รีวิว realme GT Master Edition เหนือระดับแห่งความเร็วไปกับจอ 120Hz, ชิป Snapdragon 778G 5G และชาร์จเร็ว 65W

 

ด้านการถ่ายภาพ

กล้องหน้าแบบ In-Display Selfie 32MP

realme GT Master Editon ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie เซ็นเซอร์ Sony IMX615 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล FOV 85° และรูรับแสงขนาด f/2.45 โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, การเพิ่มฟีลเตอร์แบบต่างๆ, สัดส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่นๆ สามารถถ่ายภาพในความละเอียดสูงสุด 6560 x 4928 พิกเซล

รวมทั้งรองรับ AI Beauty Mode, เอฟเฟกต์โบเก้ ฯลฯ พิเศษกับอัลกอริธึม Beauty Mode ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นสำหรับแต่ละเพศ ประเภทผิวที่แตกต่างกัน และรูปร่างและฟีเจอร์ใบหน้าที่แตกต่างกัน ให้คุณถ่ายเซลฟี่และเผยผิวธรรมชาติและละเอียดอ่อนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังรองรับโหมด HDR และรองรับระบบกันสั่น UIS Video Stabilization

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty 

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 15 แบบ

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%

สำหรับโหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 60%) โดยละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 15 แบบ

กล้อง AI หลัง 3 เลนส์ 64MP เซ็นเซอร์ Sony IMX682

realme GT 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ซึ่งได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Kodak แบรนด์กล้องเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 130 ปี พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, 25mm (wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.2″, ขนาดพิกเซล 0.7µm และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4.0″, ขนาดพิกเซล 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

โดยโหมดถ่ายภาพมาพร้อมอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย ด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมดการปรับแต่งฉากหลังด้วย AI, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน, โหมด 64MP, โหมด Starry, โหมด Dual-View Video, โหมด Slo-motion, โหมด Time-Lapse, โหมด Movie, โหมด Pro, โหมด Panorama, ระบบสแกนข้อความ โหมดมาโครพิเศษ และโหมด Street

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 9248×6936 พิกเซล (ุเมื่อถ่ายด้วยโหมด 64 ล้านพิกเซล) ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@30fps พร้อมซูมแบบออฟคิคอลได้ 5 เท่า และระบบกันสั่น UIS Video Stabilization

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty 

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 18 แบบ

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%

สำหรับโหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 60%) โดยละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 6 แบบ

นอกจากนี้กล้องหลังของ realme GT Madter Edition ยังมีโหมดถ่ายภาพ Street Photography พร้อมด้วยฟิลเตอร์ Street ซึ่งจำลองเอฟเฟกต์ฟิล์มจาก Kodak เพื่อให้เอฟเฟ็กต์ภาพมีความเปรียบต่างของสีที่ชัดเจน เพิ่มความคมชัดของภาพถ่ายแม้จับภาพในขณะสั่นด้วยฟังก์ชั่น DIS Snapshot และสามารถเปิดแอปกล้องเพื่อถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วในขณะหน้าจอปิดอยู่ผ่านฟีเจอร์ Quick Launch (กดปุ่มลดระดับเสียง 2 คร้ัง) 

อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์ Preset B&W Plus ใช้อัลกอริทึมลดการรบกวน เพื่อปรับปรุงแสงและเงา โดยเฉพาะในบริเวณที่มีแสงน้อย และฟิลเตอร์ Preset Dramatic ช่วยเพิ่มรายละเอียดของวัตถุ ทำให้ภาพถ่ายสามารถสื่ออารมณ์ได้ชัดเจนขึ้น

realme GT Master Edition ใช้อัลกอริทึม AI Portrait มาช่วยให้การถ่ายภาพดูสวยงามและมีมิติมากขึ้น จับโฟกัสของตัวแบบ และเบลอฉากหลังให้เนียนเป็นธรรมชาติ พร้อมการเบลอแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ภาพดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ได้แก่

  • AI Color Portrait ให้ภาพบุคคลมีสีสัน พร้อมเบลอฉากหลังเป็นโมโนโทน เพิ่มจุดเด่นให้กับบุคคลมากขึ้น
  • Neon Portrait เบลอภาพให้ดูเหมือนกับความฝัน เป็นแนวฟุ้งๆ ทำให้ภาพฉากหลังมีดวงโบเก้สวยงาม
  • Dynamic Bokeh ใช้ไดนามิกโบเก้เพื่อเน้นบุคคลให้หยุดนิ่งในขณะที่พื้นหลังมีความเคลื่อนไหว

โหมดฟิลเตอร์ Modern Gold

โหมดฟิลเตอร์ Cyberpunk

โหมดฟิลเตอร์ Flamingo

กล้อง realme GT Master Edition ยังมาพร้อม Night Filters ฟิลเตอร์กลางคืนยอดนิยมถึง 3 ตัว ได้แก่ Cyberpunk, Flamingo และ Modern Gold ช่วยเพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพกลางคืนยิ่งขึ้น

ช้าย ถ่ายด้วยโหมดปกติ ขวา ถ่ายด้วยโหมด Ultra Wide

โหมด Ultra Wide ถ่ายด้วยกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา เก็บรายละเอียดของฉากหลังได้ครบ

รองรับการโหมดถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Ultra Macro โดยสามารถถ่ายในระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร

โหมดปกติ

ซูม 5X

ซูม 10X

ซูม 20X

กล้องหลังของ realme GT Master Edition ยังรองรับการซูมแบบออฟติคอล 5 เท่า และซูมแบบดิจิทัล 20 เท่า

ภาพถ่ายด้วยโหมด 64MP 

ภาพถ่ายด้วยโหมด 64MP เมื่อนำมาขยายภาพยังคงชัดเจนอยู่

realme GT Master Edition ยังรองรับโหมดถ่ายวิดีโอแบบ Dual-View Video สามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน

อ่านต่อหน้า 4

 

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง

บทสรุป

realme GT Master Edition ถือเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นรองจาก realme GT 5G ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ตัวเครื่องสี Voyager Grey ที่ได้รับการออกแบบโดย Naoto Fukasawa นักออกแบบชื่อดังแห่งวงการอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น โดยด้านหลังของโทรศัพท์ใช้วัสดุที่ทำจากหนังวีแกน ดีไซน์แบบลูกคลื่นให้เหมือนกับกระเป๋าเดินทาง สวยสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผล Samsung AMOLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 120Hz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 778G 5G จับคู่กับ RAM สูงสุด 8GB รวมทั้งมีระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber และโหมด GT เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการเล่นเกม ทำให้มอบประสบการณ์การเล่นเกมได้อย่างทรงพลังแบบเต็มขั้น และรองรับการชาร์จเร็ว SuperDart 65W

ส่วนการถ่ายภาพติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล โดยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Kodak มาพร้อมโหมดถ่ายภาพแนวสตรีทเป็นครั้งแรก ทำให้สามารถโฟกัสได้แม่นยำกับการใช้ฟิลเตอร์ภาพถ่ายแนวสตรีท ซึ่งจะเห็นได้เฉพาะในกล้อง DSLR สำหรับถ่ายภาพแนวสตรีทเท่านั้น ขณะที่กล้องหน้าเซลฟี่แบบ In-Display ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX615 ก็ถ่ายได้สวยเป็นธรรมชาติ และคมชัดไม่แพ้กันอีกด้วย

ทั้งนี้ realme GT Master Edition มีให้เลือก 2 สี คือ Voyager Grey และ Daybreak Blue มาพร้อมกัน 2 ราคากับ 2 ความจุ ได้แก่

  • ความจุ8+128 GB มาในราคาเพียง 13,990 บาท
  • ความจุ8+256 GB มาในราคาเพียง 15,990 บาท

วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ realme Brand Shop ช่องทาง realme E-Commerce และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

K.ibelieveit
K.ibelieveit