รีวิว realme C12 กล้องหลัง 3 เลนส์ แบตทรงพลัง 6,000 mAh ในราคาสุดคุ้ม!!
ทดสอบกล้องหน้า/หลัง
User Interface หรือหน้าเมนูกล้องออกแบบเน้นที่ความเรียบง่ายสะอาดตา การเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยประกอบไปด้วย การเปิด/ปิดไฟแฟลช, HDR Mode, Dazzle Color Mode, ฟิลเตอร์, และการตั้งค่าหลักของกล้อง
ส่วนกล้องหน้าจะมีไฮไลท์ที่ AI Beauty ที่ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ
สำหรับโหมดการถ่ายอื่น ๆ สามารถเรียกใช้งานโดยแตะที่ More ตรงมุมซ้ายล่าง โดยมีโหมดให้ใช้งานประกอบด้วย TIME-LAPSE, ULTRA MACRO ,Google Lens, SLO-MO, PRO-EXPERT, และ PANO
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty
เปิดใช้งาน AI Beauty โดย realme C12 สามารถเลือกปรับความสวยใสของ AI Beauty ได้อย่างละเอียด ตั้งแต่ 0- 100 ระดับ
AI Beauty 50 %
AI Beauty 100 %
มีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ
โหมด portrait
ในโหมด portrait ละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย
โหมด portrait สามารถเปิดใช้งาน AI Beauty ทำให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอพร้อมกับเปิดความกระจ่างใสด้วยบิวตี้โหมดไปพร้อม ๆ กัน
ในโหมด portrait จะมีฟีเจอร์ Artistic Portrait สามารถเลือกใช้ฟิลเตอร์ 5 รูปแบบ เพื่อปรับแต่งให้โบเก้และสกินโทนของภาพออกมาดูสวยงามและมีเสน่ห์ เช่นโทนภาพแนวเรโท หรือพาสเทลเป็นต้น
ทดสอบกล้องหลัง
กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Quad Camera มาพร้อมโหมด Nightscape
กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2, เลนส์ 5P ระบบโฟกัส PDAF รองรับ 4x Digital Zoom
กล้องตัวที่สอง เลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.4
กล้องตัวที่สาม เลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.4
และมีไฟแฟลชมาให้ใช้งานหนึ่งดวง
Normal 1x
Zoom 2x
Zoom 4x
Chroma Boost
Auto Mode
Chroma Boost
Auto Mode
Chroma Boost
เป็นโหมดที่ AI engines ระบุฉากเฉพาะ จากนั้นจะใช้อัลกอริธึมของ color-mapping ในระดับพิกเซล ในการคืนค่าสีและความสว่าง เพื่อให้ได้ภาพดูเป็นธรรมชาติ มีสีสันที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ Filter หรือ Vivid mode
Ultra macro
โหมดปกติ
Macro Mode
สำหรับมาโครโหมด จะสามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
Super Nightscape Mode
Auto Mode
Super Nightscape
Auto Mode
Super Nightscape
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง realme C12
โหมด Auto
โหมด Auto เปิด AI Beauty
โหมด Auto เปิด AI Beauty
เปิดใช้งานฟิลเตอร์
เปิดใช้งานฟิลเตอร์
เปิดใช้งานฟิลเตอร์
โหมด portrait ของกล้องหลัง ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กล้องหน้า ทั้งการละลายฉากหลังและโบเก้ของภาพ โดยรูปนี้เปิดโบเก้ละลายฉากหลังที่ 60% ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นของกล้อง
โหมด portrait เปิดโบเก้ละลายฉากหลังที่ 100%
จากนี้ไปรับชมภาพจากกล้อง realme C12 ในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อเลยครับ
สรุป realme C12
หากเคยประทับใจกับ realme C11 มาก่อน เชื่อว่าจะตกหลุมรัก realme C12 ยิ่งกว่า ด้วยการอัพเกรดสเปคในภาพรวม ทั้ง RAM และกล้องหลัง 3 เลนส์ รวมถึงแบตที่ใหญ่ขึ้น 6000mAh และยังคงความโดดเด่นด้านดีไซน์การไล่สีในรูปทรงเลขาคณิต พร้อมกับเปิดราคาที่เข้าถึงได้ง่ายเหมือนเช่นเคย โดยราคาทางฝั่งโอเปอร์เรเตอร์เคาะออกมาเพียง 1 บาทเท่านั้น เรียกว่าคุ้มเกินคุ้มสำหรับสเปคต่อราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่งในท้องตลาด
จุดเด่น
- แบตสุดอึดความจุสูง 6000mAh พร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging ทำหน้าที่เป็นพาวเวอร์แบงค์จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ
- ดีไซน์การไล่เฉดสี 3 ระดับ ในรูปทรงเลขาคณิต
- หน้าจอ 6.5 นิ้ว ใหญ่เต็มตารับชมคอนเทนต์สะใจ
- กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมโหมด Super Nightscape
- สเปคต่อราคาโดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน
สิ่งที่ต้องพิจารณา
- ไม่แถมเคสมาในกล่อง
- รองรับ WiFi-2.4 GHz
สรุปราคาและวันวางจำหน่าย realme C12
realme C12 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ในราคา 3,999 บาท ผ่านทางร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ
realme C12 วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ (Shopee) ในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ในราคา 3,999 บาท
realme C12 วางจำหน่ายผ่านโอเปอเรเตอร์ในราคาเริ่มต้น 1 บาทเท่านั้น
realme C12 วางจำหน่ายผ่าน dtac ในราคาเริ่มต้นเพียง 1 บาทเท่านั้น
realme C12 วางจำหน่ายผ่าน AIS ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,289 บาท
realme C12 วางจำหน่ายผ่าน truemove H ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,499 บาท