รีวิว vivo Y33T ดีไซน์พรีเมี่ยม ขุมพลัง Snapdragon 680 กล้อง 50MP จอ 90Hz แบตอึด 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W !!!
ด้านการถ่ายภาพ
User Interface หรือหน้าตาเมนูกล้องจะเหมือนกับรุ่นพี่ภายในค่าย โดยมุมขวาบนของเมนูกล้องจะมีไอคอนฟิลเตอร์ และถัดลงมาจะเป็นการเลือกระยะของเลนส์กล้อง ส่วนด้านบนของเมนูจะเป็นไอคอนที่เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้อง อาทิเช่น เปิด/ปิดการใช้งานแฟลช, โหมด HDR, เปิด/ปิด AI, โหมด Macro และการตั้งค่าโดยรวมของกล้อง
กล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 16 ล้านพิกเซล พร้อมค่ารูรับแสง f/2.0 ที่ให้ความคมชัดและขับเคลื่อนด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์อันชาญฉลาด โดยจุดขายยังคงเป็น AI Face Beauty ที่สามารถวิเคราะห์เพศและใบหน้า พร้อมปรับแต่งให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามตรงใจผู้ใช้งานโดยไม่ต้องเสียเวลามาปรับแต่งในภายหลัง นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง Multi-Style Portrait เหมือนรุ่นพี่ในซีรีส์ Y อีกด้วย
โหมด Auto
กล้องหน้ามีโหมด Super HDR ที่สามารถถ่ายภาพย้อนแสงได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมปรับสมดุลสีสันของภาพอย่างแม่นยำ และให้ความเป็นธรรมชาติทั้งในส่วนของฉากหลังและตัวแบบ
สำหรับโหมด Super HDR จะช่วยปรับสีสันแบบอัตโนมัติในส่วนของภาพที่สว่างจ้า และปรับรายละเอียดให้คมชัดในส่วนเงามืด เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบทุกรายละเอียด ประโยชน์ของโหมดนี้ก็คือ เมื่อเราถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างมาก ๆ หรือเมื่อย้อนแสง รวมถึงในที่แสงน้อย ถ้าเปิด HDR จะช่วยในเรื่องการเกลี่ยสภาพแสงโดยรวมและดึงดีเทลของภาพให้กลับมามีความสมดุล
Portrait Mode
ในโหมด Portrait ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/1.0 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
Beauty mode
Beauty mode
สำหรับ AI Face Beauty สามารถปรับ สามารถตั้งค่าระดับความสวยงามได้แบบอัตโนมัติ และตั้งค่าแบบกำหนดเองได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับ
Beauty mode
ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
Multi-Style Portrait
สำหรับโหมด Multi-Style Portrait จะมีสไตล์ที่เลือกใช้งานได้ 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Fresh / Texture / Holiday / Rococo / Gray /1980s / Kyoto cherry / Film / Tokyo Style ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
Portrait filter
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่าจุใจถึง 10 รูปแบบ
Portrait light effect
ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม ตัวอัลกอริทึม AI ของ vivo Y33T จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 6 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background
Natural light, Studio light, Stereo light
Loop light, Rainbow light, Monochrome background
Pose Master
ฟีเจอร์นี้มีหลักการทำงาน ด้วยการแสดงตัวอย่างไกด์ไลน์ในการแอคติ้ง หรือการโพสท่าทางนั่นเอง โดยจะมีเส้นประแสดงควบคู่กับภาพแอคติ้งตัวอย่าง ซึ่งผู้ใช้งานเพียงแค่ให้แบบแสดงท่าทางตามตัวอย่างและจัดองค์ประกอบให้แบบเข้าไปอยู่ในเส้นประ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพถ่ายที่สวยโดนใจไม่แพ้การโพสท่าจากนางแบบ นายแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว
ฟีเจอร์ Pose Master สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง
AI Extreme Night Selfie
อัลกอริธึม AI Extreme Night ที่อัปเกรดล่าสุด พร้อมยกระดับการเซลฟี่ตอนกลางคืนขึ้นอีกขั้นผ่านกล้องหน้า 8MP AI Extreme Night Selfie บันทึกรายละเอียดคมชัด ลดนอยส์ และให้คอนทราสต์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อให้คุณดูโดดเด่นในยามค่ำคืน
Selfie Softlight Band
Selfie Softlight Band
สำหรับฟีเจอร์ Selfie Softlight Band จะให้แสงที่นุ่มนวล ภาพดูมีมิติ และไม่สว่างจ้าจนเกินไป โดยใช้แสงสว่างจากหน้าจอแสดงผลทำหน้าที่เป็นแฟลช เพื่อช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่ไม่มีแสงได้อย่างสวยงามเสมือนถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว
ทดสอบกล้องหลัง
AI Triple Camera 50 ล้านพิกเซล
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- เลนส์ Bokeh camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
เก็บทุกความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่ความละเอียด 8160 x 6144 พิกเซล จะขยายหรือนำไป Crop ก็ให้คุณภาพที่สามารถต่อยอดการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
ตัวอย่างภาพถ่ายในระยะต่าง ๆ
Normal mode
Zoom 2x
Zoom 5x
Zoom 10x
vivo Y33T รองรับการซูมแบบ Optical zoom 2x และ Digital zoom ได้สูงสุดที่ 10x
Super macro
Normal mode & Super macro
Normal mode
Super macro
Super macro บน vvivo Y33T สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง ดอกไม้ หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
Super Night Mode
โหมดปกติ
Super Night Mode
Y33T ติดตั้งอัลกอริธึมการถ่ายภาพกลางคืนของกล้องด้านหลังโดยใช้วิธีการลดสัญญาณรบกวนโดเมน RAW ที่อัปเกรดแล้ว ซึ่งสามารถรวบรวมรูปหลายเฟรมเป็นรูปเดียวเพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดสูง สัมผัสถึงความทรงจำภาพถ่ายกลางคืนอันแสนยอดเยี่ยม
ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกสรรโหมด Stylish Night Filters ซึ่งออกแบบโดยช่างภาพมืออาชีพโดยเฉพาะสำหรับ vivo ถ่ายภาพกลางคืนได้แบบฉบับมืออาชีพ
Super Night Mode ระยะปกติ
Super Night Mode รองรับการซูมที่ 2x
Stylish Night Filters
ใน Super Night Mode ยังมี Style มาให้ใช้งานอีก 4 รูปแบบ ประกอบด้วย Black & gold, Blue ice, Green orange, Cyberpunk
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาพแสงต่าง ๆ
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
สำหรับกล้องหลังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่อัดแน่นไม่แพ้กล้องหน้าทั้ง Super HDR, Portrait Bokeh, Face Beauty, Multi-Style Portrait เป็นต้น
Auto mode
HDR Off & HDR On
โหมด Super HDR สามารถถ่ายภาพย้อนแสงได้อย่างยอดเยี่ยม ปรับสมดุลสีสันของภาพอย่างแม่นยำ และเป็นธรรมชาติ
โดย Super HDR จะช่วยปรับสีสันแบบอัตโนมัติในส่วนของภาพที่สว่างเกินไป และปรับรายละเอียดให้คมชัดในส่วนเงามืด เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบทุกรายละเอียด
Face Beauty
กล้องหลัง vivo Y33T มาพร้อมโหมด Face Beauty ที่ให้คุณภาพดีไม่แพ้กล้องหน้า อีกทั้งยังค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดและยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น
Portrait Bokeh
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
และยังมาพร้อมโบเก้เอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานได้ 6 รูปแบบ ประกอบด้วย Default, Circle, Heart, Triangle, Star, Pentagon
Portrait Style
โหมด Portrait ของกล้องหลัง มี Style มาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Natural, Vintage, Northland, Fashion, Sumer Party, Japanese Style, Monochrome, Silver salt, Wet
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่าจุใจถึง 10 รูปแบบ
Portrait light effect
สำหรับกล้องหลังมี Portrait light effect มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าเช่นกัน โดยประกอบไปด้วย Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background
AI Super Night
โหมดปกติ
vivo Y33T มาพร้อม AI Super Night เวอร์ชันล่าสุด ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนมีความสว่างเก็บดีเทลและลดน้อยส์หรือสัญญาณรบกวนได้ดียิ่งขึ้น
บทสรุป
vivo Y33T มีความเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน โดยรอบนี้มีตัวเลือกสีทอง (Starry Gold) ที่ให้ฟิลลิ่งหรูหราพรีเมี่ยม ส่วนใครที่ชอบความเรียบง่ายก็ยังมีสี Mirror Black ให้เลือกใช้งานเหมือนเช่นเคย ในส่วนของขุมพลังเปลี่ยนมาใช้ชิปเซ็ตตัวแรงจาก Snapdragon 680 พร้อมอัปเกรดจอแสดงผลที่สมูทไหลลื่นขึ้นด้วยการรองรับรีเฟรชเรท 90Hz มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือรับชมคอนเทนต์ได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ในภาพรวม vivo Y33T ยังคงคอนเซ็ปต์ของซีรีส์ Y ไว้อย่างเหนียวแน่น เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่มาพร้อมความครบครัน ด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ให้สีสันสวยงามสมจริง และยังขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตทรงพลัง ตอบโจทย์การใช้งานรวมถึงเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม และยังจัดเต็มด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ผสานด้วยกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายรูปได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะกลางวันหรือยามค่ำคืน อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ข้ามวันด้วยแบตสุดอึดถึง 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W ใช้งานด้านบันเทิง หรือจะเล่นเกมก็ไม่มีสะดุดด้วยแรม 8GB + 4GB โดยขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 และที่สำคัญยังเปิดตัวด้วยราคาเดิมที่ 7,999 บาทเท่านั้น ส่วนสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คงเป็นเรื่องของการรองรับ 5G ที่ในซีรีส์นี้ยังมีไม่มากนัก แต่ถ้ามองถึงความครอบคลุมและใช้งานได้จริง แบบจบครบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็น โซเชียล เล่นเกม หรือถ่ายรูป vivo Y33T ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างเหลือเฝือครับ
ราคาและการวางจำหน่าย