นเฉพาะภาพนิ่งเท่านั้น ด้านวีดีโอก็จัดเต็มไม่แพ้กัน โดยกล้องหลังรองรับการบันทึกวีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K และยังมีระบบกันสั่นขั้นเทพ “Super Steady” ที่เป็นระบบกันสั่นโดยไม่ต้องพึ่งพากิมบอลหรือไม้กันสั่น ซึ่งต้องบอกเลยว่าหาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน
ส่วนการบันทึกวีดีโอของกล้องหน้าสามารถตอบโจทย์สาย Live ได้อย่างลงตัว ด้วยการรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K เลยทีเดียว
ทดสอบโหมด SLOW MOTION
ทดสอบโหมด SUPER SLOW – MOTION
สรุป
Samsung Galaxy A51 ทำผลงานได้สมกับสโลแกน “รูปสวย เลนส์ครบ จบในเครื่องเดียว” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องกล้องที่อัพเกรดความสามารถขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกล้องหลัง 4 เลนส์ที่พร้อมตอบโจทย์การถ่ายภาพในทุกระยะ และทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพทั่วไป หรือการถ่ายภาพมุมกว้างเพื่อเก็บวิวทิวทัศน์ได้อย่างครบถ้วน รวมถึงมาโครโหมดที่เป็นฟีเจอร์ล่าสุด ก็ทำผลงานได้ดีมาก ๆ เพราะมาพร้อมความละเอียดเหนือกว่าคู่แข่งในท้องตลาด ส่วนกล้องหน้าทำผลงานได้น่าประทับใจไม่แพ้กล้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นโหมดบิวตี้, ไลฟ์โฟกัส และยังตอบโจทย์สาย Live ได้อย่างลงตัว ด้วยการรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K ซึ่งหาไม่ได้ในสมาร์ตโฟนในระดับเดียวกัน
มาถึงตรงนี้คงต้องบอกเลยว่า Samsung Galaxy A51 เป็นสมาร์ตโฟนระดับ Mid- Range ที่ครบครัน ครบเครื่อง โดยมาพร้อมดีไซน์สวยงาม สเปคจัดเต็ม แบตอึดชาร์จไว กล้องหน้าหลังที่เก่งทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ แต่เปิดตัวด้วยราคาที่สมเหตุสมผล เชื่อว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้สัมผัสกับ Samsung Galaxy A51 จะตกหลุมรักกันอย่างแน่นอน
การวางจำหน่าย
Samsung Galaxy A51 วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Prism Crush Pink, Prism Crush Blue และ Prism Crush Black วางจำหน่ายในราคา 10,490 บาท
Update
และล่าสุด Samsung Galaxy A51 วางจำหน่ายเพิ่มอีกรุ่น Ram 8GB Rom 128GB ราคาเพียง 10,690 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Prism Crush Pink, Prism Crush Blue และ Prism Crush Black